เป็นที่พูดถึงกันมาตลอดว่านิยามของความ Luxury หรือความหรูหรานั้น คืออะไรซึ่งผู้พัฒนาโครงการส่วนใหญ่มักนิยามความหรูหรา กันว่าคือโครงการที่ต้องใช้แต่ของราคาแพงๆ สเป็ควัสดุที่แพงและหายาก หรือใส่อะไรต่ออะไรเข้ามาในโครงการให้ดูแพงๆเอาไว้ก่อน แต่สำหรับ Grand Unity เมื่อโจทย์ในการพัฒนาการโครงการ Anil Sathorn 12 โครงการที่อยู่บนที่ดินที่สุด Premium บนถนนสาทร ความ Luxury จึงต้องถูกตีความกันใหม่ให้แตกต่างไปจากที่เคยมีมา
ที่ดินติดถนนสาทรเรียกได้ว่าแทบจะหาไม่ได้แล้วในยุคนี้แต่แกรนด์ ยูนิตี้ ได้คว้าที่ดิน 1-2-41.30 ไร่ ติดถนนสาทร ซึ่งเดิมคืออาคาร Double A Book Tower บริเวณช่วงปากซอยสาทร12 มาได้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นทำเลที่สุด Premium เพราะทั้งติดถนนใหญ่สาทร และติดสถานีรถไฟฟ้าBTS ศึกษาวิทยา ที่วันนี้มีแผนการก่อสร้างขึ้นมาอย่างชัดเจนเรียบร้อยแล้ว ความ Premium ของถนนสาทร ที่เรียกได้ว่าเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่มีความเจริญมาแต่ไหนแต่ไร สาทรคือ Real CBD ของกรุงเทพ เป็น Financial District ที่เราเห็นที่ตั้งของสำนักงาน บริษัทการเงิน การลงทุนชั้นนำทั้งของไทยและต่างชาติได้มากมายตลอดเส้นถนนแห่งนี้ นอกจากนี้เราก็ยังได้เห็นทั้งโรงแรมห้าดาว สถานทูต รวมถึงคอนโดมิเนียมระดับ Luxury มากมายบนถนนสาทรที่ยืนยันได้ถึงความ Premium ของถนนเส้นนี้ เมื่อ Grand Unity ตัดสินใจพัฒนา Anil Sathorn12 ขึ้นมา จึงต้องทำการบ้านให้หนักขึ้นเพื่อการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เหนือกว่าคู่แข่ง ซึ่งแน่นอนทุกคนต้องขายความ Luxury หรือความหรูหรา บนทำเลที่แสนจะพรีเมี่ยมแบบนี้ แต่ความ Luxury ในมุมมองของ Grand Unity นั้นจะต้องแตกต่างและเหนือขึ้นไปอีกขั้นกว่าใครๆ เพราะทราบมาว่า Grand Unity มีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการบนเหตุผลการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย WELL Building Standard จึงถูก Apply เข้ามาใช้เป็นหัวใจหลักของแนวทางในการพัฒนาโครงการ Anil Sathorn12 เพื่อสร้างนิยามใหม่ของคำว่า Luxury ที่สามารถจับต้องได้และอยู่ในวีถีชีวิตของผู้พักอาศัยจริงๆ
WELL Building Standard คืออะไร มันสำคัญแค่ไหนกับผู้อยู่อาศัย
ทำความเข้าใจกับ WELL Building Standard กันก่อน ซึ่ง WELL Building Standard นี้เป็นมาตรฐานอาคารที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยสถาบัน IWBI หรือ International Well Building Institute จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการกำหนดมาตรฐานของอาคารให้เป็นมิตรของสุขภาพของผู้ที่ใช้ชีวิตและอยู่อาศัยในอาคาร ซึ่งมีตั้งแต่อาคารสำนักงาน, รีเทล, ร้านอาหาร, อาคารเรียน รวมถึงอาคารพักอาศัย IWBI ก่อตั้งเมื่อปี 2014 และมีการพัฒนามาตรฐานอยู่ตลอดเวลา จนถึงวันนี้ WELL Building Standard ได้วางกรอบแนวคิดมาตรฐานเพื่อผู้อยู่อาศัยอยู่บน 7 แกนหลักคือ
AIR (คุณภาพอากาศ)
คุณภาพอากาศภายในอาคารต้องให้ได้มาตรฐาน ช่วยปกป้องอากาศที่เป็นมลพิษได้ ซึ่ง Anil Sathorn12 ทางโครงการได้เริ่มวางแผนได้ตั้งแต่การออกแบบระบบการเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในอาคารให้ได้ผ่านตามมาตรฐาน (ASHRAE) ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนห้องพักอาศัย รวมถึงการป้องกันอากาศเสียจากภายนอกอาคาร โดยการติดตั้งระบบ ERV หรือ Energy Recovery Ventilation ทีมีแผ่นกรองอากาศที่ผ่านตามมาตรฐาน (MERV13) ที่สามารถป้องกันฝุ่นละลอง PM2.5 ได้อย่างแน่นอน และมีการออกแบบเพื่อป้องกันความชื้นที่จะเข้ามาภายในอาคารอีกด้วย ซึ่งทาง WELL มีการตรวจสอบรับรองคุณภาพอากาศก่อนการส่งมอบและเปิดใช้อาคารจริงๆ
Water (คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้)
คุณภาพของน้ำทั้งหมดภายในโครงการจะต้องได้มาตรฐานปราศจากสารตะกั่วที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นน้ำใช้หรือน้ำดื่มโครงการเลือกใช้วัสดุท่อน้ำที่ปราศจากสารตะกั่ว รวมถึงการติดตั้งระบบกรองน้ำดื่มในห้องพักอาศัยที่สะอาดและระบบน้ำดื่มในพื้นที่ส่วนกลางจาก 3M ทั้งหมดตามมาตรฐาน WELL Building Standard โดยทาง IWBI จะมีการเก็บตัวอย่างน้ำจากที่โครงการไปตรวจสอบ ตามค่ามาตรฐานที่กำหนด
Nourishment (สุขภาวะทางด้านอาหาร)
ด้านการจัดเตรียมอาหารนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ซึ่งทางโครงการได้เลือกใช้ทั้งวัสดุอุปกรณ์และออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งาน อาทิการเลือกใช้อ่างล้างจานแบบ 2 หลุม ที่สามารถแยกลักษณะการใช้งานทั้งล้างผัก ผลไม้ เพื่อเตรียมอาหารได้โดยไม่ปะปนกันกับอ่างที่ใช้ล้างจานและเครื่องครัวที่เปรอะเปื้อนได้ อีกทั้งยังมีการคำนวณระยะห่างของก๊อกน้ำ เพื่อให้ใช้งานได้ดีที่สุด หรือการเตรียมชุดประกอบอาหารที่ช่วยคงประโยชน์ของคุณค่าทางอาหารอย่าง Steam Oven ที่ช่วยให้ทำอาหารได้อย่างสนุกและคงคุณค่าทางโภชนาการ
Light (สุขภาวะทางแสง)
เรื่องของแสงสว่างภายในอาคารอาจจะดูเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแต่สำหรับ WELL Building Standard นั้น แสงคือสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อนาฬิกาชีวิตที่สั่งการระบบภายในร่างกาย Anil Sathorn12 จึงใส่ใจในการออกแบบรายละเอียดจุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นที่ให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเหมาะสม และการเลือกใช้ Material อาทิ หลอดไฟประหยัดไฟที่มีค่าแสงบาดตา (Glare) ผ่านตามมาตรฐานทางยุโรป (UGR<19) พร้อมทั้งออกแบบค่าความสว่างให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการออกแบบช่วงเวลาการนอนผักผ่อนของผู้พักอาศัย โดยอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคทุกชนิดที่ติดตั้งในห้องนอนเป็นแบบไม่มีแสงไฟ และการติดตั้งผ้าม่านแบบ Black Out Shade ที่ช่วยป้องกันแสงจากนอกห้องนอน และมีการคำนึงถึงความปลอดภัยโดยการติดตั้ง Motion Sensor ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดไฟนำทางอัตโนมัติในยามตื่นมากลางคืน นี่คือรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญอย่างยิ่งที่โครงการได้จัดเตรียมให้ลูกบ้านทุกคน
Fitness (สุขภาพและความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย)
ถ้าพูดว่าคอนโดมิเนียมยุคใหม่ที่ไหนๆก็มีฟิตเนสทั้งนั้น มันจะแตกต่างกันอย่างไร แต่ในมุมของของ WELL Building Standard นั้นไม่ได้มองแค่ว่าสร้างฟิตเนสในโครงการแล้วก็จบ การสร้าง Environment กระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โครงการจึงสร้างบรรยากาศรอบโครงการให้ผู้พักอาศัยเกิดความอยากออกกำลังกายหรือ สามารถออกกำลังกายได้โดยสะดวกมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมอุปกรณ์การออกกำลังกายในจำนวนที่เหมาะสม หรือบรรยากาศในการออกกำลังกาย กระตุ้นให้เกิดการเดินออกกำลังกายและจุดพักผ่อนเมื่อออกกำลังก็สำคัญไม่ต่างกัน
Comfort (ความสบาย)
ถ้าพูดถึงความสบาย IWBI ได้ทำการศึกษาถึงองค์ประกอบที่ทำให้มนุษย์เรารู้สึกถึงความสบาย นั่นคือ อุณหภูมิ , ความชื้น ,และความเร็วลมที่กระทบกับผิวหนัง ซึ่งทางโครงการจำเป็นต้องออกแบบโครงการโดยคำนึงถึงการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ และความเร็วลม ให้ได้ตามมาตรฐาน (ASHRAE55) ทั้งนี้รวมถึงการควบคุมเสียงจากภายนอกอาคารโดยการเลือกใช้กระจกคุณภาพสูงที่ช่วยลดเสียงรบกวนและเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเสียงรบกวนน้อยมาติดตั้งใช้งานในโครงการ
Mind (สุขภาวะทางจิตใจ)
สุขภาวะทางจิตใจ เป็นเรื่องที่เหมือนกับสิ่งที่จับต้องได้ยาก เป็นในมุมผู้พัฒนาโครงการ การออกแบบที่ดีผสมผสานการใช้ชีวิตในแบบคนเมืองเข้ากับความสุขสงบในแบบธรรมชาติก็ช่วยให้ผู้พักอาศัยได้ผ่อนคลายทั้งทางร่างกายและจิตใจ ความโปร่งโล่งก็เป็นอีกข้อกำหนดหนึ่งที่โครงการ Anil Sathorn12 ให้ความใส่ใจ โดยการออกแบบความสูงพื้นถึงฝ้าถึง 3 เมตร ซึ่งมากกว่าที่มาตรฐานกำหนดที่ 2.7 เมตรเสียอีก อีกทั้งการจัดเตรียม Art Work zone ที่เติมเต็มไปด้วย Sculpture งานศิลปะที่ช่วยให้ลูกบ้าน Anil Sathorn12 ได้มาปลดปล่อยจิตนาการเสพงานศิลปะให้เพลิดเพลิน
ด้วยเกณฑ์และข้อกำหนดทั้ง7 แนว และมาตรฐานการตรวจสอบที่มากกว่า 100 Features ที่ทาง IWBI ต้องตรวจสอบก่อนที่จะประเมินว่าทางโครงการจะสามารถผ่านและได้รับ WELL Building Standard นี้หรือไม่ Grand Unity จึงมีความมุ่งมั่น และมั่นใจว่าจะสามารถเป็นโครงการ Residential รายแรกของประเทศไทยที่สามารถได้ผ่านการรับรอง WELL Building Standard จาก IWBI โดยปัจจุบัน ANIL Sathorn 12 เป็นโครงการแรกในประเทศไทย ที่ได้ผ่านมาตรฐาน WELL Precertification ในประเภทโครงการที่พักอาศัย ซึ่งเป็นการตรวจรับรองคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ นี่เองคือนิยามใหม่ของ ความ Luxury ที่ Anil Sathorn12 นั้น ได้กำหนดและพยายามทำให้เป็นจริงให้ได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่อยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ไม่แค่เพียงในวันที่อาคารเสร็จแต่เพียงเท่านั้น โครงการยังจำเป็นต้องกำหนด Guide Line ในการดูแลและรักษามาตรฐานให้กับนิติบุคคลที่จะเข้ามาดูแลอาคารต่อๆไปอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามตามแนวทางของ WELL Building Standard ที่ดูมากกว่าการออกแบบแต่ต้องครอบคลุมไปถึงขั้นตอนการเข้าใช้และบริหารอาคาร
ANIL Sathorn 12 : Luxury Redefined
สำหรับโครงการ Anil Sathorn12 เป็นโครงการ Luxury โครงการที่ 2 ที่เปิดในปี 2019 นี้จาก Grand Unity ที่ยังคงนำ Collection ของ Tone สีมาเป็นแนวทางในการตั้งชื่อโครงการ จุดเด่นของโครงการ Anil Sathorn12 นี้นอกจากจะเป็นโครงการแรกของไทยที่ออกแบบตามแนวคิด WELL Building Standard แล้ว เรื่องของทำเลที่ตั้งก็เป็นจุดเด่นที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สาทร บริเวณปากซอยสาทร 12 และในอนาคตก็จะติดสถานี BTS ศึกษาวิทยา เรียกว่าจะไปไหนก็สะดวกทั้งขับรถหรือเลือกใช้รถไฟฟ้าในวันที่การจราจรบนถนนสาทรคับคั่ง
Grand Unity จับมือ 3 Partners ผู้ออกแบบชั้นแนวหน้าอย่าง DB Studio ที่มารับหน้าที่ออกแบบงานสถาปัตยกรรม PIA รับผิดชอบงาน Interior Design และงานภูมิสถาปัตย์ จาก Inside out ซึ่งทำงานร่วมกัน
ทำให้ Project Anil Sathorn 12 เป็นความจริงขึ้นมาได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกเหนือจากการออกแบบจะต้องสวยงามที่สุดแล้ว ยังต้องเดินตาม Standard ที่ทาง IWBI กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดอีกด้วย และถึงตอนนี้ Anil Sathorn 12 ก็ได้เผยโฉมสู่สาธารณะชนเรียบร้อยแล้ว ด้วยรูปแบบโครงการที่เป็นอาคารสูง 42 ชั้น 1 อาคาร มาพร้อม Facilities สิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมมากกว่า 4 ชั้น พร้อมที่จอดรถทั้งแบบ Automatic Robot Parking ที่ทันสมัย และทางโครงการได้เตรียม Slot ของ ระบบ Auto Parking นี้ไว้ถึง 2 ช่อง พร้อม Lounge ที่สะดวกสบายไว้ให้นั่งรอเพลินๆที่บริเวณชั้น1 ซึ่งรวมๆพื้นที่จอดรถแล้วมากถึง 110% เรียกว่าหาได้ยากมากๆแล้วในเวลานี้ที่โครงการจะมีพื้นที่จอดรถให้มากขนาดนี้
Facilities highlight ที่น่าสนใจอื่นๆอาทิ Ozone Sky Pool สระว่ายน้ำระบบ Ozone ที่ทันสมัยและปลอดภัยเป็นมิตรกับร่างกายมนุษย์สูงซึ่งแม้ว่าจะมีปริมาณโอโซนเข้มข้นแต่ก็ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองตา หรือผิวหนังและเส้นผม ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายคนไม่อยากลวงว่ายน้ำในสระ และ Ozone Sky Pool นี้ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคได้รวดเร็วกว่าระบบคลอรีนกว่า 3,125 เท่า ที่สำคัญการดูแลรักษาง่ายกว่าเพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเติมสารเคมีต่างๆลงในน้ำลดต้นทุนการดูแลรักษาได้ในระยะยาวอีกด้วย
รายการสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
ชั้น G
Green Sanctuary, Lobby , Waiting lounge for Automatic Parking
ชั้น 12
Anil lounge , Al fresco@12 , Social Dining , Library , Culinary area , Private Study , Kids Room , Garden
ชั้น41
Sky Garden , Ozone Sky Pool , Kids Pool
ชั้น42
Panoramic Gym , Serene Zone , Pilate Zone , Steam , Sauna
เตรียมพบการเปิดตัว Flagship โครงการใหม่ Anil Sathorn12 ที่ Grand Unity ตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ ที่จะมาเปลี่ยนคำว่า Luxury ในมิติใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็น Residential โครงการแรกของประเทศไทยที่จะได้รับการรับรอง WELL Building Standard ที่ยังไม่เคยมีใครได้รับและผ่านเกณฑ์ มาก่อน สำหรับใครที่สนใจ โครงการมมีกำหนดการ Pre – sales วันที่ 15 – 16 มิ.ย. นี้ ที่ Sales Gallery, อาคาร AIA Sathorn Tower ชั้น 12
หากต้องการทราบรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการได้แล้ววันนี้ที่
http://site.grandunity.co.th/projects/anil-sathorn/adver-prop2morrow
หรือโทร 026524000
