“ถนนหอการค้าไทย” มีระยะทางสั้นๆแค่ 4กิโลเมตร แต่ปัจจุบันพื้นที่สองฝั่งถนนขนาด 6 เลนถือว่าเป็นทำเลทองของกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกที่มีมูลค่าการลงทุนมหาศาล โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรที่มีมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 30,000 ล้านบาท
ล่าสุด”ถนนหอการค้าไทย”ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดอสังหาฯด้วยการประกาศจับมือกันของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ระดับมหาชน 7ราย และบริษัทต่างชาติอีก 1ราย เตรียมพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์ใหม่บนที่ดินรวมๆกันกว่า 380 ไร่ทั้งสองฝั่งถนนภายในระยะเวลา 5ปีนับจากปีนี้ถึงปี 2571
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถนนหอการค้าไทย เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนชัยพฤกษ์และถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง (ถ.345) ระยะทาง 4 กิโลเมตร เป็นถนนที่บริษัทก่อสร้างขึ้นบนที่ดิน 80 ไร่ โดยใช้งบก่อสร้างไปประมาณ 400 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้เข้ามารวบรวมซื้อแปลงที่ดินในย่านนี้เมื่อช่วงกว่า 10ปีที่แล้วได้ประมาณ700 ไร่ และที่ดินอีกส่วนหนึ่งเป็นของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่วางแผนจะย้ายที่ตั้งมหาวิทยาลัยจากถนนวิภาวดีรังสิตมาตั้งอยู่ย่านนี้ แต่ปัจจุบันได้ชะลอแผนการสร้างมหาวิทยาลัยออกไปโดยไม่มีกำหนด
ปัจจุบันถนนหอการค้าไทยมีการเติบโตเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โรงเรียนนานาชาติ SISB นนทบุรี และธุรกิจร้านค้ามากมายตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งถนน โดยมีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรไปแล้วถึง 20 โครงการ จำนวนรวม 3,100 ยูนิต บนพื้นที่ 922 ไร่ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการภายใต้แบรนด์ดังของกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคที่ร่วมทุนกับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ จำนวน 537 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 18,400 ล้านบาท ส่วนกลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตท,กลุ่มแสนสิริ และกลุ่มเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น มีพื้นที่รวมกันประมาณ 334 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวมกันประมาณ 11,000 ล้านบาท
“เดิมแปลงที่ดินเวิ้งตรงกลางระหว่างถนนชัยพฤกษ์และถนน 345 เป็นพื้นที่เกษตรกรรมและเป็นที่ตาบอด ราคาซื้อขายเริ่มต้นไร่ละ 2 – 3 ล้านบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันราคาก้าวกระโดดไปถึงไร่ละ 10 กว่าล้านบาท แถมเมื่อช่วงกลางปี 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการปรับสีผังเมืองใหม่ ทำให้ถนนหอการค้าไทย จากเดิมที่เป็นพื้นที่สีเขียว หรือที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เปลี่ยนเป็นผังสีเหลือง หรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย ทำให้สร้างที่อยู่อาศัยหนาแน่นสูงได้ รวมถึงทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ได้”
นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากรถไฟฟ้าสีชมพูที่เพิ่งเปิดให้บริการ โดยมีระยะทางห่างจากปากซอยถนนหอการค้าไทยประมาณ 4กิโลเมตร และการขยายถนนชัยพฤกษ์เป็น10ช่องทาง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2567 นี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการคมนาคมเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะได้สะดวกขึ้น
จับตาอีก5ปีมูลค่าการลงทุนจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 3หมื่นล้านเป็น 5หมื่นล้าน
ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ไป การพัฒนาโครงการจัดสรรตลอดเส้นทางถนนหอการค้าไทยจะเป็นของกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 90 ไร่ ส่วนกลุ่มเอสซี แอสเสทฯ,พฤกษา,เอพี ไทยแลนด์,เซ็นทรัลพัฒนา และพราว เรียลเอสเตท จะมีพื้นที่รวมกันประมาณ 290 ไร่ ส่งผลให้มีพื้นที่พัฒนาโครงการรวมกันกว่า1,300 ไร่ จำนวนบ้านรวมกันประมาณ 4,600 ยูนิต มูลค่าโครงการทั้งหมด 50,000 ล้านบาท
สำหรับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีที่ดินบนถนนหอการค้าไทยที่รองรับการพัฒนาบ้านจัดสรรกว่า 600 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 20,500 ล้านบาท ปัจจุบันพัฒนาที่ดินไปแล้ว 537 ไร่ จำนวน 13 โครงการ มูลค่า 18,400 ล้านบาทมีสินค้าตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ 2ชั้น บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บ้านระดับลักชัวรี และอัลตร้าลักชัวรี ในจำนวนนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอยู่ 6 โครงการ จำนวน 1,520 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 14,150 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 4 โครงการ คือ เพอร์เฟค เพลส, เพอร์เฟค พาร์ค 2 โครงการ และเลค เลเจ้นด์ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มฮ่องกงแลนด์ ทาวน์โฮม 1 โครงการ คือ เดอะ เมทโทร และอาคารพาณิชย์พร้อมพักอาศัยอีก 1 โครงการชื่อมาร์เก็ต อเวนิว ที่กำลังจะเปิดขายเฟสที่ 2
ส่วนแปลงที่ดินที่เหลืออีก 90 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ มีทั้งอาคารพาณิชย์ ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนในชุมชนบนถนนสายนี้
ด้านนายมงกุฎ เตโชฬาร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอสซีฯเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯแรกๆ ที่เข้ามาพัฒนาโครงการบนถนนหอการค้าไทยตั้งแต่ปี 2561 จนถึงขณะนี้มีการพัฒนาโครงการไปแล้ว 3 โครงการ ในระดับราคา 10-30 ล้านบาท ปิดการขายไปแล้ว 1 โครงการคือ บางกอก บูลเลอวาร์ด เนื้อที่ 85 ไร่ จำนวน 270 ยูนิต ส่วนอีก 2 โครงการโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย คือ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ แจ้งวัฒนะ พื้นที่ 33 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,560 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 72 ยูนิต และโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ พื้นที่ 26 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 82 ยูนิต ทำยอดขายได้แล้วเฉลี่ย 70%ต่อโครงการ คาดว่าจะปิดการขายช่วงกลางงปี 2568
นอกจากนี้ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอีก 70 ไร่ วางแผนจะพัฒนาเป็นโครงการบางดอก บูเลอวาร์ด จำนวน 200 ยูนิตขึ้นไป จะเปิดขายช่วงปลายปี 2568
นายอาณัติ กิติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มแสนสิริได้ร่วมบุกเบิกพัฒนาโครงการจัดสรรบนถนนหอการค้าไทยมาตั้งแต่ปี 2560 โดยมีโครงการในโซนนี้ 2 โครงการ พื้นที่ 103 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ได้แก่ สราญสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เนื้อที่ 100 ไร่เป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 406 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท ราคาขาย 6-15 ล้านบาท ส่วนที่ดินด้านหน้าโครงการ 3 ไร่นำมาพัฒนาเป็นแบรนด์ Else ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ จำนวน 6ยูนิต โดยทั้ง2โครงการได้ปิดการขายไปหมดแล้ว
นายสรศักดิ์ เฉลิมไพโรจน์ Head of SBU–PS2 กลุ่มบ้านเดี่ยว บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า พฤกษาได้เข้ามาพัฒนาโครงการบนถนนหอการค้าไทยตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการภัสสร บ้านเดี่ยวระดับราคา 5–8 ล้านบาท ซึ่งปิดการขายภายในระยะเวลา 3ปี และโครงการเดอะ ปาล์ม บ้านเดี่ยวในระดับราคา 8–15 ล้าน จำนวน 170 ยูนิต เหลือขายอยู่ 10 ยูนิต คาดว่าจะปิดโครงการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้
นอกจากนี้ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่อีก 33 ไร่วางแผนจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์เดอะ ปาล์ม ระดับราคา 10-15 ล้านบาท อยู่ระหว่างการออกแบบและดีไซน์
3บริษัทอสังหาฯน้องใหม่บนถนนหอการค้าไทยพร้อมลุย
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ถนนหอการค้าไทย ถือเป็นถนนเศรษฐกิจสำคัญอีกเส้นทางหนึ่งและเป็นฮับของตลาดอสังหาฯโซนกรุงเทพฯตะวันตก ด้วยจุดเด่นของทำเลที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง โดยบริษัทได้วางแผนเปิดตัวโครงการ Grande Pleno แจ้งวัฒนะ-ราชพฤกษ์ บนที่ดิน 33ไร่ เป็นบ้านแฝดจำนวน 198 ยูนิต ขนาด 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 143-169 ตารางเมตร ราคาขาย 6 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท พร้อม Exclusive Clubhouse สระว่ายน้ำและฟิตเนส 24 ชั่วโมง กำหนดเปิดพรีเซลในวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้
นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มพราว เรียล เอสเตท เป็นบริษัทรายล่าสุดที่เข้ามาพัฒนาที่อยู่อาศัยบนถนนหอการค้าไทย โดยได้ซื้อแปลงที่ดินขนาด 79 ไร่อยู่ติดถนน 345 เมื่อช่วงปลายปี 2566ที่ผ่านมา ทำให้มีเส้นทางเข้า-ออกได้ 2 ทาง คือเข้าทางถนน 345 และถนนหอการค้าไทย โดยวางแผนจะเปิดตัวโครงการในปี 2568 ในระดับ Luxury – Ultra Luxury ใช้ชื่อโครงการว่า 345 Residences มูลค่า 3,700 ล้านบาท พร้อมนำ Proud Pillars ตั้งแต่การบริการ การออกแบบที่โดดเด่น และการสร้างสรรค์รูปแบบชีวิตที่กลมกลืนสอดคล้องกับบริบทของสิ่งแวดล้อมมากับโครงการด้ย โดยอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาแบบ
นายสงกรานต์ แสงอร่ามรุ่งโรจน์ Head of Residence Operation 5-8 บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมองเห็นศักยภาพถนนหอการค้าไทย ซึ่งเป็นทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก โดยกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาฯได้มีการพัฒนาศูนย์การค้าในพื้นที่ย่านนี้ไปแล้ว 2 แห่ง คือ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์กับเซ็นทรัล เวสต์เกต และมีที่ดินขนาด 75 ไร่ตั้งอยู่บนถนนหอการค้าไทยที่มีแผนพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับราคา 20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท พัฒนาโดย CPN Residence ขณะนี้อยู่ระหว่างถมดินและออกแบบบ้าน คาดว่าจะเปิดตัวโครงการได้ช่วงกลางปี 2568