Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

Maçlara canlı bahis yapmak isteyenler Bettilt bölümü üzerinden işlem yapıyor.

Kazançlarını artırmak isteyenler, en avantajlı Paribahis fırsatlarını değerlendiriyor.

Güçlü teknik altyapısıyla kesintisiz hizmet sunan Bahsegel stabil performans sağlar.

Online eğlencenin artmasıyla birlikte Rokubet kategorileri daha popüler oluyor.

Yeni nesil bahis teknolojilerini kullanan paribahis güncel giriş sektöre yenilik katıyor.

Kullanıcılar güvenliklerini sağlamak için bettilt altyapısına güveniyor.

Bahis dünyasında teknolojiyi en iyi kullanan sitelerden biri paribahis olarak bilinir.

SCเผยจบดีลร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติQ4/61 ครึ่งปีหลังผุด15โครงการใหม่

เอสซีฯเผยใกล้ตกผลึกแผนร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติในไตรมาส4/61นี้ ด้านแผนซื้ออพาร์ตเมนต์ที่สหรัฐมารีโนเวทขายใหม่ เตรียมงบไว้แล้ว 1,000 ล้านบาท ระบุอีก 3ปีเล็งผุดโครงการสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมเปิดธุรกิจใหม่ผนึกกลุ่มโบรกเกอร์-ดีไซน์เนอร์ รับซื้อบ้านเก่าจาก3แบรนด์อสังหาฯปรับปรุงใหม่ขายต่อสร้างกำไร ครึ่งปีหลังประกาศเปิด 15โครงการใหม่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท  ส่วนสำนักงานแห่งที่4ชะลอแผนออกไป เหตุการแข่งขันสูง มีความเสี่ยงในการลงทุน

 

 

คาดแผนร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติสรุปผลQ4/61

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือSC เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยGDP โตถึงกว่า4% อีกทั้งหนี้ครัวเรือนก็ลดลง ผู้ประกอบมีการเปิดโครงการใหม่มีมูลค่ากว่า 184,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของSC นั้นมีอัตราการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไร ตามที่ตั้งเป้าไว้

 

ในด้านแผนการลงทุนนั้นบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในเอเชียรายหนึ่ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาฯและอีกหลายธุรกิจ ที่สนใจเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยร่วมกับบริษัทฯ ซึ่งมองว่าจะเป็นการต่อยอดการพัฒนาโครงการที่มีองค์ความรู้จากพันธมิตรมาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาโครงการให้มีความน่าสนใจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 4/2561

 

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้มองไปถึงการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติซึ่งบริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มความสนใจของลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะชาวจีน ฮ่องกงสิงคโปร์ และญี่ปุ่น ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติได้เพิ่มขึ้น ซึ่งตามเป้าหมายในปี 2563 บริษัทคาดหวังจะมีสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มเป็น 15% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติต่ำกว่า 10% ซึ่งลูกค้าของบริษัทยังเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก ซึ่งความชัดเจนของการร่วมกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกับพันธมิตรต่างชาติคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2562 ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจาและการมองหาซื้อที่ดินเพื่อนำมาพัฒนา

 

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในรูปแบบของอพาร์ตเมนต์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา  ที่ดำเนินการโดยบริษัทลูกคือ บริษัท เอสซี อัลฟ่า อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งSC ถือหุ้น 100%ขณะนี้ศึกษาการลงทุนคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในเมืองที่สนใจ เช่น บอสตัน และเมืองในโซนฝั่งชายทะเลตะวันออกของสหรัฐฯ โดยมีงบในการลงทุนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทและอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงแหล่งเงินทุนที่จะใช้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาทั้งในรูปแบบการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในไทยและในสหรัฐฯด้วย  คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในไตรมาส 4/2561 นี้

 

ทั้งนี้บริษัทมองเห็นโอกาสของการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 20% หากมีการซื้อมาแล้วนำไปขายต่อหลังจากที่รีโนเวทใหม่ และมีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปี อีกทั้งสหรัฐฯเป็นตลาดที่น่าสนใจหลังจากที่เศรษฐกิจได้เริ่มฟื้นตัวขึ้น และเป็นประเทศที่มีนักศึกษาและคนต่างชาติเข้าไปอยู่อาศัยอยู่มากทำให้มีความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และราคาอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้บริษัทสนใจเข้าไปลงทุน

 

ส่วนความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บนที่ดินย่านหลังสวน พื้นที่ 880 ตารางวา ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สโคปจำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 90% และอีก 10% ถือหุ้นโดยนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ โดยให้นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ เป็นผู้บริหารธุรกิจ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ เชื่อว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จราคาขายคอนโดฯจะขึ้นไปที่ 600,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไปอย่างแน่นอน คาดว่าจะเปิดตัวได้ในครึ่งปีแรก 2562

 

นอกจากนี้ภายในระยะ 3 ปีข้างหน้ายังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

อีกทั้งยังมีแผนร่วมทุนกับพันธมิตรในธุรโบรกเกอร์และกลุ่มดีไซน์เนอร์ เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ในการดำเนินธุรกิจซื้อบ้านเก่า ทำเลดีจากโครงการของ 3 อสังหาฯแบรนด์ใหญ่ มารีโนเวทใหม่และนำไปขายต่อ โดยจะต้องเป็นบ้านระดับราคา 3-8 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 หรือเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยบริษัทร่วมทุนจะทำตลาดให้ลูกค้าแบบครบวงจร รวมไปถึงจัดการเรื่องสินเชื่อแบงก์ให้ด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

 

ครึ่งปีหลังเปิดตัว15โครงการใหม่รวมมูลค่า 15,000ล้านบาท

สำหรับแผนดำเนินการในครึ่งปีหลัง 2561 จะเปิดตัวใหม่จำนวน 15โครงการใหม่ มูลค่า 15,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ  คือ โครงการ แชมเบอร์ส อ่อนนุช สเตชั่น  ราคา 3-5 ล้านบาท  มูลค่า 1,700 ล้านบาท โดยได้เปิดขายอาคารA ก่อน  ขณะนี้มียอดขายแล้ว 80-90% ส่วนอาคารที่เหลือที่จะเปิดขายในปลายไตรมาส3/2562 ซึ่งจะมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นเป็น130,000 บาท/ตารางเมตร

 

ส่วนที่เหลือจะเป็นแนวราบ จำนวน 14 โครงการ รวมมูลค่า 13,300ล้านบาทซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับราคา ใน 6 แบรนด์ คือ ระดับราคาตั้งแต่3-60 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ เดอะ เจนทริ เอกมัย-ลาดพร้าว,โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย, โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด ศรีนครินทร์-บางนา, โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9-2, โครงการ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา-เสรีไทย, โครงการ เวนิว ติวานนท์-รังสิต, โครงการ เวนิว เวสต์เกต(แบรนด์ใหม่), โครงการ เวนิว พระราม 9, โครงการ เพฟ ปิ่นเกล้า-ศาลายา และโครงการ เพฟ มอเตอร์เวย์-ฉะเชิงเทรา

 

ระดับราคา 2-10 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เวิร์ฟ ติวานนท์-รังสิต,โครงการ เวิร์ฟ พระราม 9, และโครงการ เวิร์คเพลส เพชรเกษม 81-2และระดับราคา 3-7 ล้านบาท  คือ โครงการวี คอมพาวด์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า (แบรนด์ใหม่) โดยโครงการที่จะเปิดในครึ่งปีหลังทั้งหมดจะแบ่งเป็นไตรมาส 3/2561 จำนวน 9 โครงการ และไตรมาส 4/561จำนวน 6 โครงการ จากครึ่งปีแรกที่เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 3โครงการ

ครึ่งปีแรกกวาดรายได้รวม6,652 ล้านบาทโต 44%

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯมีอัตราการเติบโตที่มากขึ้น โดยมีรายได้รวม 6,652 ล้านบาท เติบโต 44% (yoy) โดยรายได้หลักมาจากโครงการเพื่อขาย 6,223 ล้านบาท คิดเป็น 94%ของรายได้รวม ประกอบด้วย รายได้จากการขายโครงการแนวราบ4,522 ล้านบาท เติบโต 49% (yoy) ทั้งนี้เมื่อเทียบกับกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา การเติบโตของแนวราบมีความโดดเด่นใน 3 กลุ่ม ได้แก่บ้านหรูราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป เติบโต 67% ,บ้านราคา 8-20 ล้านบาท เติบโต 512%  ขณะที่ราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท เติบโต 132%

 

และอีกส่วนเป็นรายได้จากการขายคอนโดฯ จำนวน 1,701 ล้านบาทเติบโต 49% (yoy) เช่นกัน ส่วนใหญ่มาจากการโอนโครงการSALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน) 1,119 ล้านบาท และที่เหลือ582 ล้านบาท  มาจากคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่จากโครงการCHAMBERS (แชมเบอร์ส), CENTRIC (เซ็นทริค) และ THE CREST (เดอะเครสท์)

 

สำหรับกำไรสุทธิ จำนวน 704 ล้านบาท เติบโต 107% (yoy)  ด้วย 2สาเหตุหลัก คือ มีรายได้เติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง โดยเริ่มโอนคอนโดฯ SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน)         ในไตรมาส 2และรายได้จากการบริหารค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพดีขึ้น ทั้งด้านการตลาด ด้วยรายได้ที่เติบโต 49% แต่มีค่าใช้จ่ายการตลาดลดลง 13%โดยได้มีการทำ JBP (Joint Business Partner) กับ Google และใช้การตลาดออนไลน์สูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 100% พร้อมกับค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการแนวราบเฉลี่ยลดลง 15%

 

ด้านยอดขายรวมครึ่งปีแรกเท่ากับ 7,235 ล้านบาท โดยมาจากแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 70% และ 30%โดย ณ วันที่ 30มิถุนายน 2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวมเท่ากับ 41,711 ล้านบาท และ 26,583 ล้านบาทตามลำดับ

 

สำหรับแนวโน้มภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะสูงกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะยอดขายและรายได้เนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง 15 โครงการ มากกว่าครึ่งปีแรกที่เปิดไป 3 โครงการ ทำให้ยอดขายคาดว่าจะมากกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่รายได้ในครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรกเช่นเดียวกัน จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม Saladaeng One ที่มีการโอนเข้ามาต่เนื่องในไตรมาส 3/2561 และในช่วงปลายเดือนสิงหาคม-ต้นเดือนกันยายนนี้ จะเริ่มโอนโครงการ BEATNIQ สุขุมวิท 32 มูลค่า 4,000ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการโอนได้ประมาณ 25% ของมูลค่าโครงการถึงสิ้นปีนี้ และยังมีโครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบอื่นๆทยอยโอนเข้ามาหนุนรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จึงคาดว่าทั้งปี2561 ยอดขายและรายได้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้เท่ากันคือ 17,000 ล้านบาท

 

กลยุทธ์Re-invention 2020คืบหน้าตามแผน

นายณัฐพงศ์ กล่าวถึงกลยุทธ์ Re-invention 2020 ที่มุ่งสู่การเป็น Living Solutions Providerว่ามีความคืบหน้าไปแล้วตามแผน ดังนี้  1. ร่วมพัฒนาBaan Rue Jai  Application กับบริษัท ไฟร์ วัน วันจำกัด เพื่อสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ใกล้ชิดระหว่าง SC และชาว SC Family พร้อมให้ดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android ไตรมาส 4 นี้ โดย  2 feature สำคัญเป็นการแจ้งซ่อม และ One-on-One Conversation  ที่ชาว SC Family สามารถติดต่อ SC และติดตามสถานะงานซ่อมได้ทุกที่ตลอด 24 ชม. และหลังจากนี้จะมี featureใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาทุก ๆ ไตรมาส ผ่านวิธีคิดอย่างเข้าใจและรู้ใจผู้ใช้  (human-centric)

 

