แกรนด์ ยูนิตี้ฯเผยทำเลสารสินกลับมาบูมอีกรอบ ผู้ประกอบการแห่ผุดซัพพลายคอนโดฯ ระบุหลังเทกโอเวอร์ “สารสินี เรสสิเด้นซ์”มารีโนเวทใหม่เป็น “เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ”ปรับราคาขายขึ้นเป็น 13-53 ล้านบาท แย้มลูกค้าซื้อสะสมเป็นสินทรัพย์ระยะยาว คาดปิดการขายได้ภายในปี63

นายปัฐวิน วงศ์เสถียร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดเผยถึง ศักยภาพทำเลย่านสารสินว่า ในอดีตไม่ค่อยมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมากนัก เพราะพื้นที่ผังเมืองถูกจำกัด แต่ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาบริเวณโดยรอบเริ่มมีผู้ประกอบการพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ กันมากขึ้น ส่งผลให้ย่านสารสินมีความคึกคักใหม่อีกรอบหนึ่ง แต่ซัพพลายที่พัฒนาขึ้นมาก็ยังถือว่าไม่มากนัก

ทั้งนี้ภายหลังจากที่บริษัทฯได้เทกโอเวอร์โครงการ “สารสินี เรสสิเด้นซ์”(ชื่อเดิมคือ เดอะ โคโลนี่ ลุมพินี ปาร์ค) จากเจ้าของเดิมเมื่อปี 2561ที่ผ่านมา จำนวน 29 ยูนิต จากทั้งหมด 54 ยูนิต เนื่องจากเจ้าของเดิมได้ขายไปก่อนหน้านี้แล้ว 25 ยูนิต บริษัทฯจึงได้นำโครงการดังกล่าวมารีโนเวทใหม่ จำนวนหลายสิบล้านบาท และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น“เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ” (The Private Residence Rajdamri) เป็นลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ใจกลางกรุงเทพฯ และได้มีการตั้งราคาขายขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงจัดตั้งนิติบุคคลอาคารชุดขึ้นใหม่ จากเดิมที่ไม่มีการจัดตั้งแต่อย่างใด

โครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์  เป็นที่ดิน Freehold บนถนนสารสิน พื้นที่ 1 ไร่เศษ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 54ยูนิต (เทกโอเวอร์ห้องชุดที่เหลือมา 29 ยูนิต) ประกอบด้วยห้องชุดขนาดต่างๆ ได้แก่ ห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 70 – 88 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 126 – 163 ตารางเมตร  และห้อง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ขนาด 245 ตารางเมตร โดยเริ่มต้นที่ 13-53 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยที่ 185,000 ล้านบาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 590 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปี 2563

ปัจจุบันลูกค้าที่อยู่ห้องชุดในโครงการส่วนใหญ่จะซื้อไว้เพื่อเป็นสินทรัพย์ระยะยาว เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยมีอยู่อาศัยเพียง 10% บางส่วนก็นำมาปล่อยเช่าในราคาเริ่มต้นที่ 50,000 บาท/เดือน (ห้องขนาด 70 ตารางเมตร 1 ห้องนอน) โดยการันตีผลตอบแทนประมาณ 5%ต่อปี