Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

ผู้ประกอบการอาคารสำนักงานปรับตัวสู้วิกฤติ ผนึกพันธมิตรแบ่งผลกำไรแลกความเสี่ยงพื้นที่ว่าง-รับรู้รายได้เร็ว

ไนท์แฟรงค์เผยโควิด-19 ยังสร้างความท้าทายต่อภาพรวมเศรษฐกิจตลาดอาคารสำนักงานในกทม.ในช่วงไตรมาส 2/64 ส่งผลหลายบริษัทมีนโยบายWFH แต่ยังมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี สุขอนามัย ที่ยังมีความต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานอย่างต่อเนื่อง  คาดครึ่งปีหลัง64 มีพื้นที่สำนักงานเข้าสู่ตลาดเพิ่มอีก 175,800 ตารางเมตร จาก 9 โครงการใหม่ที่สร้างแล้วเสร็จ ด้านอัตราการเช่ายังมีสัญญาณการฟื้นตัว แต่อาคารเกรดA มีอัตราลดลง ขณะที่เกรด B-C มีการเช่าเพิ่มขึ้น ธุรกิจ Co-Working Spaceกลายเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนความต้องการที่โดดเด่น ผู้ประกอบการยอมทำข้อตกลงแบ่งปั่นผลกำไร แลกความเสี่ยงพื้นที่ว่าง-รายได้ที่จะเกิดในอนาคต
นายปัญญา เจนกิจวัฒนาเลิศ
นายปัญญา เจนกิจวัฒนาเลิศ กรรมการผู้บริหารและหัวหน้าส่วนงานพื้นที่พาณิชยกรรม บริษัท ไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์โควิด-19 ยังคงสร้างความท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดสำนักงานในกรุงเทพฯ ในช่วงไตรมาส 2/2564  หลายๆ บริษัทขยายนโยบายการทำงานจากที่บ้าน( Work From Home : WFH) ไปสู่ระดับต่างๆ โดยบริษัทต่างชาติมีนโยบายที่มากกว่าบริษัทไทย บริษัทส่วนใหญ่ยังคงลังเลที่จะเดินหน้าตามแผนการย้ายเข้าสู่พื้นที่สำนักงาน เนื่องจากสภาวะธุรกิจที่ไม่แน่นอน และกำหนดการการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ยังไม่มีความชัดเจน อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีการเคลื่อนไหวของตลาดที่สำคัญอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงขับเคลื่อนจากบริษัทอีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี และสุขอนามัย ซึ่งยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและมีการใช้พื้นที่สำนักงานมากขึ้น เจ้าของอาคารสำนักงานที่เปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด (reposition) และปรับกลยุทธ์การปล่อยเช่าได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วจะได้รับประโยชน์เหนือผู้ที่ยังไม่เริ่มเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ระดับ 1.8% ในปี 2564 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกที่ 3%  เศรษฐกิจจะฟื้นตัวในปีหน้า โดยคาดว่าจะขยายตัว 3.9% ในปี 2565

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP ลง เนื่องจากการระบาดระลอกที่ 3 ของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภายในประเทศ และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศไทย ในขณะเดียวกัน การเติบโตในปี 2565 จะได้รับผลดีจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของภาครัฐ รวมถึงภูมิคุ้มกันหมู่ที่น่าจะเกิดขึ้นภายในครึ่งปีแรกของปี 2565 ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะเอื้อให้มีการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากขึ้น มูลค่าการส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัว 17.3% ในปี 2564 ตามผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดในไตรมาสที่ 1

อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังคงหดตัวและฟื้นตัวอย่างช้าๆ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกปรับลดลงเหลือ 7 ล้านคนในปี 2564 และ 10 ล้านคนในปี 2565 จากผลกระทบของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ซึ่งทำให้บางประเทศยังคงมีการใช้นโยบายจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดหลายอย่างในช่วงครึ่งปีแรก แต่เนื่องจากมีการออกมาตรการเยียวยาและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาล การบริโภคภาคเอกชนจะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อีกทั้ง ความก้าวหน้าในการกระจายวัคซีนยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้การใช้จ่ายในภาคการท่องเที่ยวและบริการฟื้นตัว การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนจะมีสเถียรภาพขึ้น โดยจะขยายตัว 7% ในปี 2564 และ 6% ในปีหน้า แม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนในครึ่งปีแรกได้อ่อนตัวลง แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังเนื่องจากการส่งออกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและการบริโภคของภาคเอกชนที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (BSI) ในเดือนมิถุนายน 2564 อยู่ที่ 46.5 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ระดับ 50 ซึ่งหมายความว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง เนื่องจากมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจของพวกเขาในเดือนนี้ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า ความเชื่อมั่นของผู้ตอบแบบสอบถามในภาคการผลิตถูกลดทอนลงด้วยอุปสงค์ภายในประเทศที่ต่ำ ราคาเหล็กที่สูงขึ้น และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าที่ยังคงยืดเยื้อ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักของความกังวล ในทำนองเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถามในภาคการขนส่งผู้โดยสารยังคงมีมุมมองลบหลังจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น การคาดการณ์ของ BSI ในระยะ 3 เดือนถูกบันทึกไว้ที่ระดับ 49.6  สำหรับภาคการก่อสร้าง โรงแรม และร้านอาหารอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ระดับ 50 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี

สำหรับอุปทานรวมสำหรับพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 106,500  ตารางเมตร(ตร.ม.) เป็น 5.53 ล้านตารางเมตร ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 คิดเป็นอัตราการเติบโต 2% จากไตรมาสก่อน มีอาคารสำนักงานใหม่ 3 แห่งสร้างเสร็จ ส่งผลให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 22,500 ตารางเมตร  ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ และ 84,000 ตารางเมตร สำหรับนอกย่านศูนย์กลางธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ไม่มีการถอดถอนอาคารออกจากตลาด

ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 คาดว่าจะมีพื้นที่สำนักงานเข้าสู่ตลาดเพิ่มอีก 175,800 ารางเมตร เนื่องจากมีโครงการใหม่ 9 แห่งสร้างแล้วเสร็จ ประมาณ 60% ของอุปทานใหม่ คาดไว้ว่าจะอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีอุปทานใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 157,000 ตารางเมตรในแต่ละปี ในทางเปรียบเทียบ หากการเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 ถึง 2569 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ อุปทานของตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯจะเติบโตรวม 1.67 ล้านตารางเมตร หรือเฉลี่ย 302,000 ตารางเมตรต่อปี (ไม่รวมการถอดถอนอาคาร) นักพัฒนายังไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของตลาดในปีที่ผ่านมา และยังคงส่งมอบโครงการตามกำหนดเวลาและประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการในอนาคตอีกด้วย ความคืบหน้าของการก่อสร้างในบางพื้นที่ชะลอตัวลงตามข้อกำหนดของรัฐบาลในการควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 อย่างไรก็ตามมาตรการเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญต่อวันที่การก่อสร้างแล้วเสร็จตามการประมาณการ เว้นแต่ว่าการระบาดจะรุนแรงมากขึ้นและมีการประกาศใช้ข้อกำหนดจากภาครัฐที่มีความเข้มงวดมากขึ้น แม้โควิด-19จะทำให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างและการถอดถอนอาคารเก่าเพิ่มขึ้นซึ่งอาจแก้ไขผลกระทบจากความเป็นไปได้ของอุปทานล้นตลาด แต่ตลาดที่ไม่สมดุลก็ยังไม่น่าถูกแก้ไขได้ในระยะสั้น

หากมองในแง่ดี  อัตราการเช่ายังคงแสดงสัญญาณการฟื้นตัว เนื่องจากมีการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็น 78,000 ตารางเมตร ระดับนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 67,000 ตารางเมตรต่อไตรมาส ในขณะที่มีพื้นที่ว่าง 57,100 ตารางเมตร นับว่าเป็นไตรมาสที่ 4 แล้วที่ปริมาณการเช่าพื้นที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน เนื่องจากมีการใช้พื้นที่มากกว่าจำนวนพื้นที่ว่าง ดังนั้นค่าการดูดซับสุทธิอยู่ที่ 21,000 ตารางเมตร นับเป็นไตรมาสแรกที่การดูดซับสุทธิเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2563 อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับอุปทานที่เพิ่มขึ้น 106,500 ตารางเมตร ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย เพราะแสดงให้เห็นว่าช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทานยังคงกว้างขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้พื้นที่ขนาด 36,300 ตารางเมตร หรือประมาณ 47% ของพื้นที่เช่าเป็นอาคารใหม่และเป็นอาคารที่ได้รับการตกแต่งใหม่ เผยให้เห็นว่าความต้องการกระจุกตัวสูงอยู่ในอาคารเพียงไม่กี่แห่ง และอาคารสำนักงานส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาความต้องการกำลังหดตัว