2.มีการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจหลากหลายใน ecosystem  นำร่องโดยการจัดสรรพื้นที่จำนวน 6 ไร่ บริเวณด้านหน้าของที่ดินบางกะดีจ.ปทุมธานี  ขนาด 240 ไร่ เพื่อพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัยและชุมชนในย่าน

 

3.เริ่มปรับปรุงพื้นที่กว่า1,500 ตารางเมตร  บริเวณชั้น 14  ณ อาคารชินวัตร 3 สำนักงานใหญ่ เป็น co-working space และ Future Labเพื่อส่งเสริมการทำงาน (co-creation)  ร่วมกับ Startup หรือกลุ่มพันธมิตรธุรกิจต่างๆ  คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 40-50 ล้านบาท และพร้อมเปิดใช้ได้ในไตรมาส 2/2562

 

4.ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำSlingshot Group ปรับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อรองรับการเติบโตในบริบทใหม่  สำหรับทุกคนในองค์กรและ คนรุ่นใหม่ที่จะเข้าร่วมงานกับ SC ในอนาคต

 

 

“บริบทใหม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของ landscape ในการทำธุรกิจ SC  จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน โดยเป็น Living Solutions Provider ผสานนวัตกรรมเข้ากับที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคต เราพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ เรียนรู้พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของมนุษย์ผู้อยู่อาศัย แต่ 2 สิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลง คือ คุณภาพสูง และ ความจริงใจจาก SC ” นายณัฐพงศ์ กล่าวในที่สุด

 

 

ชะลอพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งที่4การแข่งขันสูง-เลี่ยงความเสี่ยง

ด้านนายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือSCกล่าวว่า แผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2562 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 7,000 ล้านบาท และได้ใช้ซื้อที่ดินไปแล้ว 60% เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่ในปี 2562ส่วนที่ดินย่านหลักสี่ บนถนนวิภาวดี ของบริษัท ปัจจุบันชะลอแผนการพัฒนาอาคารสำนักงานแห่งที่ 4 ออกไป เนื่องจากมองว่าทำเลดังกล่าวยังมีความต้องการเช่าอาคารสำนักงานไม่มากนัก อีกทั้งมีการแข่งขันของอาคารสำนักงานให้เช่าบนถนนวิภาวดีที่เกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงยังไม่เปิดให้บริการ จึงมองว่ายังมีความเสี่ยงในการลงทุนอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งภายในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทฯจึงยังไม่มีแผนการลงทุนอาคารสำนักงานแห่งใหม่แต่อย่างใด

 

ส่วนการออกหุ้นกู้ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการพิจาณาแต่จะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุในครึ่งปีหลังนี้จำนวน 800 ล้านบาทแต่บริษัทฯยังมีวงเงินหุ้นกู้ที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นอยู่ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะพิจารณาออกหุ้นกู้ชุดใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้ โดยเบื้องต้นหุ้นกู้ชุดใหม่จะมีอายุ 3 ปี ซึ่งปัจจุบันแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มทยอยปรับเพิ่มขึ้นนั้น บริษัทฯจะต้องมีการบริหารต้นทุนการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯในปัจุบันเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 3% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนมาจากหุ้นกู้ 60% และเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 4% โดยการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทเพิ่มขึ้นได้บ้าง แต่ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เพราะบริษัทได้มีการวางแผนการใช้เงินไปล่วงหน้าถึง 3 ปีด้วย

 

สำหรับผลกระทบต่อลูกค้าของที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย หลังจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น มองว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้นที่เป็นเชิงจิตวิทยาที่ทำให้ลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจระยะหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าชาวไทยยังมีอยู่มากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่กระทบต่อการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯอีกด้วย เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทเป็นกลุ่ม Real Demand ซึ่งมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการอาศัยจริง และแนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทฯจะลดลง ซึ่งในครึ่งปีแรกอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการแนวราบลดลงมาอยู่ที่ 8% จากสิ้นปีก่อนที่ 10% ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการคอนโดมิเนียมแทบไม่มีเลย

 

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง