“ศุภาลัย” ลุ้นโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ที่จะเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการ 25-26 พ.ค.นี้ ดันยอดขายรวมบริษัทฯครึ่งแรกของปี 2562 ได้ตามเป้าหมายราว 17,000-18,000 ล้านบาท หรือ 50 % ของยอดขายรวมทั้งปีที่ 35,000 ล้านบาท พร้อมเร่งรัฐบาลประกาศนโยบายอุ้มธุรกิจ แก้ปัญหากค้าชะลอการตัดสินใจ
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า จากการเตรียมเปิดขายโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2562 จะช่วยผลักดันยอดขายรวมของบริษัทฯในครึ่งแรกของปี 2562 ประมาณ 17,000-18,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50 % ของเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 35,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนสาทร บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ (เดิมเป็นที่ดินสถานทู ออสเตรเลีย)ภายในโครงการประกอบไปด้วย ร้านค้า สำนักงาน ส่วนอาคารที่พักอาศัยจำนวน 1 อาคาร สูง 56 ชั้น จำนวน 787 ยูนิต ประกอบด้วย ห้องพักอาศัยแบบ 1-4 ห้องนอน และ Skyline Penthouse ขนาด 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 42-970 ตารางเมตร ราคาขายต้นที่ประมาณ 9-280 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ประมาณ 200,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการจะเริ่มการก่อสร้างในปี 2562 นี้และคาดว่าการโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2567
![]()
ที่ดินที่พัฒนาโครงการ ศุภาลัย ไอคอน สาทร เดิมเป็นที่ตั้งสถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย โดยศุภาลัย ชนะการประมูลมาในราคาประมาณ4,000 ล้านบาท หรือราคาประมาณ 1.45 ล้านบาทต่อตารางวา บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดประมูลหลังจากชนะการประมูล ด้วยศักยภาพทำเลถนนสาทร ที่เรียลซีบีดี ที่มีความเจริญก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในใจกลาง กรุงเทพฯ และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ บริษัทฯจึงได้เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและได้วางแผนการออกแบบก่อสร้างอาคาร LANDMARK แห่งใหม่บนถนนสาทรเพื่อตอบความต้องการในที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะคนที่ทำงานในทำเลสาทรซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 2 แสนคน
พร้อมกันนี้ยังได้มีการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ภายในโครงการเพื่อเป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า เช่น การติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของการเดินสายไฟฟ้าภายนอกอาคารเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการจ่ายไฟฟ้าให้มีความมั่นคง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาไฟฟ้าดับได้อีกด้วย
พร้อมกันนี้ นายไตรเตชะ ยังกล่าวให้ความเห็นว่า บริษัทฯเห็นด้วยที่รัฐบาลมีนโยบายจะออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนค่าธรรมการโอน การจดจำนองและภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งหากจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือควรรีบประกาศใช้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ เพราะหากดำเนินการล่าช้ามีเพียงแต่กระแสข่าวออกมาอาจทำให้ประชาชนชะลอการตัดสินใจซึ่งไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจ ปัจจุบันศุภาลัยมีสินค้า inventory กว่า 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 10,000 ล้านบาท และ เป็นแนวราบ 4,000 ล้านบาท





