“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”ตอกย้ำกลยุทธ์ต่อยอดการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานทั้งในระดับโครงการและตัวบ้าน ประเดิมหกลุ่มบ้านระดับไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป ด้านทิศทางธุรกิจปี 2562 วางเป้าขายของกลุ่มบริษัทฯที่ 21,600 ล้าน เปิดโครงการใหม่รวม 20 โครงการ มูลค่า 38,400 ล้าน
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯว่า ในปี 2562 นี้บริษัทฯจะใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยด้วยการคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจังเริ่มตั้งแต่การเปิดตัวโครงการบ้านนวัตกรรมภายใต้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง ไปจนถึงการอยู่อาศัยได้อย่างสบาย และปลอดภัยจากปัญหามลพิษ โดยความร่วมมือกับ เซกิซุย เคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น บริษัทยังได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านพลังงาน ในการนำเทคโนโลยีด้าน Smart Energy ได้แก่ EV Wall Charger (เป็นผลิตภัณฑ์ที่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR และ ปตท.ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF
ชูก่อสร้างระบบพรีแฟบ –ลดขยะในโครงการ – ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
กลยุทธ์ดังกล่าวในเบื้องต้นจะนำมาใช้ในกลุ่มบ้านระดับไฮเอนด์ ราคาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป จากนั้นก็อาจจะขยายสู่กลุ่มสินค้าระดับต่ำลงมาแต่คงต้องพัฒนาและศึกษาในรายละเอียดเพื่อความเหมาะสม นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโครงการและหารือกับปตท. ในการนำเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน (Smart energy monitoring and management) โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ พลังงานหมุนเวียน เช่น Solar PV เพื่อนำมาให้บริการในโครงการของ
นายชายนิดยังกล่าวด้วยว่า บริษัทฯเดินหน้าต่อเนื่องในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี สร้างพื้นที่ทะเลสาบ อีก 3 แห่ง รวมเป็นพื้นที่ 183 ไร่ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในโครงการ มีแผนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโครงการ โดยเพิ่มต้นไม้เพื่อช่วยฟอกอากาศ การจัดการขยะภายในโครงการ โดยเพิ่มจำนวนบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบพรีแฟบ เป็น 80% ของจำนวนบ้านทั้งหมด หรือ 2,000 หลังในปีนี้ เพื่อลดปัญหาเศษวัสดุที่เกิดจากงานก่อสร้าง มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในโครงการ ด้านประหยัดพลังงาน มีแนวคิดอาคารประหยัดพลังงาน โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งคลับเฮ้าส์และสำนักงานขาย ผลิตไฟฟ้าจากแสง อาทิตย์เพื่อนำมาใช้ในอาคาร และเปลี่ยนหลอดไฟทั้งหมดเป็นหลอดประหยัดไฟ รวมทั้งติดตั้งโคมไฟถนนอัจฉริยะที่ทำงานอัตโนมัติ มีกล้อง CCTV ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์
เปิดตัวโครงการใหม่รวม 20 โครงการ มูลค่า 38,400 ล้านบาท
สำหรับแผนงานในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้าขาย 21,600 ล้านบาท ประกอบด้วย
- เป้ายอดขายของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค อยู่ที่ 20,500 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 12,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 7,000ล้านบาท และคอนโดประเทศญี่ปุ่น 1,500 ล้านบาท
- เป้ายอดขาย แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งไว้ที่ 1,100 ล้านบาท
การเปิดโครงการใหม่ ปี2562 พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผนเปิด 17 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- เป็นแนวราบ 16 โครงการ 18,000 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม 1 โครงการ 2,000 ล้านบาท
ส่วนแกรนด์ แอสเสทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่า 18,300 ล้านบาท แบ่งเป็น
- เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท
- โครงการวิลล่าจังหวัดระยอง มูลค่า 2,300 ล้านบาท
ในปี 2562 บริษัทฯเตรียมออกหุ้นกู้ 2 ครั้งในไตรมาส 2 – 3 มูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้ชุดแรกที่จะหมดอายุในเดือนพฤษภาคม 2562 มูลค่า 3,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ชุดที่ 2 จะหมดอายุในเดือนกันยายน 2562 มูลค่า 1,600 ล้านบาท
นอกจากการเปิดตัวโครงการบ้านนวตกรรมระบบโมดูลาร์ ภายใต้ความร่วมมือกับ เซกิซุย เคมิคอล ในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมกันใน 4 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และรัตนาธิเบศร์ รวมมูลค่า 2,200 ล้านบาท ในไตรมาส 4 บริษัทยังจะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ภายใต้ความร่วมมือกับ ฮ่องกง แลนด์ ทำเลแจ้งวัฒนะ มูลค่า 10,000 ล้านบาท และ ทำเลบางนา มูลค่า 5,000 ล้านบาท
ด้านโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ได้แก่ โครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ อนโดมิเนียมไฮเอนด์ มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท กำหนดเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ และ มีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเจริญนคร มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2562 อีกด้วย
สำหรับประมาณการรายได้ของกลุ่มบริษัทปีนี้ ตั้งไว้ที่ 27,555 ล้านบาท ประกอบด้วย
- รายได้ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 20,000 ล้านบาท
- รายได้ของ แกรนด์ แอสเสทฯ 1,100 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรม 4,500 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดิน 1,740 ล้านบาท และ จากธุรกิจให้เช่าอีก 215 ล้านบาท
ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า ซึ่งปีนี้ กลุ่มบริษัทฯมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ถึง 32.29% หรือ 6,813 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัท ปีนี้ประมาณการรายได้จากธุรกิจโรงแรมจะเพิ่มขึ้นจากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ซึ่งได้รับผลดีจากการเปิดตัวของไอคอนสยาม นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท อย่างเป็นทางการของในเดือนมีนาคมนี้ พร้อมทั้งยังมีการเปิดบริการห้องอาหารรูฟท็อป และเน้นธุรกิจ MICE เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม
ร่วมโครงการ “บ้านล้านหลัง”ติดปัญหาต้นทุนที่ดิน
ส่วนการเข้าร่วมกับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ในโครงการ “บ้านล้านหลัง” ด้วยโครงการคอนโดมิเนียมราคาพิเศษ “อยู่รวยคอนโด”นั้น คงทำเพียงโครงการเดียว เนื่องจากติดปัญหาด้านต้นทุนที่ดินที่สูง ไม่คุ้มกับการลงทุน โดยตั้งอยู่บนถนนนวมินทร์ ซอย 135 พื้นที่โครงการประมาณ 12 ไร่ เป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น จำนวน 10 อาคาร รวม 2,461 หน่วย โดยบริษัทฯได้พัฒนาเป็นห้องชุดพิเศษขนาด 22 ตร.ม. พร้อมเฟอร์นิเจอร์ เปิดขายทุกชั้นในราคาเดียว 899,000 บาท คาดว่าจะเข้าอยู่ได้เดือนตุลาคม 2562
ทั้งนี้จะต้องเป็นไปตามมีเงื่อนไขทำสัญญาและผ่อนดาวน์กับโครงการเพียงเดือนละ 3,500 บาท ในกรณีที่ผู้ซื้อได้รับสิทธิ์สินเชื่อโครงการ “บ้านล้านหลัง” จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ สามารถกู้ได้ในระยะเวลาสูงสุด 40 ปี สำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 25,000 บาท จะผ่อนชำระกับธนาคารในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก 3.00% ต่อปี ผ่อนเพียงเดือนละ 3,500 บาท ขณะที่ผู้ที่มีรายได้มากกว่าเดือนละ 25,000 บาท สามารถผ่อนในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ได้เป็นเวลา 3 ปี โดยเงื่อนไขดังกล่าวเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลแต่ละบุคคลตามหลักเกณฑ์ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนด
