Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

ศูนย์ข้อมูลฯฟันธงที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่กทม.-ปริมณฑลปี’65เพิ่ม1เท่าตัว

ศูนย์ข้อมูลประเมินตลาดอสังหาฯกทม.-ปริมณฑลปี 2565 เปิดตัวโครงการพุ่ง 1 เท่าตัวจากปีก่อนหน้าที่มีการการเปิดตัวใหม่แค่ 46,602 ยูนิต ต่ำสุดในรอบ 11ปี ชี้ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง การผ่อนปรน LTV ของธปท ขณะที่ผู้ประกอบการยังคงมีการทำโปรโมชั่นลดราคาขายและให้ของแถมต่างๆต่อเนื่อง

ดร. วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงทิศทางของตลาดที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลปี 2565ว่า จะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวหรือประมาณ 81,126 ยูนิต เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่แค่ 46,602 ยูนิต ซึ่งต่ำสุดในรอบ 11 ปีนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯแต่จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ยังสูงถึง 82,595 ยูนิต

ส่วนจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่คาดว่าจะมีประมาณ 105,307 ยูนิต เพิ่มขึ้น 35.3% จากปี 2564 ขณะที่หน่วยโอนกรรมสิทธิ์จะอยู่ที่ 332,192 ยูนิตเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 25.1% คิดเป็นมูลค่า 909,864 ล้านบาท โดยเฉพาะการโอนกรรมสิทธิ์บ้านแนวราบจะเพิ่มขึ้นประมาณ 24.6%

ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ทั่วประเทศคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 627,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 2.5%  และมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลคงค้างจะอยู่ที่ 4,748,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณ 5.5%

ทั้งนี้ธุรกิจอสังหาฯในปี 2565 ยังคงต้องเผชิญทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โดยในส่วนของปัจจัยบวกจะได้รับผลดีจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง การผ่อนปรน LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ทั้งการซื้อบ้านสัญญาที่ 2 และ 3 สำหรับอยู่อาศัยหรือเพื่อการลงทุนมีเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการยังคงมีการทำโปรโมชั่นลดราคาขายและให้ของแถมต่างๆต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยลบที่จะมีผลต่อการซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ คือ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอย่างน้อย 0.50% การแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์ “โอมิครอน” ซึ่งมีการแพร่ระบาดค่อนข้างรวดเร็ว รวมถึงภาวะหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงถึง 90% ของ GDP การจ้างงานและรายได้ของประชาชนที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ ต้นทุนค่าก่อสร้างที่เริ่มขยับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่อาจจะมีการปรับราคาขึ้น

“REIC ประเมินภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปีนี้ จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2564 และจะเป็นการเปิดโครงการแนวราบในสัดส่วนที่มากกว่าอาคารชุด ขณะที่อาคารชุดจะค่อยๆ ฟื้นตัว เนื่องจากส๖อกสินค้าที่เหลือขายในตลาดเริ่มลดลง และราคาที่ดินที่แพงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างอาคารชุดเพื่อให้สอดคล้องกำลังซื้อที่เป็นคนไทยกลุ่ม Gen-Y และ Gen-Z ลงมา ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น”

ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศปี’64 ต่ำสุดในรอบ 15ปี

สำหรับภาพรวมของอุปสงค์และอุปทานที่อยู่อาศัยในช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา ดร.วิชัยกล่าวว่า มีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั่วประเทศจำนวน 66,835 ยูนิตลดลงจากปี 2563 ประมาณ 23.9% และต่ำสุดในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 แต่ยังสูงกว่าปี 2549 ที่เกิดรัฐประหาร มีการออกใบอนุญาตจัดสรรแค่ 50,109 ยูนิต

โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2564 มีจำนวน 46,602 ยูนิต ลดลงจากปี 2563 ประมาณ 29.6% มูลค่าเปิดตัวใหม่ 191,226 ล้านบาท ลดลง 42.8%

ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมีจำนวน 265,493 ยูนิตลดลงจากปี 2563 ประมาณ 21.6%   ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 ปีนับตั้งแต่ปี 2558 ที่มีจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์  375,035 ยูนิต

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน  8,198  ยูนิต ลดลง 1.1% ส่วนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 39,610  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%  แต่ยังคงต่ำกว่าสัดส่วนค่าเฉลี่ย 2 ปี (2561-2562) ที่มีประมาณ 15.9% โดยผู้ซื้อชาวจีนมีการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด จำนวน 4,867 ยูนิต คิดเป็น 59% ของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติ คิดเป็นมูลค่า 22,874 ล้านบาท รองลงมาเป็นชาวรัสเซียจำนวน  306 ยูนิต สหราชอาณาจักรจำนวน 280 ยูนิต  มูลค่า 1,252 ล้าน

 

โพสที่เกี่ยวข้อง