ตัวโครงการอยู่บนถนนราชวิถีฝั่งถนนธนบุรี ก่อนถึงแยกบางพลัด ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีสิริธร เพียง 100 เมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเสร็จช่วงเวลาใกล้ๆกับตัวโครงการคือประมาณ ปี 2019 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเป็นเส้นที่วิ่งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ขนานกับเส้นสีม่วงซึ่งอยู่บนถนนสามเสนฝั่งพระนคร ตัวโครงการใกล้กับสถานีสิริธรมากกว่า แต่หากจะไปสถานีสามเสนก็เพียงข้ามสะพานกรุงธนบุรี (สะพานซังฮี้) ทั้งนี้แยกบางพลัดเองอาจจะเป็นสถานีเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน กับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชั่น-บางซื่อ อีกด้วย

 

 

ย่านจรัญสนิทวงศ์ – บางพลัด เป็นอีกย่านที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้า เมื่อทำการเปรียบโครงการ Urbano ราชวิถี กับโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆในย่านนั้น ถือได้ว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจกว่าโครงการอื่นในหลายๆด้านเลยนะคะ ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการอยู่ใกล้กับสี่แยกบางพลัด เป็นถนนฝั่งวิ่งเข้าเมือง ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสองสาย โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้กับแยกบางพลัดเหมือนกัน คือโครงการ Brix condo จรัญ 64 ซึ่งในทำเลที่ใกล้กันนี้เออบาโน่ เป็นคอนโดเซคเม้น High Class ในขณะที่ Brix เป็นคอนโดในเซคเม้น Main Class แน่นอนว่าราคาที่สูงกว่าย่อมหมายถึงวัสดุ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางย่อมได้มากกว่าแน่นอน  หรือถ้าเทียบในทำเลเดียวกัน เซคเม้นเดียวกัน จะเทียบได้กับโครงการ Life Pinklao  ราคาเริ่มต้นโครงการเออบาโน่อาจจะสูงกว่านิดหน่อย แต่ถ้าเทียบในราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรแล้วเออบาโน่ ต่ำกว่าเพราะโครงการทำห้องขนาดใหญ่กว่านั่นเอง และแม้จะอยู่ในทำเลย่านจรัญ-บางพลัดเหมือนกัน แต่เออบาโน่อยู่ตรงสี่แยกการเดินทางโดยรถยนต์ ไปได้หลากหลายเส้นทางมากกว่า ใกล้กับทางด่วนศรีรัชวงแหวนรอบนอก และทางพิเศษศรีรัชฝั่งพระนครมากกว่าโครงการ Life Pinklao ในขณะที่การเดินทางโดยรถไฟฟ้า Life อาจจะอยู่ใกล้กับสถานีบางยี่ขันของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แต่เออบาโน่อยู่ในรัศมีของรถไฟฟ้าถึงสองสายด้วยกันคือ สีน้ำเงินสถานีสิริธร และสีแดงอ่อนเส้นทางตลิ่งชันบางซื่อ เป็นสายที่จะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าเมืองไปฝั่งพระนครสู่สถานที่ราชการและแหล่งงานต่างๆ

 

ชื่อโครงการ   : Urbano Rajavithi เออบาโน่ ราชวิถี

Developer   : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งโครงการ   : ถนนราชวิถี  100ม. จากแยกบางพลัด และสถานีสิริธร

พื้นที่โครงการ    : 1-3-1.8 ไร่

จำนวนอาคาร   : 1 อาคาร

ที่จอดรถ   : 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

ลิฟต์  : ลิฟต์บริการ 3 ตัว และลิฟต์เซอร์วิช 1 ตัว

จำนวนยูนิต   : 323 ยูนิต และร้านค้า 2ยูนิต

เริ่มก่อสร้าง   : ปลายปี 2559

คาดว่าแล้วเสร็จ   : ต้นปี 2562

รูปแบบห้อง   :    1 Bedroom 30ตารางเมตร

2 Bedroom 47 – 47.5 ตารางเมตร

2 Bedroom 64.5 ตารางเมตร

ลักษณะห้องที่ได้  : ห้องเปล่า พร้อมวอลเปเปอร์ ชุดครัวและสุขภัณฑ์

ราคาห้องเริ่มต้น  : 2.9 ล้านบาท

 

ผังอาคารวางแนวขนานกับถนนราชวิถี เลี้ยวซ้ายจากถนนราชวิถีเข้าโครงการ ตรงเข้าไปจะเป็นถนนภายในโครงการสำหรับลูกบ้านที่จะเข้าไปจอดรถ สำหรับการจอดรับส่งลูกบ้านจะต้องเลี้ยวขวาอีกครั้ง จะมี Drop off ที่เชื่อมต่อกับ Lobby ห้องจดหมายจะอยู่ถัดเข้าไป สำหรับ Lift Lobby จะอยู่ในสุด เป็นการวาง Function การใช้งานจากพื้นที่เป็น Public Area เข้าไปสู่ Private Area ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านในโครงการมากที่สุด

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 – 24 แบบห้องที่มากที่สุดจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร มีห้องแบบ 2 ห้องนอน ปิดท้ายที่มุมปลายสุดทางเดิน ตัวอาคารจะเป็น Double Corridor กว้างขนาด 1.5 เมตร เดินสวนกันสองคนได้สบายๆ ลิฟต์จะอยู่ริมสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ห้องขยะและส่วน Service จะแยกส่วนออกไป ทำให้ไม่มียูนิตไหนเลยที่อยู่ตรงข้ามหรืออยู่ติดกับห้องขยะ

Facility ของโครงการเป็น Triple Facility 3 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 25 ขึ้นไป มีฟิตเนส เครื่องออกกำลังกาย และอุปกรณ์มากมายหลายเครื่อง เพียงพอต่อลูกบ้านในโครงการ พร้อมห้องล็อคเกอร์ และซาวน่าแยกชายหญิง ,Sky Lounge มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา, Cubic Hub เป็น Multipurpose Area ปรับเปลี่ยนการงานได้หลากหลายประเภท, Rooftop Garden ได้วิว 360 องศา มี CCTV และ Security ตลอด 24 ชม. ในราคาค่าส่วนกลาง 65 บาทต่อตารางเมตร และกองทุน 650 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น

 

ฟิตเนส เครื่องออกกำลังเกือบ 10 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์อื่นๆ ครบครัน

Sky Lounge เป็นกระจกรอบด้านทำให้มองเห็นวิวเมืองและเจ้าพระยาได้ทั้งหมด

ภาพจากโมเดล ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด 3 ชั้น สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool พร้อมด้วย พื้นที่สำหรับนั่งผ่อนคลาย Relaxing Deck

ภาพจากโมเดล ด้านหน้าโครงการ มี Drop Off  สำหรับรับส่งลูกบ้าน แยกกับถนนด้านหลังสำหรับเข้าตัวอาคารเพื่อจอดรถ

 

ห้องตัวอย่างของโครงการมีทั้งหมด 2 แบบ โดยแบบแรกเป็นห้อง 1 ห้องนอนขนาด 30 ตารางเมตร ซึ่งเป็น type ที่มีเยอะที่สุดในโครงการ และแบบ 2 ห้องนอนขนาด 47.5 ตารางเมตร เป็นรูปแบบที่มี การวาง Function ที่ไม่ค่อยเห็นและแตกต่างจากโครงการอื่นๆ โครงการขายห้องแบบ ห้องเปล่าให้ Wallpaper พร้อมชุดครัวบิวท์อิน ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.8 เมตร และพิเศษในชั้น 24 ความสูงจากพื้นถึงเพดานจะสูงถึง 3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่มากกว่าเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมในเซคเม้นเดียวกัน ชุดครัวที่บิวท์อินให้พร้อม hob hood  และ Oven เคาน์เตอร์ทั้งหมดเป็นหน้าบานเปิดปิด ระบบ Soft-close วัสดุ High Gloss พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 12 มิลลิเมตร

ห้อง 1 นอนขนาด 30 ตารางเมตร เป็นขนาดห้องที่ปัจจุบันเห็นอยู่มากในหลายโครงการ เป็นขนาดที่ไม่เล็กไปอยู่ 1 หรือ 2 คนกำลังสบาย และไม่ใหญ่ไปจนทำให้ราคาต่อหนึ่งห้องสูงเกินกว่าที่จ่ายไหวในแต่เดือน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มี กำลังผ่อนอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน การที่ห้องเป็นขนาดที่มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ทำให้ต้องทำเฉือนกันด้วยการวาง Function การใช้ห้อง ซึ่งพฤกษาก็ทำออกมาได้ดี วางเลเอาท์ให้สามารถแยกพื้นที่ Private Space อย่างห้องรับแขก กับห้องนอน ออกจากกันด้วยกระจกกั้น และหากเปิดกระจกก็ได้ห้องกว้างตั้งแต่ประตูถึงระเบียง แยกพื้นที่ครัวเป็นสัดส่วนทำให้ไม่มีกลิ่นอาหารเข้ามาในห้อง

ห้องตัวอย่างจัดไว้เป็นไอเดียให้พื้นที่ด้านหนึ่งของห้องเป็นชั้นวางทีวี และฝั่งตรงข้ามเป็นโซฟา ทำให้ได้ระยะดูทีวีกว้างขวาง วางทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วก็ยังดูแล้วสบายตา ในขณะที่จัดมุมนึงเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารพอดีสำหรับนั่งได้ 2 คน

สำหรับพื้นที่รับประทานอาหาร อาจไม่จำเป็นสำหรับบางครอบครัว หากคุณเลือกซื้อโต๊ะกลางแบบที่สามารถปรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ เป็นทั้งโต๊ะเตี้ยและโต๊ะสูงได้ จะทำให้คุณได้พื้นที่ที่จัดวางเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่โครงการวางไว้เป็นไอเดียเปลี่ยนการใช้งาน อาจจะบิวท์อิน เป็นชั้นรองเท้าและตู้เก็บของเพิ่มเติมได้อีก

ถัดจากพื้นที่ Living Area เป็นห้องส่วนของห้องนอน มีกระจกใสบานเลื่อนสองตอนเพื่อให้แยกกันอย่างเป็นสัดเป็นส่วน แต่ถ้าหากอยากได้พื้นที่กว้างขวางสามารถเปิดเพื่อให้เชื่อมถึงกันได้ สำหรับห้องนอนจะมีระเบียงที่ใช้งานได้จริงเพราะ ด้วย Product ของ Urbano จะทำระเบียงที่ไว้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์แยกกับระเบียงห้องนอนออกไป แบ่งฟังก์ชันการให้งานชัดเจน ให้คุณได้ใช้ระเบียงไว้สำหรับรับลมชมวิวจริงๆ

ปลายเตียงบิวท์อินไว้เป็นตู้เสื้อผ้าสูงใหญ่จรดพื้นถึงเพดาน และข้างๆกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้งจะสามารถติดแอร์ แบบ Wall Type ได้ 1 ตัวตรงมุมนี้ ถ้าหากเปิดกระจกกั้นห้อง ความเย็นจะสามารถกระจายได้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น สำหรับสาวๆ ที่มีเสื้อผ้าเยอะแบบที่มีตู้เสื้อผ้าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ อาจบิวท์อินตู้เสื้อผ้าเพิ่มจนสุดริมประตูกระจกก็ได้

มีการกดฝ้าลงมาเพื่อซ่อนรางแขวนม่านแล้วเรียบร้อยรอลูกบ้านมาติดม่านเท่านั้น

พื้นเป็นกระเบื้องลามิเนต 12 มิลลิเมตร ลายไม้สีน้ำตาลระหว่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องครัว เห็นขอบรางประตูกระจกอยู่ด้านบน

ชุดโซฟา แบบนั่ง 2 คน ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี และอาจเพิ่มบิวท์อินตู้รองเท้า และพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด เหมือนที่ห้องตัวอย่างทำไว้เป็นไอเดีย

สำหรับห้องครัว จะเป็นพื้นแยกออกมา มีประตูกระจกใสกั้นชัดเจน และกดพื้นห้องครัวให้ต่ำลงกว่าห้องนั่งเล่น เพื่อเวลาเช็ดล้างทำความสะอาดจะได้ไม่กระเด็นเปอะเปื้อน

ซิงค์เป็นอ่างเดี่ยวก้นลึก อาจจะต้องวางแผนกันซักหน่อยเวลาล้างจาน ก๊อกน้ำเป็นก้านบิดคันโยกเปิดง่ายถนัดมือ

ข้างๆซิงค์ล้างจานเป็นเตา 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Franki มีกระจกผนังกันละอองน้ำมันกระเด็น ได้มาเลยพร้อมกับชุดครัว

หน้าบานตู้เคาน์เตอร์ครัวเป็นลายไม้ top หินสังเคราะห์ มี Oven แบบฝังกับเคาน์เตอร์ให้มาเลยเช่นกัน

พื้นที่ทำสำหรับยืนทำอาหาร พอดิบพอดีสำหรับหนึ่งคน และยังเป็นทางเข้าออกไปสู่ระเบียงด้านที่เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์และเครื่องซักผ้า เป็นระเบียงที่แยกกับระเบียงห้องนอนชัดเจน

