“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”แจงยอดขาย 4 เดือนกว่า 5,000 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีได้ตามเป้า 19,000 ล้านบาท ล่าสุด เดินหน้าควงพันธมิตร “เซกิซุย เคมิคอล” ร่วมกันเปิดตัว “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมการอยู่อาศัยและเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบโมดูลาร์ ภายใต้มาตรฐานญี่ปุ่น ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 4 ทำเล มูลค่ารวม 2,230 ล้านบาท
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือน (ม.ค.- เม.ย.)ที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำยอดขายรวมได้ที่กว่า 5,000 ล้านบาท และคิดว่าทั้งปีน่าจะได้ยอดขายใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้คือ 19,000 ล้านบาท เนื่องจากว่ายังมีโครงการใหม่ที่รอเปิดตัวอีก 13 โครงการ จากแผนเปิดโครงการใหม่ ปี2562 จำนวน 17 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- เป็นแนวราบ 16 โครงการ 18,000 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม 1 โครงการ 2,000 ล้านบาท
โดยโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวนั้น นอกจากลงทุนพัฒนาโครงการภายใต้ PF โดยตรงแล้ว ยังมีโครงการร่วมทุน กล่าวคือ หลังจากที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูล่าร์ ล่าสุด ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบ้านระดับบนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 4 โครงการ ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และ รัตนาธิเบศร์ รวมจำนวน 74 ยูนิต มูลค่ารวม 2,230 ล้านบาท และจะเปิดตัวเพิ่มขึ้นในต้นปี 2563 อีก 1 โครงการ ในทำเลสุขุมวิท 77 จำนวน 28 ยูนิต มูลค่า 920 ล้านบาท
“บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” ราคาเริ่มต้น 20-45 ล้านบาท มีให้เลือก 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 255-475 ตารางเมตร (ตร.ม.) เป็นรูปแบบเฉพาะโดยการออกแบบร่วมกันระหว่างทีมออกแบบของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และ เซกิซุย ที่นำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบด้วย
- Air Factory System ระบบหมุนเวียนอากาศและไส้กรอง 3 ชั้น สามารถดักจับฝุ่นขนาด 3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ได้ถึง 97% เติมอากาศบริสุทธิ์ให้หมุนเวียนในบ้านได้อย่างต่อเนื่อง ลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ จึงเรียกได้ว่าเป็น “บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์” พร้อม Heat Exchanger ปรับอุณหภูมิให้บ้านเย็นสบายอยู่เสมอ ช่วยลดการใช้ไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน
- Air Tightness System บ้านไร้รอยต่อ ด้วยการซีลจุดเชื่อมต่อและช่องต่างๆ อย่างสนิทด้วยวัสดุปิดรอยต่อ เพื่อป้องกันฝุ่น เสียง กลิ่น แมลง รวมถึงความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในบ้าน
- Thermal Insulated System ระบบฉนวนกันความร้อน 3 ชั้น เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อน
- Sound Insulated System ระบบผนังป้องกันเสียง ทำให้ได้ยินเสียงเบากว่าบ้านทั่วไป 10 เดซิเบล นอกจากนี้ ยังมีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน อยู่สบาย และยังเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น การใช้สีที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถทำความสะอาดตัวเองได้, โครงสร้างเหล็ก ที่แข็งแกร่ง ทนทาน และทนต่อแผ่นดินไหว
- Floor Service ช่องว่างที่อยู่ใต้บ้าน ลดความเสียหายหากเกิดน้ำท่วม ป้องกันท่อแตกร้าวหากดินทรุดตัว สะดวกในการเข้าบำรุงระบบไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล โดยไม่ต้องทุบพื้น
นอกจากนี้ บ้านนวัตกรรมนี้ยังคำนึงถึงรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันทั้งในด้านสุขภาพ และการประหยัดพลังงาน รวมถึงการนำฟังก์ชั่นที่เป็นจุดเด่นของบ้านแบบญี่ปุ่นมาใช้ อาทิเช่น มีพื้นต่างระดับบริเวณโถงทางเข้า หรือ เก็งคัง (Genkan) จุดถอดรองเท้าเพื่อให้ส่วนของที่อยู่อาศัยไม่เปื้อนฝุ่น พร้อมกันนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนบางฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์สังคมปัจจุบัน เช่น ออกแบบห้องนอนชั้นล่างให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับผู้สูงอายุ พื้นห้องนอนแบบ Soft Surface Flooring ลดแรงกระแทกหากหกล้ม Handicap Facilities ประตูห้องน้ำขนาดกว้างกว่าปกติ ห้องน้ำที่ไม่มีธรณีประตู และไม่เป็นพื้นต่างระดับ เพื่อให้รถเข็นผ่านเข้าออกได้สะดวก เป็นต้น
กว่า 80% จะถูกผลิตในโรงงานมั่นใจคุณภาพก่อสร้าง
ด้านนายมิชิโอะ ซาไก ผู้จัดการฝ่าย ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด เปิดเผยว่า นอกเหนือจากนวัตกรรมการอยู่อาศัยแล้ว เซกิซุย ยังมีความมั่นใจในการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดจากญี่ปุ่น นั่นคือ การก่อสร้างด้วยระบบโมดูล่าร์มาใช้ในการผลิตบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ โดยโครงสร้างกว่า 80% จะถูกผลิตในโรงงาน ทำให้มั่นใจในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานการก่อสร้าง
สำหรับขั้นตอนการทำงานร่วมกันของทีมญี่ปุ่นและไทยในการออกแบบบ้านนั้น ทาง พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาดเมืองไทย เป็นผู้ดำเนินการในส่วนออกแบบจัดวางผัง และดีไซน์ภายนอกของตัวบ้าน ขณะที่ เซกิซุย ดำเนินการออกแบบส่วนระบบโมดูล่าร์ ระบบโมดูล่าร์ที่นำมาใช้ เป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น แต่เนื่องจากขนาดบ้านของไทยมีสัดส่วนที่ใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับบ้านที่ญี่ปุ่น จึงได้มีการเพิ่มขนาดของตัวโมดูล่าร์ และเพิ่มความสูงของระดับฝ้าเพื่อให้โปร่งโล่ง อยู่สบาย และเพื่อเป็นการรองรับความต้องการด้านดีไซน์ที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าชาวไทย จึงมีการเพิ่มเติมส่วนตกแต่งภายนอก ที่ใช้การก่อสร้างในแบบดั้งเดิม (Conventional) เพื่อความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม
สำหรับส่วนประกอบของบ้านที่จะนำมาประกอบเป็นบ้านระบบโมดูล่าร์ ดำเนินการผลิตโดย บริษัท เซกิซุย–เอสซีจี อินดัสทรี จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เซกิซุย เคมิคอล และ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยจะทำการผลิตส่วนประกอบของบ้านแยกเป็นส่วนๆ สำเร็จรูป และประกอบชิ้นส่วนของบ้านทั้งหมดจนเรียบร้อย ก่อนนำมาติดตั้งที่หน้างาน
เกี่ยวกับเซกิซุย เคมิคอล : บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งมายาวนาน 72 ปี ปัจจุบันดำเนินธุรกิจ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย ธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุและอุปกรณ์พลาสติกคุณภาพสูง ธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของชุมชนเมืองและผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และ ธุรกิจที่อยู่อาศัย ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1971 ประกอบด้วย ธุรกิจรับสร้างบ้าน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปรับปรุงบ้าน ตลอดจนการลงทุนในต่างประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฮ่องกง เวียดนาม เซกิซุยฯ พัฒนาสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวเป็นหลัก จนถึงปัจจุบันได้ก่อสร้างและส่งมอบบ้านมาแล้วกว่า 550,000 หลัง ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องการก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง
