Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร “มั่นคงเคหะการ” เป็น “BBB-”

ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “BBB-” จากเดิมที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Negative” หรือ “ลบ” ด้วย โดยอันดับเครดิตที่ลดลงสะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับภาระหนี้ที่สูงขึ้นของบริษัทจากการลงทุนเชิงรุกและความสามารถในการทำกำไรที่คาดการณ์ว่าจะลดลงจากการลงทุนที่ต่อเนื่องในธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงความยอมรับในตราสินค้าของบริษัทในโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตก็สะท้อนถึงผลกระทบในเชิงลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ซึ่งสร้างความเสียหายที่รุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต : ภาระหนี้ยังคงสูงขึ้น

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าระดับภาระหนี้สินของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอีกจากการมีเงินลงทุนที่สูงในธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ ภายใต้กลยุทธ์ในการกระจายความหลากหลายทางธุรกิจ บริษัทได้เริ่มลงทุนในธุรกิจให้เช่าในปี 2558 และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผลกำไรที่มาจากธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอถึง 50% ภายในปี 2564 การขยายไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอต้องใช้เงินลงทุนสูงซึ่งส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 โดยบริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 36% ในปี 2558 จากระดับ 20% ในปี 2557 และเกินกว่าระดับ 50% มาตั้งแต่ปี 2560 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนอยู่ที่ระดับ 56% ณ สิ้นปี 2562

ปัจจุบันธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอของบริษัทประกอบด้วยโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าภายในโครงการ “บางกอกฟรีเทรดโซน” (Bangkok Free Trade Zone) และจากโครงการอพาร์ทเมนท์ให้เช่าบริเวณถนนสุขุมวิท 77 นอกจากนี้ บริษัทยังได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพภายใต้แบรนด์ “RAKxa” โดยมีแผนจะเปิดโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 งบลงทุนในการก่อสร้างสำหรับธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพทั้งหมดจะอยู่ที่ประมาณ 2,100 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 ยังคงเหลือเงินลงทุนอีก 500 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทจะนำเงินลงทุนอีกจำนวน 2,000 ล้านบาทไปใช้พัฒนาโครงการโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในระหว่างปี 2563-2565

บริษัทวางแผนจะขายสินทรัพย์เพื่อการลงทุนบางส่วนเข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  (ทรัสต์ฯ) ในช่วงประมาณกลางปี 2563 โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท รายรับสุทธิหลังหักชำระคืนหนี้จำนวน 652 ล้านบาทแล้วจะอยู่ที่ราว 1,350 ล้านบาท บริษัทวางแผนจะนำเงินส่วนนี้ในสัดส่วนประมาณ 50% ไปลดภาระหนี้และอีก 50% จะใช้เป็นแหล่งเงินทุน และ/หรือ ลงทุนในหน่วยลงทุนของทรัสต์ฯ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะขายที่ดินเปล่าและโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างแล้วเสร็จซึ่งปลอดภาระหนี้มูลค่ารวมเกินกว่า 2,000 ล้านบาทในช่วงปี 2563-2564 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าแผนการขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์ฯ น่าจะล่าช้าออกไปอันเนื่องมาจากภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในช่วงเวลาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน

ด้วยเหตุนี้ แหล่งเงินทุนสำหรับการก่อสร้างจึงน่าจะมาจากการกู้ยืมซึ่งจะเพิ่มภาระหนี้ให้แก่บริษัทยิ่งขึ้น ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเกินกว่าระดับ 60% ในปี 2563 และหลังจากนั้นจะทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 57% ในช่วงปี 2564-2565 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ -0.2% ในปี 2563 และจะฟื้นตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 4% ในระหว่างปี 2564-2565 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ในระดับเกินกว่า 1 เท่าในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า

อัตรากำไรคาดว่าจะลดลง

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะลดลงในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทต้องเผชิญกับอัตรากำไรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยสาเหตุหลักมาจากการมีรายจ่ายเพิ่มเติมในส่วนของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 16% ในปี 2560 และระดับ 15% ในปี 2562 จากระดับ 19% ในปี 2559

ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรของบริษัทจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจใหม่ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพจะยังคงไม่มากนักในช่วงแรกของการดำเนินกิจการในขณะที่บริษัทต้องแบกภาระต้นทุนคงที่และค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ค่อนข้างสูง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 13% ในปี 2563 และจะฟื้นตัวไปอยู่ที่ระดับ 15%-17% ในปี 2564-2565

ตราสินค้าเป็นที่ยอมรับ

โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทภายใต้ตราสินค้า “ชวนชื่น” นั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่มีรายได้ในระดับปานกลางถึงต่ำในแง่ของคุณภาพสินค้าและราคา เนื่องจากบริษัทเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ยอดขายรอการรับรู้รายได้จึงมีขนาดเล็ก ดังนั้น รายได้ของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างยอดขายใหม่และยอดโอนในปีนั้น ๆ บริษัทสามารถรักษาระดับรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายที่ระดับ 2,600-2,800 ล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีผลกระทบในเชิงลบจากมาตรการบังคับใช้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 แต่รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในปี 2562 ของบริษัทก็ลดลงเพียง 8% จากปีก่อน โดยมาอยู่ที่ระดับ 2,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีโครงการเหลือขายจำนวน 26 โครงการซึ่งประกอบด้วยโครงการแนวราบ 25 โครงการและโครงการคอนโดมิเนียม “พาร์ค คอร์ท” อีก 1 โครงการซึ่งมีมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ในปี 2563 อีก 3 โครงการซึ่งมีมูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ทริสเรทติ้งมีความเห็นว่าผลที่ตามมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินต่อไปจะเป็นปัจจัยกดดันต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและจะก่อให้เกิดการชะลอตัวในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยอย่างรุนแรง ภายใต้สมมติฐานที่การแพร่ระบาดจะสามารถควบคุมได้ภายในครึ่งปีแรก ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายของบริษัทจะลดลงไปอยู่ที่ราว 2,000 ล้านบาทและจะขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,400-2,600 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2564-2565 และรายได้จากธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอจะเพิ่มขึ้นจากสินทรัพย์ที่เติบโตขึ้นในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนและจากการเริ่มดำเนินการในธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ

ความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19

ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมเป็นอย่างมากในขณะเดียวกันก็ยังมีความผันผวนมากกว่าภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปอีกด้วย การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กินเวลายาวนานอาจส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ความต้องการที่อยู่อาศัยอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญและหนี้เสียอาจพุ่งสูงขึ้น กำลังซื้อของผู้ซื้อบ้านที่ลดลงเมื่อรวมกับการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจะส่งผลลบต่อความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับราคาปานกลางถึงต่ำซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งก็คาดหวังว่ามาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่รัฐบาลออกมานั้นจะส่งผลในเชิงบวกในการกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัย โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ธปท. ได้ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยอนุญาตให้ผู้กู้ที่ซื้อบ้านหลังแรกสามารถกู้เพิ่มได้อีก 10% จากสินเชื่อที่กู้ ซึ่งรวมเป็น 110% จากมูลค่าที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองลงเหลือ 0.01% สำหรับบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทโดยจะมีผลไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 อีกด้วย ในการนี้ บริษัทเชื่อว่ามาตรการใหม่เหล่านี้จะช่วยจูงใจกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับราคาปานกลางถึงต่ำ อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวการณ์ในปัจจุบัน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมามุ่งเน้นโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านระดับราคาปานกลางถึงต่ำซึ่งเป็นที่ต้องการค่อนข้างสูง ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดกลุ่มนี้มีความรุนแรงมากขึ้น

ปัญหาขาดสภาพคล่องในตลาดหุ้นกู้ส่งผลต่อความเสี่ยงในการรีไฟแนนซ์

ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะที่นักลงทุนในตลาดตราสารหนี้หลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 2,900 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 1,400 ล้านบาท เงินกู้โครงการระยะยาวจำนวน 107 ล้านบาท และตั๋วแลกเงินจำนวน 1,400 ล้านบาท บริษัทได้จ่ายชำระหุ้นกู้จำนวน 250 ล้านบาทที่ครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2563 ด้วยกระแสเงินสดภายในกิจการ ในขณะที่ตั๋วแลกเงินจำนวน 790 ล้านบาทที่ครบกำหนดในไตรมาสแรกของปี 2563 ส่วนใหญ่มีการต่ออายุเรียบร้อยแล้ว ส่วนหุ้นกู้และตั๋วแลกเงินที่จะครบกำหนดชำระในอีก 9 เดือนที่เหลือของปี 2563 นั้นประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 1,000 ล้านบาทซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนสิงหาคม 2563 หุ้นกู้ระยะสั้นจำนวน 300 ล้านบาทซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนธันวาคม 2563 และตั๋วแลกเงินจำนวน 1,001 ล้านบาท โดยตั๋วแลกเงินจำนวน 370 ล้านบาทนั้นจะครบกำหนดในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 จำนวน 600 ล้านบาทจะครบกำหนดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 และจำนวน 40 ล้านบาทจะครบกำหนดในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563

ณ เดือนมีนาคม 2563 สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทนั้นประกอบด้วยเงินสดจำนวน 480 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในกระบวนการเตรียมวงเงินสำรองกับธนาคารจำนวน 500 ล้านบาทเพื่อสำรองสำหรับชำระตั๋วแลกเงิน รวมทั้งยังมีสินทรัพย์ที่ไม่ติดภาระเป็นหลักประกันคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาทซึ่งใช้เป็นแหล่งสภาพคล่องได้อีกแหล่งหนึ่งด้วย บริษัทยังได้เตรียมจัดตั้งทรัสต์ฯ อีก 1 แห่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 โดยคาดว่ามูลค่าขายสินทรัพย์เข้าทรัสต์ฯ จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ดูจะเป็นไปได้ยากในสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเห็นว่า กองทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อลดความเสี่ยงของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน” (Bond Stabilization Fund) ซึ่งจัดตั้งโดย ธปท. ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารออมสิน ผู้ประกอบการประกันภัย และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการนั้นอาจเป็นแหล่งสภาพคล่องได้อีกแหล่งหนึ่งเพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องในระบบ

บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อกำหนดทางการเงินโดยต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่าและอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 1.2 เท่า และ 1.5 เท่าตามลำดับ ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะคอยดูแลสภาพคล่องอย่างใกล้ชิดและจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินได้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

  • รายได้ของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในช่วง 7-4.3 พันล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2565
  • อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 33%-36% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณ 13%-17% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
  • เงินทุนสำหรับซื้อที่ดินคาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2563-2565
  • เงินลงทุนคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาทในปี 2563 และราว 500-600 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2564-2565

 แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทจะไม่ถดถอยไปจากที่คาดการณ์ไว้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ราว ๆ ปีละ 2.7-4.3 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนคาดว่าจะสูงขึ้นในปี 2563 และจะลดลงมาอยู่ที่ระดับราว ๆ 57% ในปี 2564-2565 ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานนั้นคาดว่าจะลดลงในปี 2563 จากนั้นจะฟื้นตัวและคงอยู่ที่ระดับเกินกว่า 10% ได้ในระหว่างปี 2564-2565

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง