Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

Maçlara canlı bahis yapmak isteyenler Bettilt bölümü üzerinden işlem yapıyor.

Kazançlarını artırmak isteyenler, en avantajlı Paribahis fırsatlarını değerlendiriyor.

Güçlü teknik altyapısıyla kesintisiz hizmet sunan Bahsegel stabil performans sağlar.

Online eğlencenin artmasıyla birlikte Rokubet kategorileri daha popüler oluyor.

จับตา ! นโยบายการเงินท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานนโยบายการเงิน ฉบับเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินและการประเมินภาวะเศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2562
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้มาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงประมาณการเดิม ขณะที่ระบบการเงินมีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจสร้างความเปราะบางให้กับเสถียรภาพของระบบการเงินในอนาคต คณะกรรมการฯ จึงมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปีในการประชุมวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 และ 26 มิถุนายน 2562 โดยเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและการไหลเข้าของเงินทุนอย่างใกล้ชิด สำหรับการลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงต่อไปยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลด้วยเครื่องมือที่หลากหลายทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม มาตรการกำกับดูแลรายสถาบันการเงิน (microprudential) และมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (macroprudential) ที่จะต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

ในระยะข้างหน้า ภายใต้ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นจากทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันจึงยังมีความเหมาะสม โดยคณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ เสถียรภาพระบบการเงิน และอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยเฉพาะผลกระทบของบรรยากาศการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงิน

1. เศรษฐกิจโลก

เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง เนื่องจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่รุนแรงขึ้นส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกและความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับลดลงเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในประเทศอุตสาหกรรมหลักจะเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่สำคัญในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ จึงปรับลดข้อสมมติอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าลงเป็นร้อยละ 3.0 ในปี 2562 และร้อยละ 2.8 ในปี 2563 อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจประเทศคู่ค้ายังมีโอกาสขยายตัวต่ำกว่ากรณีฐาน ตามความไม่แน่นอนของมาตรการ
กีดกันทางการค้าฯ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงโอกาสที่สหราชอาณาจักรอาจออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) ที่ปรับเพิ่มขึ้น

ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางส่วนใหญ่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในปี 2562 และปรับลดอีก 1 ครั้งในปี 2563 จากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในปี 2562 ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2563 รวมถึงจะดำเนินการเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงินผ่านมาตรการ targeted longer-term refinancing operations (TLTROs) เป็นครั้งที่ 3 สำหรับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงเป้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาวต่อไปอย่างน้อยจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สำหรับธนาคารกลางที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง บางแห่งเป็นธนาคารกลางที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลายครั้งในช่วงปีก่อน อาทิ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ขณะที่ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ อาทิ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) และธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI)

เงินทุนเคลื่อนย้ายในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (emerging markets: EMs) ผันผวน โดยเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกจาก EMs ในช่วงที่บรรยากาศการกีดกันทางการค้าฯ ทวีความรุนแรงขึ้นทั้งการประกาศขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการที่สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนจากเหตุผลด้านความมั่นคง อย่างไรก็ดี เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้า EMs โดยเฉพาะไทยและอินเดีย หลังจากธนาคารกลางของประเทศอุตสาหกรรมหลักมีทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลาย (dovish) มากขึ้น โดยไทยได้รับปัจจัยสนุนจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ชัดเจนขึ้นและการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นและพันธบัตรไทยของกองทุนต่างชาติตามการเพิ่มน้ำหนักตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ไทยในดัชนี MSCI และ JP Morgan

2. ภาวะการเงินและเสถียรภาพระบบการเงินไทย

ภาวะการเงินไทยยังมีแนวโน้มผ่อนคลาย สะท้อนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงโดยรวมที่ยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ EMs อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดการเงินไทยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นทรงตัวใกล้เคียงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะปานกลางถึงยาวปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงส่วนหนึ่งเพราะธุรกิจขนาดใหญ่ชำระคืนเงินกู้บางส่วนจากการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้แทน โดยการระดมทุนผ่านตราสารหนี้และตราสารทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่สินเชื่อภาคครัวเรือนขยายตัวต่อเนื่องในทุกประเภท ด้านเงินบาทต่อดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นจากสิ้นไตรมาสก่อน โดยเฉพาะช่วงหลังจากบรรยากาศการกีดกันทางการค้าฯ ที่รุนแรงขึ้นและสถานการณ์ทางการเมืองไทยชัดเจนขึ้น ดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง (REER) แข็งค่าขึ้นเช่นกัน ส่วนหนึ่งตามการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับสกุลคู่ค้าคู่แข่งส่วนใหญ่

ระบบการเงินไทยมีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจสร้างความเปราะบางให้กับเสถียรภาพระบบการเงินในอนาคต จาก (1) การก่อหนี้ของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นและความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนบางกลุ่มและธุรกิจขนาดเล็กลดลง (2) พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และ (3) ความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ อาทิ อุปสงค์ของต่างชาติในตลาดอาคารชุดไทยที่อาจปรับลดลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งอาจส่งผลให้ระยะเวลาการขายอาคารชุดคงค้างนานขึ้น สำหรับความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับการดูแลไปบางส่วนจากเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ปรับปรุงใหม่ (LTV) สะท้อนจากการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ชะลอการเปิดโครงการใหม่ ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในภาพรวมที่ค่อนข้างทรงตัว รวมถึงสถาบันการเงินมีแนวโน้มเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไปของผู้กู้รายเดิม

3. แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 3.3 และ 3.7 ในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในรายงานนโยบายการเงิน ฉบับก่อนจากอุปสงค์ต่างประเทศเป็นสำคัญ โดยปริมาณ
การส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลง ประกอบกับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเติบโตชะลอลงจากปีก่อน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นแรงสนับสนุนเศรษฐกิจแต่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม

มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในปี 2562 มีแนวโน้มไม่ขยายตัวจากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จากผลของมาตรการกีดกันทางการค้าฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งกระทบต่อปริมาณการค้าโลกและอุปสงค์ต่างประเทศ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าของไทยในระยะข้างหน้าจะยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบบางรายมายังไทย รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G ในหลายประเทศที่จะช่วยสนับสนุนการค้าโลกและการลงทุน อาจส่งผลดีต่อการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในระยะต่อไป

การส่งออกบริการมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงและต่ำกว่าคาด ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนที่ลดลง โดยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศในภูมิภาครวมถึงไทยมีแนวโน้มชะลอลง อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไป การขยายระยะเวลามาตรการยกเลิกค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (visa on arrival: VOA) ออกไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2562 รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มากขึ้น อาจช่วยชดเชยผลกระทบได้บางส่วน โดยรวมแล้วประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2562 และ 2563 จึงปรับลดลงอยู่ที่ 39.9 และ 41.3 ล้านคน ตามลำดับ

การบริโภคภาคเอกชนในปี 2562 ขยายตัวชะลอลงจากที่ขยายตัวสูงในปีก่อน แต่ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการที่มีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายภาครัฐที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการบริโภคของครัวเรือน อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนในระยะต่อไปจะยังได้รับแรงกดดันจากรายได้ครัวเรือนนอกภาคเกษตรที่เริ่มมีสัญญาณชะลอลงโดยเฉพาะภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกสินค้า และความเชื่อมั่นของครัวเรือนรายได้น้อยที่ปรับลดลงเพราะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง

การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากแนวโน้มการส่งออกที่ชะลอลงและความเชื่อมั่นในการลงทุนของธุรกิจที่ลดลง อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนในปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าปีนี้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่บางโครงการที่มีความชัดเจนเพิ่มขึ้น แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตมาไทยเพิ่มเติมโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าฯ รวมถึงความคืบหน้าในโครงสร้างพื้นฐานของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC)

การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดไว้ จากด้านการลงทุนเป็นสำคัญ โดยการลงทุนภาครัฐปรับลดลงทั้งในส่วนของรัฐบาลกลางตามความล่าช้าของการประกาศใช้ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ใช้เวลานาน รวมถึงการลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ปรับลดลงเช่นกันจากการเลื่อนแผนการลงทุนในบางโครงการ เนื่องจากการทบทวนการจัดทำสัญญา รวมถึงปัญหาการเข้าพื้นที่และการปรับแบบก่อสร้าง สำหรับด้านอุปโภคภาครัฐมีแนวโน้มชะลอลงเล็กน้อยตามรายจ่ายค่าตอบแทนบุคลากรที่มีแนวโน้มปรับลดลง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้เดิม โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและราคาอาหารสดมีแนวโน้มต่ำกว่าที่คาดตามข้อมูลจริงในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2562 ประกอบกับแรงกดดันด้านอุปสงค์มีแนวโน้มต่ำลง ขณะที่ราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะในปี 2562 จึงช่วยชดเชยให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่คาด คณะกรรมการฯ จึงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 และ 2563 ที่ร้อยละ 1.0 เท่ากัน และประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปี 2562 และ 2563 ที่ร้อยละ 0.7 และ 0.9 ตามลำดับ

ประมาณการเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่ากรณีฐาน จาก

(1) มาตรการกีดกันทางการค้าฯ ที่อาจรุนแรงขึ้น จนส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกชะลอลงกว่าที่คาดและส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย

(2) การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะในกรณีที่สหราชอาณาจักรอาจออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) รวมถึงปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของจีน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์

(3) การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของการเบิกจ่ายและการดำเนินนโยบายภาครัฐ

(4) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจชะลอลงกว่าที่คาดหากรัฐบาลจีนกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ อย่างไรก็ดี โอกาสที่เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวสูงกว่ากรณีฐานมาจาก
(4.1) เศรษฐกิจคู่ค้าที่อาจขยายตัวมากกว่าคาด หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม หรือในกรณีที่บรรยากาศการกีดกันทางการค้าฯ มีพัฒนาการดีกว่าคาด และ
(4.2) อุปสงค์ในประเทศที่อาจขยายตัวมากกว่าคาดจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและโครงการ PPP และการลงทุนภาคเอกชนที่อาจเกิดเร็วกว่าคาด รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่อาจทำได้มากกว่าที่คาด

หากรัฐบาลใหม่มีมาตรการเร่งรัดเบิกจ่ายหรือมีมาตรการที่ช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายภาคเอกชนเพิ่มเติม สำหรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังมีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่ากรณีฐานเช่นกัน สอดคล้องกับความเสี่ยงของประมาณการเศรษฐกิจและข้อสมมติราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
10 กรกฎาคม 2562

โพสที่เกี่ยวข้อง