อีอาร์เอ เปิดตัวแคมเปญ “Let’s Move Real Estate Agents and Brokers” เซอร์วิสเต็มรูปแบบเพื่อเชื่อมต่อสู่ ERA Connect ด้วยเทคโนโลยี ERA Thailand Operating System พร้อมเปิดศักราชใหม่ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ ด้วยอีเว้นท์แคมเปญ ERA Marketplace
นายวรเดช ศิวเตชานนท์
นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีอาร์เอ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า อีอาร์เอ เป็นผู้กำหนดรูปแบบและวิธีการของธุรกิจนักขาย และนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ปี 2563 สามารถปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงในทุกสถานการณ์ที่จำเป็น และนอกจากนั้นเรายังเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการนักขายและวงการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในปีนี้เรากำหนดรูปแบบใหม่ในการทำธุรกิจโดยแบ่งปัจจัยสำคัญออกเป็น 3 ประการคือ
Team ซึ่งหมายถึงทีมขายและทีมสนับสนุน ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จคือ การเปลี่ยนวิธีคิดของคนก่อนการเปลี่ยนเทคโนโลยีซึ่งได้ดำเนินการมาแล้วครบปีและในขณะนี้เราพร้อมนำเสนอโปรแกรมการทำงานร่วมกัน ภายใต้โครงการ “ERA Marketplace 2020” คือทุกท่านสามารถเข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ภายใต้ขอบเขตที่กำหนดโดย ERA และจะเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อให้ทุกท่านสามารถบรรลุจุดมุ่งหวังในการขายได้ ซึ่งโปรแกรมนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 นี้
Technology ประกอบด้วย Application ใหม่ของ ERA ที่จะช่วยงานขายทั้งโครงการใหม่และบ้านมือสอง ซึ่งได้แก่ ERA -TOS และ ERA – Connect ทั้งสองสิ่งนี้จะช่วยให้การทำงานของนักขายสามารถบรรลุผลได้ดีกว่าที่เป็นอยู่และสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆได้ด้วยตัวเอง
Training ในปีนี้ ERA ได้กำหนดรูปแบบการเรียนรู้สู่ธุรกิจนักขายและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไว้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มนักขาย, กลุ่มผู้จัดการ/ผู้บริหาร และสุดท้ายคือกลุ่มผู้ลงทุน ทั้ง 3 กลุ่ม นี้ มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนหากได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตรงความต้องการย่อมส่งผลดีและสามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แต่หากต้องเรียนรู้มากจนเกินไปอาจเกิดความสับสนในตัวเองและต้องออกจากธุรกิจในที่สุด ERA ได้จัดหลักสูตรให้สมาชิกเข้าเรียนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการสนับสนุนทีมงานให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
ERA Connect เป็นแอพพลิเคชั่นที่บรรจุข้อมูลและรายละเอียดของโครงการใหม่ที่เปิดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สำหรับให้ตัวแทนขายของอีอาร์เอ ในเอเชียแปซิฟิก และในทุกประเทศเข้าใช้งานและสามารถนำเสนอโครงการต่างๆให้กับลูกค้าที่สนใจที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุน ทั้งในเอเชียแปซิฟิกและในประเทศต่างๆเป็นการเชื่อมต่ออีอาร์เอทั่วทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันและ ยังเป็นการขยายโอกาสด้านการขายให้กับตัวแทนขายของอีอาร์เอมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ อีอาร์เอ ประเทศไทย ยังได้นำระบบปฏิบัติการสำหรับตลาดบ้านมือสอง ERA Thailand Operating System 2020 หรือเรียกสั้นๆ ว่า ERA TOS 2020 เข้ามาใช้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ web portal เพื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่ถูกออกแบบ และพัฒนาโดยพันธมิตรชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อช่วยเหลือวงการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปแบบบริษัทและบุคคลซึ่งเป็นตัวแทนขาย จุดเด่นของระบบนี้คือ ช่วยจัดการธุรกรรมต่างๆ ที่ยุ่งยากซับซ้อนให้ทำงานได้เองโดยอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดซึ่งเหมาะสำหรับบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก-กลางหรือ SME ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ มีคนทำงานไม่มาก แต่มีธุรกรรมการขายเยอะ เพราะระบบนี้ถูกออกแบบขยายฟังก์ชั่นเพื่อช่วยเหลือนักขายมืออาชีพให้บรรลุเป้าหมายมากกว่า 15,000 คน ในเอเชียแปซิฟิก และจะถูกเปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกกับ อีอาร์เอ ประเทศไทย
สำหรับอีเว้นท์แคมเปญ ERA Marketplace เป็นการจัดกิจกรรมที่มีเป้าหมายหลักให้เป็น Signature Event ของ อีอาร์เอ ทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป ภายใต้แนวคิดหลัก ERA Marketplace : Start Strong Together ตลาดที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนอสังหาริมทรัพย์บน Face To Face Platform ครั้งแรก ตั้งแต่เริ่มเปิดศักราชใหม่ 2563 นับเป็นการรวมพลนักซื้อ นักขาย นักชม นักช้อป กูรูอสังหาริมทรัพย์ รวมที่สุดของอสังหาริมทรัพย์ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุดของแต่ละตัวแทน รวมดีลซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน อสังหาฯ ที่จะเกิดขึ้นเฉพาะในงานนี้เท่านั้น โดยมีกำหนดจัดกิจกรรม 5 ครั้ง 5 โลเคชั่น ดังนี้
- ครั้งที่ 1 วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ภาคตะวันออก
- ครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 กรุงเทพมหานคร
- ครั้งที่ 3 วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ครั้งที่ 4 วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 ภาคใต้
- ครั้งที่ 5 วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ภาคเหนือ
สำหรับภาพรวมตลาดในปี 2562 ที่ผ่านมา สำหรับ อีอาร์เอ ถือว่าอยู่ในเกณท์ที่รับได้ ทั้งตลาดมือสอง และโครงการใหม่ ถึงแม้จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงก็ตาม ในส่วนตลาดการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มือสอง ยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่องแต่ปัญหาใหญ่คือเรื่องของอุปสงค์ไม่ตรงกับอุปทานและปัญหารองลงมาก็คือฝ่ายหนึ่งยึดราคาประเมิน ในขณะที่อีกฝ่ายต้องการราคาตลาด หากภาครัฐใส่ใจในธุรกิจนี้ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องของราคาขายก็จะสามารถช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโต และเป็นดัชนีที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจต่อไป ในส่วนของตลาดเช่ามีการเติบโตขึ้นกว่า 25% จากปีที่ผ่านมา
