ที่ประชุมคณะคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติในหลักการโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร
โดยจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบรายละเอียดและการก่อสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษา รวมทั้งเอกชนจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่มดำเนินงานในลักษณะของ Build – Transfer – Operate (BTO)
พร้อมทั้งให้เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รายได้ค่าผ่านทาง โดยมีระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี นับจากวันที่ กทพ. มีในหนังสือแจ้งให้เริ่มปฏิบัติงาน ตามรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามรายละเอียดที่คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐประกาศกำหนดของโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต (รายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการฯ) ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561
โดยลักษณะโครงการก่อสร้างทางยกระดับ จะมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร เป็นทางพิเศษขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง แบ่งเป็น 2 ช่องจราจรสำหรับรถยนต์ และอีก 2ช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์
จุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับถนนพระเมตตาในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ เป็นทางยกระดับไปจนถึงเทิอกเขานาคเกิด ระยะทางประมาณ 900 เมตร และเข้าสู่โครงสร้างปากอุโมงค์คู่ความยาว 1,850 เมตรลอดเทือกเขานาคเกิดไปเชื่อมต่อกับทางยกระดับดับ ระยะทาง 1,230 เมตร จนจุดสิ้นสุดโครงการในพื้นที่ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ มีทางขึ้น – ลง 2 แห่ง ด่านเก็บค่าผ่านทางตั้งอยู่บริเวณตำบลกะทู้ 1 ด่าน
สำหรับงบประมาณการลงทุนเริ่มต้นของโครงการประมาณ 14,670.57 ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5,792.24 ล้านบาท ค่าก่อสร้างจำนวน 8,662.61 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 215.72 ล้านบาท (วงเงินปรับปรุง ณ ปี 2566) ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี เริ่มตั้งแต่พฤษภาคม 2565 – กรกฎาคม 2570
โครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 โดยกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้การทางพิเศษฯพิจารณาศึกษาโครงการ เพิ่มเส้นทางการเดินทางระหว่างตัวเมืองฝั่งตะวันออกของภูเก็ตไปยังหาดป่าตองให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และนักท่องเที่ยว และลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นบนถนนหมายเลจ 4029 เนื่องจากสภาพเส้นทางที่ลาดชันและคดเคี้ยว รวมทั้งใช้เป็นเส้นทางอพยพกรณีเกิดภัยพิบัติ เช่น กรณีเกิดสึนามิ เป็นต้น
รูปประกอบ:https://www.exat.co.th/
