แลนดี้ โฮมฯเผยผลประกอบการสวนกระแสโควิด-19 และตลาดรวมรับสร้างบ้าน เติบโต 15% คาดปี’64 กวาดยอดขายรวมเพิ่ม 2,400 ล้านบาท พร้อมปรับสัดส่วนลูกค้าในกทม.-ปริมณฑลเป็น 85% เปิดเกมรุกเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ปักหมุดย่านฝั่งธนฯ ทุ่มงบ 20 ล้าน ผุดสาขาใหม่พร้อมอวดโฉม Sale Gallery Landy Grand Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย รับสร้างบ้านหรูราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมบริการเหนือระดับครบวงจรในที่เดียว อัดโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาส่วนลดสูงถึง 30%

นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี2563 ที่ผ่านมา ส่งผลภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2563 ลดลงไป 5% คิดเป็น 12,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ปี 2562 อยู่ที่ 12,500 ล้านบาท แต่ผลประกอบการของบริษัทฯกลับโตสวนกระแส ถึง 15%  คิดเป็นมูลค่า 2,100 ล้านบาท เนื่องจากบ้านยังถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่ทุกคนต้องการ และกลุ่มตลาดรับสร้างบ้านจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะมีการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าและมีที่ดินรองรับแล้ว ดังกล่าวสถานการณ์โควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจจึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด ทำให้คาดว่าในปี 2564 นี้ บริษัทฯจะมีอัตราการเติบโตอีก 15% คิดเป็นมูลค่า 2,400 ล้านบาท

โดยที่ผ่านลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล คิดเป็นสัดส่วน 80% และต่างจังหวัด 20% แบ่งเป็นกลุ่มที่ทุบบ้านเก่าและสร้างหลังใหม่บนที่ดินแปลงเดิม สัดส่วน50% และบ้านสร้างใหม่บนที่ดินแปลงใหม่ สัดส่วน 50%. โดยในปีที่ผ่านมา กลุ่มบ้านหลังเล็กราคา 2-5 ล้านบาท และ กลุ่มบ้านขนาดกลาง ราคา 5 – 15 ล้านบาท  มียอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านระดับลักชัวรี่ ตั้งแต่ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป มียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 16%  อย่างไรก็ตามคาดว่าในปีนี้จะปรับเพิ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล เพิ่มเป็น 85% และต่างจังหวัดเหลือ 15%

และในงาน“รับสร้างบ้าน FOCUS 2021” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-14 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้กว่า 200 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายจากบ้านกลุ่มระดับราคา 5-15 ล้านบาท สัดส่วน 70% บ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาท สัดส่วน 15% และบ้านระดับราคาเกิน 15 ล้านบาท สัดส่วน 15%

และปีนี้ทางแลนดี้โฮมฯได้หันมาเจาะตลาดไฮเอนด์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มนิชมาร์เก็ตที่มีกำลังซื้อและความต้องการบ้านหรูในราคาที่คุ้มค่าสูง ประกอบกับความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของบริษัทรับสร้างบ้านยังถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้บริการ โดยเฉพาะในสถานการณโควิด-19 ยิ่งส่งผลให้ลูกค้าเลือกพิจารณาบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่มากกว่ารายย่อย

ด้านนางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากความต้องการของกลุ่มลูกค้าในการสร้างบ้านหลังใหญ่ระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป มีเพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทจึงเปิด “แลนดี้ โฮม สาขาราชพฤกษ์” สาขาที่ 9 และเปิด Sale Gallery Landy Grand Flagship Store (เซลล์ แกลอรี่ แลนดี้ แกรนด์แฟล็กชิพ สโตร์) ที่แรกในประเทศไทย เพื่อเจาะกลุ่มตลาดไฮเอนด์ย่านฝั่งธนฯ เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพในหลายด้าน อาทิ กลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับ B+ ถึง A มีสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทางสะดวกเชื่อมสู่ CDB ตัวเมืองสาทรได้ง่าย มีแนวโน้มความเจริญสูง ประชากรหนาแน่น และเชื่อมโยงสู่ถนนหลักได้หลายสาย เช่น จรัญ 13 (บางแวก), พรานนก–พุธมณฑล, เพชรเกษม, บรมราชชนนี และยังสามารถรองรับลูกค้าจากฝั่งธนฯ ได้อีกด้วย ซึ่งจากฐานข้อมูลของบริษัทฯพบว่าลูกค้าย่านฝั่งธนบุรีนั้น มีความต้องการปลูกสร้างบ้านใกล้เคียงกับลูกค้าฝั่งกรุงเทพฯ

สำหรับ แลนดี้ โฮม สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ในโครงการ The Perfect สามารถรองรับการบริการรับสร้างบ้านในทุกระดับราคา ได้แก่

-Trendy Home บ้านหลังเล็ก ราคา 2-5 ล้านบาท

-Landy Home บ้านขนาดกลาง ราคา 5 -15 ล้านบาท

– Landy Grand บ้านขนาดใหญ่ ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป

โดยแลนดี้ โฮม สาขาราชพฤกษ์ แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้น 1 เป็นพื้นที่บริการรับสร้างบ้าน และ Sale Gallery ของ Trendy Home และ Landy Home ส่วนชั้น 2 เป็น พื้นที่บริการรับสร้างบ้าน และSale Gallery Landy Grand Flagship Store มีการจัดแสดงแบบบ้าน Brand Landy Grand บ้านหลังใหญ่ ราคาคุ้มค่า เพียง 23,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ซึ่งจะมีแบบบ้านดีไซน์ใหม่ล่าสุดมาให้บริการด้วย ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนแบบได้ตามความต้องการโดยมีทีมสถาปนิกผู้มีประสบการณ์ออกแบบบ้านหรูโดยเฉพาะ
คอยให้คำแนะนำ และยังมีโซน Landy Grand Exclusive Lounge ไว้บริการ เนื่องจากต้องการให้แลนดี้ โฮม สาขาราชพฤกษ์ เป็นศูนย์รับสร้างบ้านหรู บริการ One stop service และในช่วงระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม 2564 ยังจัดโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาส่วนลดสร้างบ้านสูงถึง 30% ,ฟรีทองคำแท่งนัห 2 บาท และ Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 450,000 บาท

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทฯยังมีแผนที่จะเปิดตัว Sale Gallery Landy Grand Flagship Store สาขาที่ 2 ที่สำนักงานย่านลาดพร้าวด้วย ซึ่งแต่ละสาขาจะใช้งบในการลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท

นายพานิช มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเทรนด์การสร้างบ้านว่า ด้วยไลฟ์สไตล์ยุคใหม่คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพ และใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากขึ้น ทางบริษัทฯ จึงเน้นพัฒนาเทคโนโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยภายในบ้านให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ภายใต้ Concept Landy Life โดยหวังให้คนไทยได้บ้านที่มีมาตรฐาน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในราคาที่จับต้องได้ เช่น เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด  CAP+ (แค็พพลัส) ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5, ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ภายในห้องด้วยการสร้าง Positive Pressure ช่วยสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยจากเชื้อโรค ฝุ่นละออง PM 2.5 และสามารถรักษาระดับก๊าซออกซิเจน พร้อมลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาไปอีกขั้น กับ CAP+ V.2 ด้วย Zeolite Filter ที่มีคุณสมบัติ ลดสารภูมิแพ้ ดูดซับสารเคมีสังเคราะห์ และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายพร้อมรองรับ Mobile Control ที่ควบคุมการใช้งานผ่าน Application สามารถใช้งานร่วมกับGoogle Assistant และ Alexa  

ซึ่งแลนดี้ โฮมฯพร้อมนำเทคโนโลยี Smart Home เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบและก่อสร้าง เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของลูกค้าในปัจจุบัน และในด้านการบริการลูกค้า แลนดี้ แกรนด์ ก็จะได้รับประสบการณ์ในการสร้างบ้านในรูปแบบใหม่ ที่จะมี Personal Consultant และ Relationship Manager ที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างบ้านหลังใหญ่ ซึ่งจะดูแลลูกค้า แลนดี้ แกรนด์ ทุกขั้นตอนการสร้างบ้าน ในทุกจุดการบริการเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ และได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกๆ Touch Point