“ชินวะ” เปิดแผนลงทุนปี’62มูลค่า3พันล้าน เล็งปั้นโลว์ไรซ์ชิมลางก่อนกระจายทั่วกทม.

“ชินวะ กรุ๊ป” เจ้าของนวัตกรรมรูเนะสุ เปิดแผนลงทุนในไทยปี 2562 มูลค่า 3,000 ล้านบาท เน้นย้ำการปักหลักมั่นคงเพื่อก้าวย่างเติบโตแข็งแรง สานต่อที่อยู่อาศัยคุณภาพด้วยจิตวิญญาณญี่ปุ่นโดยแท้ เตรียมปั้นคอนโดโลว์ไรซ์ไพลอท โปรเจกต์ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก่อนกระจายทั่วกทม. พร้อมดันทริเปิ้ล เอส เซอร์วิส เร่งโอนโครงการรูเนะสุ ทองหล่อที่จะเริ่มโอนไตรมาส3

 


 

มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ  ชินวะ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้ามาลงทุนในไทยประมาณสองปี ด้วยการนำนวัตกรรม“รูเนะสุ” โดยใช้ซิกม่า บีม-ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวในโลกเพื่อกลับคานเป็นพื้น-กลับพื้นเป็นคาน เพื่อใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการ Death Space ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นถึง 25-40 % นโยบายการลงทุนในในปีนี้ยังคงเน้นการปูทางวางรากฐานให้หนักแน่นมั่นคง เพื่อก้าวย่างที่เติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรงในอนาคต โดยชูเอกลักษณ์จุดแข็งเทคนิคการก่อสร้างที่ทันสมัยของบริษัทแม่ เพื่อคงความเป็นคอนโดคุณภาพจิตวิญญาณญี่ปุ่นแท้ๆ ดังเจตนารมณ์ของชินวะ เนื่องจากมีบริษัทรับเหมาที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมก่อสร้างอยู่ในกลุ่มธุรกิจ โดยปีนี้จะมีการเปิดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ออกสู่ตลาดเป็นไพลอท โปรเจ็กซ์ รวมมูลค่าโครงการลงทุนปีนี้ประมาณ 3,000 ล้านบาท

 

 

“ประเทศไทยยังมีความน่าสนใจในการลงทุนของกลุ่มชินวะ กรุ๊ป ด้วยความพร้อมในหลายด้าน ทั้งตัวเลข “GDP” หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มีอัตราสูงสุดในรอบหลายปี รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนในด้านต่างๆของภาครัฐ จะเห็นว่าช่วงนี้รัฐบาลผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆอย่างต่อเนื่องและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อภาคลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต่อยอดให้มีการสร้างโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นผลดีต่อกลุ่มลูกค้าให้มีทางเลือกที่ดีและตรงใจมากขึ้น ชินวะเป็นกลุ่มทุนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 130 ปี การเข้ามาลงทุนในไทยนับเป็นก้าวแรกที่รุกตลาดต่างประเทศ จึงเน้นการปูรากฐานให้หนักแน่นแข็งแรง เพื่อก้าวย่างเติบโตอย่างช้าๆแต่มั่นคงแข็งแรง” มร.ยามาเบะกล่าว

 

ด้านนายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นโยบายของชินวะ ยังให้น้ำหนักกับทำเลสุขุมวิทตอนกลาง เพื่อตอบสนองโจทย์ลูกค้าชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นทำเลและกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทมีความถนัดสอดรับกับข้อมูลการวิจัยต่างๆ โดยทำเลดังกล่าวยังมีความต้องการและเป็นทำเลที่มีอัตราการปรับราคาเพิ่มขึ้น แผนการลงทุน ประกอบด้วย โครงการเร็น สุขุมวิท 39 (REN Sukhumvit 39) นอกจากนั้นในปีนี้บริษัทจะมีการทดลองตลาด โดยขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ในทำเลเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริเวณถนนศรีนครินทร์ บนที่ดินเกือบ 1 ไร่ สูง 7-8 ชั้น จำนวนไม่เกิน 100 ยูนิต ขนาดพื้นที่รวม 4,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มขายประมาณไตรมาส3 แม้เป็นโลว์ไรส์แต่ยังคงกิมมิกที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ของชินวะ ซึ่งภายหลังจะมีโครงการในลักษณะเดียวกันนี้กระจายในทำเลชุมชนทั่วไป เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กสามารถดำเนินการและปิดการขายได้เร็ว สำหรับปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากการโอนโครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 ที่จะเริ่มทะยอยโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสสาม ซึ่งบริษัทเตรียม       กลยุทธ์เร่งโอนด้วยทริเปิ้ล เอส เซอร์วิส (Triple S Service หรือ SSS Service ) ระบบการบริหารงานหลังงานขายที่ใช้ประสานนักลงทุนไทย-ต่างชาติ สำหรับผู้เช่าชาวญี่ปุ่นแบบ Life Time FREE ลดขั้นตอนช่วยเอเย่นต์และนักลงทุน เป็นบริการตลอดชีพไม่มีวันหมดอายุที่พร้อมดูแลเฉพาะลูกค้าชินวะเท่านั้น

 

“กลุ่มชินวะที่โอกาซ้า มีธุรกิจที่มีความหลากหลาย ทั้งบริษัทรับเหมา คอนโดมิเนียม เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ บ้านเดี่ยว โรงแรม ที่จอดรถ ออนเซน เป็นต้น การเข้ามาทำโครงการในไทยในอนาคตจึงจะมีความหลากหลายรองรับทุกเซ็คเม้นท์เช่นกัน นอกจากนั้นยังรวมถึงการขายนวัตกรรม“รูเนะสุ” ซึ่งตลาดที่มีความเป็นไปได้สูงที่สนใจให้นวัตกรรมของเราเข้าไปช่วยเติมเต็ม อาทิ สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น” นายวิชัย กล่าว

 

กลยุทธ์การพัฒนาโครงการบนที่ดินขนาด 1 ไร่ จะอยู่ภายใต้ “แม็กซิไมซ์แวลู่” หรือเพิ่มมูลค่าให้ที่ดินสูงสุดเฉลี่ย 20% โดยมองหาเจ้าของที่ที่มีที่ดินบนทำเลศักยภาพ แต่ไม่ต้องการขาย ขาดความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาอสังหาฯ ไม่รู้ข้อกฎหมาย การทำตลาด บริษัทจะเข้าไปพัฒนาให้

 

บริษัทฯยังเดินตามแผนงานที่วางไว้ 3 ปี ลงทุนรวม 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปีนี้ 3,000 ล้านบาท ปีหน้า 5,000 ล้านบาท พัฒนาอสังหาฯ ให้ครบทุกเซ็กเมนต์ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เพิ่ม รองรับการเติบโตในอนาคต และมองโอกาสในการลุยธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับบริษัทชินวะ ในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังมองทางสร้างการเติบโตด้วยการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ(M&A)หรือ เข้าไปเป็นผู้หุ้นใหญ่ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโดยใช้เงินลงทุนเกิน 500 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจด้วย และยังมีแผนจะขยาย know how หรือนวัตกรรมด้านด้านก่อสร้างในเอเชียใน 1-2 ทั้งใต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง โดยตั้งเป้ารายได้ต่อปี ประมาณ 100 ล้านบาท

 

โพสที่เกี่ยวข้อง