กั้นธรณีประตูสูงขึ้นประมาณ 15 เซนติเมตรจึงก่อขอบประตูกระจกบานสไลด์สองตอนเป็นประตูระเบียง

ด้านบนเครื่องซักผ้าเป็นที่วางของคอมเพรสเซอร์แอร์สองตัว

ห้องน้ำแบ่งโซนเปียกแห้ง อ่างล้างหน้าเป็นแบบ Free standing ใต้อ่างล้างหน้า จึงเพิ่มตู้เก็บของซึ่งเก็บเครื่องทำน้ำร้อน ยี่ฮ้อ Mazuma ให้มาเลยพร้อมกับห้อง พร้อมทำบิวท์อินที่ผนังให้หนาขึ้นเพิ่มที่วางของ

ด้านในสุดของห้องน้ำจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฝักบัวแบบ Rain Shower ให้มาพร้อมกันกับห้องเลย

ผนังข้างอ่างล้างหน้า มีปลั๊กสำหรับเสียบไดร์เป่าผม พร้อมฝาปิดเพื่อความปลอดภัย

ก๊อกน้ำติดผนังแบบคันโยกเปิดปิดจับถนัดมือ

ด้านในสุดเป็นห้องอาบน้ำ กั้นด้วยประตูกระจกบานผลักเข้า ฝักบัวเป็น Rain Shower อาบสบาย ของ GROHE แบรนด์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศเยอรมนี มีก่อผนังเพิ่มอีกชั้นเป็นที่วางขวดสบู่แชมพูไว้ให้แล้ว

พื้นที่สำหรับยืนอาบน้ำ ยืนสบายประมาณ 1×1 เมตร

 

ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นห้อง 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำขนาด 47.50 ตารางเมตร ห้องหน้ากว้างประมาณ 8 เมตร วางเลเอาท์เพิ่มพื้นที่การใช้งานเป็นมุมทำงานแบ่งห้องแยกห้องนอนสองห้องออกจากกันชัดเจน ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เปิดประตูเข้าห้องมาด้านซ้ายมือ จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ระยะระหว่างโซฟากับทีวีอาจจะน้อยกว่าห้องแรก แต่ก็ยังพอวางทีวีขนาด 50 นิ้วได้ คุณอาจบิวท์อินเพิ่มตู้หรือชั้นวางของบนเคาน์เตอร์ทีวี เพื่อให้มีที่เก็บของมากขึ้น

อีกด้าน จะเป็นพื้นที่ของครัวทรงตัว U ที่มีมาให้เลยพร้อมกับห้อง

ในขณะที่มองตรงเข้าไปจะเป็นประตูไประเบียงซึ่งผ่านพื้นที่ที่โครงการไกด์ไลน์ไว้ว่าจะทำเป็นมุมทำงานก็ได้ หรือคุณอาจเปลี่ยนเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารก็จะพอดีสำหรับนั่งได้ 2-4 คน สำหรับนักสะสมจะบิวท์อินตู้หนังสือ หรือสำหรับเก็บของสะสมที่คุณโปรดก็ได้อีกเหมือนกัน

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานสไลด์สองตอนมีธรณียกสูงจากพื้น

ก่อนออกไประเบียงมองย้อนกลับเข้ามาเป็นมุมทำงานที่น่ารัก

ระเบียง ถูกดีไซน์มาให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ซ่อนอยู่เหนือหัว ทำให้คุณได้ใช้งานพื้นที่ระเบียงทั้งหมด

เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร เป็นการใช้พื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณจะได้ปรับการใช้งานของโต๊ะทานข้าวเป็นเคาน์เตอร์สำหรับเตรียมอาหารได้ด้วย

อีกฝั่งของตัว U จะเว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นต้องวัดขนาดกันให้ดีก่อนซื้อ ข้างๆกันเป็นซิงค์ล้างจานรูปแบบเดียวกับห้องที่แล้ว

เคาน์เตอร์ครัวเตรียมปลั๊กสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปังหรือเครื่องชงกาแฟไว้ให้แล้ว ข้างกันเป็นเตาแบบ 2 หัวและที่ดูดควัน ใต้เคาน์เตอร์ มีไมโครเวฟแบบฝังให้มาเลย พร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวทั้งหมด

ห้องน้ำและสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้องแบบที่แล้ว แบ่งส่วนเปียกแห้ง ใต้อ่างล่างหน้ามีตู้สำหรับเก็บของ อยู่ข้างๆกับโถสุขภัณฑ์

ผนังติดกระจกยาวสุดขอบ ก่อผนังหนาขึ้นอีกชั้นเพื่อเป็นที่สำหรับวางอุปกรณ์ขวดโลชั่นสบู่แชมพูต่างๆในห้องน้ำ

โซนเปียก ฝักบัวยังคงเป็น Rain Shower เหมือนกับห้องแบบที่แล้ว กั้นด้วยประตูกระจกใสบานผลักเข้า แยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งของห้องน้ำ ด้วยการลดพื้นส่วนเปียกลงให้ต่ำกว่า

ห้องนอนใหญ่วางเตียงขนาดคิงไซท์ ก็ยังมีที่พอวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ และตู้เสื้อผ้าอีกหลังได้

ปลายเตียงยังมีที่วางพอให้บิวท์อินชั้นวางทีวี เพื่อพื้นที่เก็บของและยังมีที่เหลือปลายเตียงให้เดินสบาย

สำหรับห้องนอนใหญ่ไม่มีระเบียง แต่จะเป็นกระจกบานใหญ่เปิดรับแดดรับลมและวิวทิวทัศน์จากภายนอก

ในขณะที่ห้องนอนเล็กจะสามารถเดิกออกไประเบียงได้ เหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุตมากกว่าอย่างที่ห้องตัวอย่างใส่เตียงไว้ และหากจะติดทีวีด้วย แนะนำให้ใช้ทีวีแบบติดผนังจะดีกว่าเพราะพื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่กว้างมากนักพอให้เดินเท่านั้น

 

สำหรับย่านจรัญ-บางพลัด ที่กำลังเป็นย่านที่เป็นกระแสในช่วง 2-3 ปีมานี้ ก็เพราะจากรถไฟฟ้าขนส่งมวลชลสายสีน้ำเงิน ทำให้มีโครงการคอนโดเกาะกระแสรถไฟฟ้าเกิดขึ้นหลายโครงการ และ Urbano ราชวิถีก็เป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่อยู่ในย่านนี้เช่นกัน แต่มาที่หลังย่อมต้องทำให้ดีกว่า แน่นกว่า ดังกว่า น่าสนใจกว่าโครงอื่นๆ ในเรื่องของทำเลใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าถึงสองสถานี ดีกว่าโครงการอื่นๆเมื่อเทียบในเซคเม้นเดียวกันและถูกกว่าสำหรับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ความคุ้มค่าและวัสดุที่ใช้ดีกว่าเมื่อเทียบกับโครงการที่ได้คะแนนสูสีกันในเรื่องทำเล  ของที่ให้ในห้องค่อนข้างดี ได้ฝ้าสูง 2.8 เมตร และ 3 เมตรในชั้นบนสุด Facility และพื้นที่ส่วนกลางมาแน่น เพียงพอต่อลูกบ้าน 300 กว่ายูนิต สำหรับคนที่ชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าต้องปักมุดไว้เลย เพราะเป็นโครงการที่มี Roof Top สามารถชมได้วิวเจ้าพระยาตลอด 360 องศา แบบห้องและการวางฟังก์ชันห้องแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนดี ด้วยชื่อเสียงของพฤกษา ทำให้โครงการนี้เหมาะสำหรับ ทั้งนักลงทุนทั้งระยะสั้นเพราะโครงการมียูนิตไม่เยอะ หลังจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดใช้ พื้นที่บริเวณนี้คงราคาขึ้นไปจนแสนกลางๆต่อตารางเมตร และนักลงทุนระยะยาวที่กำลังหาคอนโดปล่อยเช่าด้วยเหมือนกัน อาจจะต้องลงทุนเงินอีกนิดหน่อย เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้องสำหรับปล่อยเช่า  แต่เป็นโครงการที่มองเห็นกลุ่มผู้เช่าชัดเจนคือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา จากหลายสถาบันการศึกษาในฝั่งพระนคร  ทั้งหมดนี่เป็นข้อสรุปที่บอกได้เพียงว่า Urbano ราชวิถี เป็นโครงการในย่านจรัญบางพลัดที่น่าสนใจมากกว่าโครงการอื่นๆ ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมไปไหน ลองขับรถไปชมห้องตัวอย่างได้ค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ urbano.pruksa.com/rajavithi โทร 1739