เนื่องจากการดูดซับสุทธิเป็นบวก พื้นที่ครอบครองทั้งหมดจึงเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 4.59 ล้านตารางเมตร พื้นที่ที่ตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ ทั้งเต็มรูปแบบและบางส่วน มีปริมาณมากขึ้นและยังคงปล่อยเช่าในตลาด  เนื่องจากงบประมาณของผู้เช่ามีจำกัด แม้ว่าพื้นที่ที่มีการตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งาน (fit out) ส่วนใหญ่เป็นการตกแต่งโดยผู้เช่าเดิมที่ย้ายออกไป แต่เจ้าของอาคารบางรายก็สามารถดึงดูดผู้เช่ารายใหม่ได้สำเร็จโดยการเสนอพื้นที่แบบ Fit-to-Suit ให้กับผู้เช่าหรือปรับปรุงค่าใช้จ่ายรายเดือนให้กับผู้เช่า นอกจากนี้ผู้ประกอบธุรกิจ Co-Working Spaceกลายเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนความต้องการที่โดดเด่น โดยมีการทำข้อตกลงแบ่งปันผลกำไรกับเจ้าของอาคาร (Profit Sharing) ทำให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนล่วงหน้าที่จำเป็นในการจัดการพื้นที่ได้อย่างมาก ก่อนหน้านี้โมเดลนี้ยังไม่ได้นำมาใช้ในวงกว้างและไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าของอาคารส่วนใหญ่มากนัก พวกเขาชอบการให้บริการพื้นที่แบบ “ดั้งเดิม” โดยอ้างว่าขาดความเชี่ยวชาญหรือต้องการลงทุนสร้างสินทรัพย์ระยะยาวในCco-Working Space อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าของอาคารจำนวนมากได้ทำข้อตกลงในโครงการ Co-Working Space เพื่อแบ่งปันผลกำไร โดยเลือกที่จะรับความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อแลกกับรายได้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แทนที่จะปล่อยให้มีพื้นที่ว่างเหลืออยู่โดยไม่ได้ใช้งาน

อัตราการครอบครองของตลาดลดลง 1.2% เป็น 83% ซึ่งเป็นอัตราการครอบครองที่ต่ำที่สุดของตลาดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และเป็นไตรมาสที่ 9 ที่อัตราการครอบครองลดลงติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยเปรียบเทียบแล้ว อัตราการครอบครองเฉลี่ย 10 ปีอยู่ที่ 90%  พื้นที่ทุกเกรดในตลาดอาคารสำนักงานยังคงมีผลประกอบการต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของแต่ละเกรด แต่ที่น่าสนใจคือในขณะที่อัตราการครอบครองลดลง 1.5% สำหรับเกรด B และ 1.8% สำหรับเกรด C แต่กลับเพิ่มขึ้น 0.3% สำหรับเกรด A  การเก็บค่าเช่าสำหรับพื้นที่เกรด A ที่ลดลงอาจเป็นปัจจัยดึงดูดผู้เช่าบางราย เพราะเป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้จ่ายที่มากขึ้นของผู้เช่าที่ต้องการพื้นที่คุณภาพสูง

ส่วนอัตราการการครอบครองสำหรับย่านศูนย์กลางธุรกิจทั้งหมดลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราการครอบครองเพิ่มขึ้นสำหรับย่านเพลินจิต – ชิดลม – วิทยุ และนานา – อโศก – พร้อมพงษ์ โดยเพิ่มขึ้น 1.2% และ 0.2% ตามลำดับ ขณะที่อัตราการครอบครองนอกย่านศูนย์กลางธุรกิจ ลดลง 1.9%  มีเพียงแค่ย่านพหลโยธิน – วิภาวดี ที่มีการเติบโต โดยมีอัตราการครอบครองเพิ่มขึ้น 0.9%

ราคาเช่าเฉลี่ยเกือบจะคงที่จากไตรมาสแรก โดยลดลงเพียง 1 บาทเป็น 791 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน เจ้าของอาคารส่วนใหญ่ยังคงราคาเช่าไว้ที่เดิม แต่เปิดโอกาสให้ผู้เช่าทำการเจรจาต่อรองมากขึ้น ในบางสัญญาเช่า อัตราเช่าที่แท้จริง (effective rate) จะต่ำกว่าราคาเช่า ถึง 30% ราคาเช่าเฉลี่ยในขณะนี้ลดลง 1.3% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่เพิ่มขึ้น  3.8% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ราคาเช่าเฉลี่ยของพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A ลดลง 0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ในขณะเดียวกัน มีการเพิ่มขึ้น 0.6% สำหรับเกรด B และ 1.3% สำหรับเกรด C

ราคาเช่าเฉลี่ยลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนสำหรับอาคารในย่านศูนย์กลางธุรกิจ มีเพียงทองหล่อ – เอกมัย – พระโขนงเท่านั้นที่มีค่าเช่าสูงขึ้น เนื่องจากเป็นเพียงย่านเดียวที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยสูงขึ้นทั้งรายไตรมาสและรายปี ในขณะเดียวกัน ราคาเช่าเฉลี่ยสำหรับอาคารนอกย่านศูนย์กลางธุรกิจเพิ่มขึ้น 1.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการสร้างอาคารใหม่ 2 แห่งที่แล้วเสร็จ ซึ่งมีราคาสูงกว่าอัตราค่าเช่าเฉลี่ยของตลาดในย่านนี้  โดยบ่งชี้จากการเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ในย่านเพชรบุรี – พระราม 9 – รัชดา

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง