สตาร์มาร์คฯเผยภาพรวมตลาดชุดครัว-เฟอร์นิเจอร์ฯครึ่งปีหลัง63 ยังแข่งเดือด สินค้าต้องดีไซน์ตอบโจทย์ลูกค้า คาดปี64 ได้ลูกค้าใหม่ 3 เซกเมนต์หลัก ด้านตลาดต่างประเทศชะลอการส่งออก ผลจากโควิด-19 ยังแพร่ระบาด ล่าสุดเปิดตัวสินค้า 4 กลุ่มหลักในงาน “บ้านและสวน Midyear 2020”อัดโปรโมชั่น ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ประกาศปรับเป้ายอดขายปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท
นางสาวณัฐปภัสร์ ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในครึ่งหลังปี 2563 ว่า การแข่งขันยังรุนแรง ซึ่งปัจจุบันมีคู่แข่งสินค้าในระดับเดียวกันอยู่ประมาณ 4-5 แบรนด์ ซึ่งในสภาวะการณ์ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการจะต้องผลิตสินค้า และร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาฯในการดีไซน์สินค้า เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ลูกค้าของบริษัทฯจะมี 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มลักชัวรี่โมเดิร์น-อิลิแกนท์ ซึ่งสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ของบริษัทฯมีมากถึง 60% และ กลุ่มลอฟท์-โมเดิร์น
สำหรับในปี 2564 บริษัทฯคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่อีกประมาณ 3 เซกเมนต์ แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง ,คอนโดมิเนียม มากกว่า 5 โครงการ และ บ้านจัดสรร จากลูกค้า 3 ลูกค้าหลัก คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน),บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) และบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) ส่วนในครึ่งหลังของปี 2563 คาดว่าจะได้ลูกค้าที่แน่นอนจำนวน 5 โครงการ และอยู่ระหว่างเจรจาอีก 10 โครงการ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าจำนวนหน่วยที่จะเป็นสต๊อกน่าจะได้ใกล้เคียงกับปี 2563 จากสต๊อกรอโอนที่เคยทำได้สูงสุดประมาณ 40,000 ยูนิตในปี 2555-2557 เป็นต้น
ส่วนการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาส่งออกอยู่ 2 ประเทศคือ สปป.ลาว และกัมพูชา คงต้องชะลอออกไปก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าจะรุกตลาดใหม่อีกรอบในปี 2564
นางสาวณัฐปภัสร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สตาร์มาร์คยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแต่งบ้านเพื่อที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงโควิด-19 จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับบ้านมากยิ่งขึ้น สตาร์มาร์คมีการออกสินค้าเพื่อให้แมทช์ทั้งสไตล์และไลฟ์สไตล์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ ครัวนอกบ้าน…สไตล์ลอฟท์ชุดครัวซีรีย์ใหม่ “ESTERNO” (เอสเทอโน่) ที่เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่มักต่อเติมหลังบ้าน และคนยุคใหม่ที่นิยมการปาร์ตี้แบบเอาท์ดอร์ ออกแบบด้วยตัวครัวโครงเหล็กทำสี Power Coat ขนาดกะทัดรัด ติดตั้งและเคลื่อนย้ายง่าย พร้อมพ่นกันสนิม กันปลวก และกันน้ำ
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมออกงาน “บ้านและสวน Midyear 2020”ระหว่างวันที่ 7-16 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยเปิดสินค้าใหม่ใน 4 กลุ่ม ได้แก่
-ชุดครัวคอลเลคชั่นใหม่ Curva (เคอร์ว่า) ชุดครัวทรงโค้งดีไซน์ระดับ Signature Design by STARMARK ยกระดับสไตล์การแต่งบ้านให้ Elegance ต่อยอดจากชุดครัว รุ่น Ellipse (อิลิปต์) ซึ่งเป็นชุดครัวสไตล์โมเดิร์นมินิมอล พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด อีกทั้งยังมีไฟ LED ที่ทำให้ชุดครัวดูมีมิติมากขึ้น และยังมีปลั๊กไฟแบบฝังในเฟอร์นิเจอร์ (Pull out) ที่ทำให้การทำครัวสะดวกมากขึ้น เคาน์เตอร์ท้อปครัวและผนังกันเปื้อนหินควอทซ์ ที่ทนความร้อนและปกป้องรอยขีดข่วน ซึ่งชุดครัวสามารถปรับ layout ได้ตามพื้นที่บ้านลูกค้าร่วมถึงการเลือกฟังก์ชั่นตามการใช้งานของลูกค้าและสีพ่นแบบเงาหรือด้านให้แมทช์กับการแต่งบ้านของลูกค้า
-ชุดตู้เสื้อผ้าและตู้โชว์ Alberto (อัลเบอร์โต้) ชุดตู้โครงอลูมิเนียมฝังไฟ LED ที่สามารถออกแบบจัดวางได้แบบอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความโปร่ง โล่งสบายตา
–Fit-in Package แพ็กเกจแต่งคอนโดฯ ราคาเริ่มต้นที่ 6,500 บาท/ตารางเมตร ที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนใช้เช่าหรืออยู่เอง โดยแพ็กเกจจะมีดีไซน์เนอร์จัดเซตเฟอร์นิเจอร์ Fit-built ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เตียง ผนังตกแต่ง เซตทีวี โซฟา ในธีมเดียวกัน โดยให้ผู้บริโภคมีความสะดวกในการแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น
–Wall Decoration ผนังตกแต่งสำเร็จรูป มีทั้งดีไซน์ โมเดิร์น ลักชัวรี่ โมเดิร์นลอฟท์ คอมเทมโพรารี่ คลาสสิกและวินเทจ สามารถเนรมิตภาพรวมการแต่งบ้านให้ดูโดดเด่นได้ โดยใช้ตกแต่ง matching ให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ในบ้างจุดของบ้าน อาทิเช่น ห้องรับแขก ผนังหัวเตียง หรือทางเข้าคอนโดฯ
โดยในงานดังกล่าวบริษัทฯ มีสินค้าราคาพิเศษ พร้อมรับส่วนลดเพิ่ม สูงสุดถึง 120,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน และCash back สูงสุด 32,500 บาท เฉพาะบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ อีกทั้งในงานยังมีโปรโมชั่นที่ใช้คะแนนจากบัตรเครดิตเพื่อรับเครดิตเงินคืนถึง 12% จากยอดซื้อและของสมนาคุณอีกมากมาย โดยตั้งเป้ายอดขายในงานนี้ 10 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทฯ ยังคงเน้นกลยุทธ์หลักๆ ในการออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ๆ ทุกกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็น ชุดครัว ชุดห้องแต่งตัว เพื่อเป็น Solution การแต่งบ้านให้กับลูกค้า การหาพันธมิตรเพิ่มเพื่อจัดหาสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้ามากยิ่งขึ้น และสตาร์มาร์คมุ่งเน้นในการให้บริการลูกค้าจากทีมดีไซเนอร์มืออาชีพ ซึ่งสตาร์มาร์คได้หล่อหลอมจากประสบการณ์และความชำนาญ พร้อมทั้งยังขยายโชว์รูมเพิ่มเติม จากปีที่ผ่านมาได้เข้าไปร่วมกับบุญถาวร โดยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 2 สาขา คือ บุญถาวร รัชดาฯ และเกษตร-นวมินทร์ ส่วนในปลายไตรมาส3/2563 จะเปิดโชว์รูมที่โฮมโปร รังสิต คลอง 4 อีก 1 สาขา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 จะมีผลกระทบจนส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกลดลงประมาณ 20% แต่หลังจากที่รัฐบาลเริ่มคลายล็อกในเฟสต่างๆอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้ามีความเชื่อมั่นในแบรนด์ และสินค้าที่มีคุณภาพของสตาร์มาร์ค ซึ่งในปี 2563 นี้ ได้ปรับเป้ายอดขายใหม่มาอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท(ลบ.) จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท จากปี 2562 ที่ผ่านมามียอดขายที่ประมาณ 1,000 ล้านบาทเศษ โดยยอดขายรอโอน หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท แต่คาดว่าสิ้นปี 2563 นี้จะได้ 1,000 ล้านบาท แบ็คล็อกส่วนใหญ่จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมมีอยู่ประมาณ 20,000 ยูนิต คาดว่าปีนี้จะโอนได้ 10,000 ยูนิต ที่เหลือจะไปโอนในปี 2564 โดยแบ็คล็อกกว่า 75%เป็นลูกค้าโครงการ ส่วนโครงการแนวราบจะมีสัดส่วน 25% ลูกค้าหลักได้แก่ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน),บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) และบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)
ปัจจุบันพอร์ตรายได้หลักของสตาร์มาร์ค มาจากลูกค้ารายใหญ่หรือลูกค้าโครงการประมาณ 70% ตกแต่งสินค้าชุดครัวแพนทรี่ให้กับโครงการคอนโดฯเป็นหลัก ที่เหลืออีก 30% มาจากตลาดรีเทลหรือลูกค้า End User โดยเป็นคู่ค้ากับโฮมโปรและบุญถาวร
