“สัมมากร”หวังโครงข่ายคมนาคมภาครัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯลงทุนพื้นที่ใหม่ รับแนวราบทรงตัวแต่แนวสูงยอดขายอืด เตือนผู้ประกอบการระวังลูกค้าโอนไม่หมด ปรับแผนครึ่งปีหลัง60 ผุดทาวน์โฮมเพียง 2 โครงการ รวมมูลค่า 2,176 ล้านบาท ส่วนโฮมออฟฟิศเลื่อนเปิดตัวปีหน้า คาดยอดขายเป็นไปตามเป้า 1,200 ล้านบาท
นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน)หรือSAMCO เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง2560ว่า ยังคงทรงตัว เพราะผู้บริโภคยังมีหนี้สินครัวเรือนอยู่ จึงไม่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัย ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัย ก็ต้องเริ่มมีวินัยในการจัดระบบหนี้สิน ขณะเดียวกันด้านภาครัฐเองก็มีการลงทุนที่ชัดเจนมากขึ้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ และเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯให้มีการลงทุนในพื้นที่ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับสิ่งใหม่ๆ เพราะที่ดินราคายังไม่สูงมากยังสามารถต่อรองได้
สำหรับตลาดแนวราบยังทรงตัว ส่วนแนวสูงนั้นความต้องการยังมีอยู่แต่ยอดขายช้า และเกรงว่าซัพพลายใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีกมากมายหลายยูนิตจะขายได้ช้าไปอีกและทำให้ภาพรวมตลาดไม่ค่อยดี ขณะที่ตลาดระดับไฮเอนด์ยังมียอดขายที่ดี เพราะดีมานด์มีกำลังซื้อสูง
ส่วนการที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายกลาง-ใหญ่ร่วมทุนกับกลุ่มกลุ่มทุนจากต่างชาติมากขึ้นนั้นก็ถือว่าโอกาสที่ดีของบริษัทนั้นๆ แต่ถ้าหากว่าเน้นการขายในดีมานด์กลุ่มเดิมๆก็จะทำให้ยอดขายฝืดได้
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ประกาศว่ามียอดขายที่ดี ก็ควรระวังในช่วงการโอนว่าจะมีการโอนจริงหรือไม่ แต่คาดว่าโดยภาพรวมแล้วภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้ากำลังซื้อจะกลับมา ซึ่งในช่วงเวลานั้นจะมีซัพพลายอาคารสูงหลายโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จเช่นกัน
สำหรับในส่วนของบริษัทฯเองแม้ว่าจะไม่ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ แต่ก็มีการปรับปรุงระบบการทำงานในองค์กร ด้วยการนำระบบออนไลน์(ERP) มาใช้ เพื่อเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำมากขึ้น และในอนาคตมีแผนที่จะจ้างทีมงานนอกองค์กร(Outsource)ที่มีคุณภาพเพื่อรับงานไปดำเนินงาน ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจได้(Overhead)
จ่อเปิด 3 โครงการใหม่-เล็งหาที่ดินผุดเพิ่มโซนตะวันออก-ตะวันตก
ด้านแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง2560 เดิมมีแผนจะเปิดตัวทั้งหมด 3 โครงการ โดยเป็นทาวน์โฮม 2 โครงการ และโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ แต่คงต้องเลื่อนการเปิดตัวโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการสัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน พื้นที่3 ไร่เศษ ออกไปในปี2561 แทน เนื่องจากต้องรอให้การก่อสร้างพื้นที่ด้านในแล้วเสร็จก่อน ทำให้แผนการเปิดตัวในปี2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 4 โครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดิน ซึ่งเน้นทำเลโซนตะวันออกและตะวันตกของกทม.เท่านั้น
โดยทาวน์โฮมที่จะเปิตัวในครึ่งปีหลังคือ 1.โครงการสัมมากร อเวนิว สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 32 ไร่ ขนาด 20-45 ตารางวา ราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท จำนวน 322 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และ2. โครงการสัมมากร-ชัยพฤกษ์ วงแหวน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 26 ไร่ ขนาด 18-45 ตารางวา ราคาเฉลี่ยที่ 3.5 ล้านบาท จำนวน 293 ยูนิต มูลค่าโครงการ 876 ล้านบาทโดยทั้ง 2 โครงการจะเปิดการขายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560
ตลาดทาวน์โฮมยังไปได้ดี เพราะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีกำลังซื้อบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นดีมานด์ที่มีจำนวนมาก โดยซัพพลายทาวน์โฮม ระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไปยังมีผู้ประกอบการหันมาพัฒนากันมากขึ้น ซึ่งเรามีจุดแข็งในเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคา การดีไซน์ และชื่อเสียงที่ดี จึงมั่นใจว่าจะสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้ และคาดว่ายอดขายจากธุรกิจอสังหาฯจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้คือ 1,200 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกสามารถทำได้แล้ว 600 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ที่1,000 ล้านบาท โตจากปี2559 ประมาณ 10%
ส่วนปัญหาแรงงานก่อสร้างขาดแคลนนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง จึงไม่ประสบปัญหา
** prop2morrow โดย คุณวาสนา กลั่นประเสริฐ เบอร์โทร.02-632-0645 E-mail : was_am999@yahoo.com
