นายเดฟ ลู ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายบอร์เดอร์ดอทคอม จำกัด (whyborder) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวแพลตฟอร์มเว็บไซต์แนวใหม่สำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบไร้พรหมแดน รองรับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นายหน้า ผู้ขาย และผู้ซื้อ ผ่านการดำเนินงานระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมให้ผู้ซื้อทั่วโลกสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการแบบเสมือนจริง สื่อวิดีโอ และภาพนิ่ง ที่นำเสนอธีมการตกแต่งภายใน ผังโครงการ และเอกสารรายละเอียดผังห้อง
รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับทำเลที่ตั้ง ระยะทางเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ช็อปปิ้งมอลล์ สถาบันการศึกษา และแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้แพลตฟอร์มสามารถประเมินโครงการได้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ
ปัจจุบันแพลตฟอร์มวายบอร์เดอร์มีโครงการอยู่ในระบบจำนวน 54 เมืองใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 6,173 เขต เส้นทางรถไฟ 555 สาย สถานีรถไฟ 9,537 แห่ง และแลนด์มาร์กสำคัญ 9,649 จุด
ล่าสุดบริษัได้ทำจัดทำแพลตฟอร์มการประมูลอสังหาฯในประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อให้ผู้ซื้อในต่างประเทศที่ต้องการซื้ออสังหาฯในทำเลต่างๆของเมืองไทย สามารถเข้าร่วมประมูลซื้ออสังหาฯพร้อมพร้อมดีลข้อเสนอส่วนลดสุดพิเศษ ผ่านระบบการประมูลแบบวายบิด (Whybid) ซึ่งเป็นการประมูลแบบย้อนกลับ (Reverse Bidding) โดยผู้ประมูลสามารถกำหนดราคาที่ต้องการจะซื้อต่ำกว่าราคาตั้งก็ได้ หรือสามารถเสนอราคาที่ต้องการจะซื้อไปยังผู้ขายได้โดยตรงก็ได้โดยไม่ต้องประมูล หากผู้ประกอบการสามารถรับราคาที่ผู้ซื้อเสนอมาได้ก็ตกลงซื้อขายกันได้ แต่ถ้าหากเป็นการประมูล ผู้ชนะการประมูลจะต้องนำเสนอราคาสูงสุดเท่านั้น และจะต้องดำเนินการขั้นตอนทางธุรกรรมให้เสร็จภายในเวลา 2 เดือน
สำหรับการจัดประมูลในครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 8-15 ตุลาคมนี้ โดยมีบริษัทนายหน้าที่ได้รับการแต่งตั้งในแต่ละประเทศทำหน้าที่ช่วยจัดการรายละเอียดและธุรกรรมการซื้อขายท สำหรับประเทศไทยมีบริษัทเน็กซัส ทำหน้าที่เป็นตัวแทนนายหน้า โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้สนใจประมูลจาก 7 ประเทศได้เข้าร่วมประมูลพร้อมกัน อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เป็นต้น
“ระบบการประมูลแบบย้อนกลับของวายบิด จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่มีสต็อกห้องชุดเหลือขายในมือสามารถขายสินค้าออกไปได้ รวมทั้งยังสามารถจัดหาสินค้าในสต็อกนำมาเสนอขายโดยตรงให้กับผู้ประมูลรายอื่นที่เสนอราคาที่ต้องการซื้อเข้ามาแต่ไม่ชนะการประมูล ซึ่งจะมีทั้งราคาประมูลที่ต่ำสุดไปจนถึงราคาระดับกลางที่มีผู้ประมูลตั้งราคาซื้อมากที่สุด ขณะที่ผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ร่วมประมูลสามารถซื้ออสังหาฯ ที่ต้องการได้จากที่บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางมาเมืองไทย”
เบื้องต้นมีผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่นำคอนโดฯพร้อมอยู่แห่งโครงการเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ อาทิ โครงการมารุ ลาดพร้าว 15 และโครงการแมนเนอร์ สนามบินน้ำ ของกลุ่มเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โครงการไฮด์ สุขุมวิท 11ของกลุ่มแกรนด์ แอสเสท โครงกการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39, ศุภาลัย เอลีท สุรวงศ์ และศุภาลัย ไพร์ม พระราม 9 ของกลุ่มศุภาลัย
นายเดฟ ลู กล่าวว่า ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ตลาดอสังหาฯ ในไทยมีแนวโน้มที่ดีและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีนักลงทุนทั้งในประเทศและชาวต่างชาติจำนวนมากมองเห็นถึงโอกาสในการลงทุน อีกทั้งยังมีตัวเลือกมากมายแก่ผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดฯหรูแบบไฮไรส์ไปจนถึงแบบโลว์ไรส์ รวมถึงบ้านเดี่ยวแบบวิลล่าในหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ตและสมุย ทำให้นักลงทุนสนใจซื้อบ้านพักตากอากาศหรือซื้ออสังหาฯไว้เก็งกำไรจากค่าเช่า แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาฯเกิดการหยุดชะงัก รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ซื้อครั้งใหญ่
ทำให้ผู้ประกอบการต้องทบทวนแผนการลงทุนใหม่และปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มและความต้องการซื้อรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น จนทำให้เกิดแนวคิดและแนวทางใหม่ๆ บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทาง
ดังนั้นกลุ่มวายบอร์เดอร์จึงได้เข้ามาเปลี่ยนโฉมตลาดอสังหาฯในเมืองไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้สามารถเชื่อมต่อความต้องการของผู้ซื้อชาวต่างชาติและไทยกับเจ้าของโครงการที่ต้องการขายอสังหาฯ ได้ครบทุกมุมมอง โดยมีข้อมูลให้ผู้สนใจซื้อตั้งแต่การดูข้อมูลและการเปรียบเทียบโครงการ การค้นหาโซนพักอาศัยที่ต้องการ ไปจนถึงการให้ข้อมูลติดต่อของนักกฎหมายในพื้นที่เพื่อขอคำปรึกษาฟรีผ่านระบบการส่งข้อความบนเว็บไซต์
