Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

Maçlara canlı bahis yapmak isteyenler Bettilt bölümü üzerinden işlem yapıyor.

Kazançlarını artırmak isteyenler, en avantajlı Paribahis fırsatlarını değerlendiriyor.

Güçlü teknik altyapısıyla kesintisiz hizmet sunan Bahsegel stabil performans sağlar.

Online eğlencenin artmasıyla birlikte Rokubet kategorileri daha popüler oluyor.

เจาะผลสำรวจการซื้อที่อยู่อาศัยปี 65 บ้านแบบไหนตรงใจผู้บริโภค?

ผลสำรวจของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (Economic Intelligence Center : EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยปี 2565 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างช้า ๆ จากการเลื่อนแผนการซื้อที่อยู่อาศัยออกไป และคนส่วนใหญ่มองว่าการฟื้นตัวของตลาดยังต้องอาศัยมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะที่พฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่สนใจแนวราบที่ระดับราคาเข้าถึงได้ และตลาดบ้านมือสองยังได้รับความสนใจค่อนข้างมาก โดยตลาดที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลายด้านทั้งความต้องการที่ชะลอตัวและพฤติกรรมในการเลือกที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป

ทั้งนี้ความต้องการที่อยู่อาศัยชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มรายได้เปราะบาง ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ทำให้มีการเลื่อนการซื้อที่อยู่อาศัยออกไป 2-3 ปีข้างหน้า และการลดงบประมาณซื้อที่อยู่อาศัยลง จากข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น รายได้ลดลง วงเงินกู้ที่ได้รับจากธนาคารลดลง โดยตลาดต่างจังหวัดยังชะลอตัว นอกจากการชะลอตัวของ Real Demand ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจแล้ว ยังรวมถึงการซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เพื่อการลงทุนและเพื่อเตรียมเกษียณ ขณะที่การซื้อของตลาดต่างชาติยังฟื้นตัวได้ช้า โดยชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจในการซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด

คนส่วนใหญ่หันมาสนใจที่อยู่อาศัยแนวราบ เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ด้านพื้นที่ใช้สอยในยุค New normal และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น และพบว่าส่วนใหญ่สนใจซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จากข้อจำกัดของกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ ซึ่งเป็นระดับราคาที่อาจเข้าถึงแนวราบประเภทบ้านเดี่ยวบ้านแฝดได้ค่อนข้างยาก จึงเป็นโอกาสของตลาดทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ

อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังซื้อยังเปราะบางส่งผลให้คนสนใจที่อยู่อาศัยมือสองค่อนข้างมาก จากราคาที่ถูกกว่าโครงการใหม่ อีกทั้งยังต้องการอยู่ในทำเลที่สะดวก เช่น ใกล้ที่ทำงาน สถานศึกษา ซึ่งอาจหาที่อยู่อาศัยมือหนึ่งในราคาที่ถูกได้ยากในบางทำเล

ทั้งนี้การฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังต้องอาศัยปัจจัยกระตุ้น โดยมาตรการภาครัฐ ทั้งมาตรการผ่อนคลายอัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ซึ่งทำให้สามารถกู้ได้ 100% และการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงการจัดโปรโมชันของผู้ประกอบการ ในช่วง COVID-19 กระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยให้เร็วขึ้น

นอกเหนือจากทำเล รูปแบบของที่อยู่อาศัย และระดับราคาแล้ว ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยในหลายด้าน รวมถึงบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย โดยเทคโนโลยี มีส่วนต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย และการจัดการพลังงาน ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้อยู่อาศัย

อีกทั้งความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทุกวัยให้ความสำคัญสูงสุด โดยระบบเตือนภัยต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์ Smart Home ที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยอยากให้มีติดตั้งในที่อยู่อาศัยมากที่สุด รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการที่ต้องได้มาตรฐาน รองลงมาคือ ปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนหรือจัดสรรใหม่ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยในแต่ละสถานการณ์

นอกจาก 2 ปัจจัยหลักข้างต้น ปัจจัยที่คนแต่ละช่วงวัยให้ความสำคัญลำดับถัดมา ได้แก่

Gen Y&Z : แม้จะต้องการความเป็นอิสระส่วนตัวสูง แต่ในการอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวก็ยังให้ความสำคัญกับ Universal Design ที่คำนึงถึงคนกลุ่มต่าง ๆ ในครอบครัว เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง

-Gen X และ baby boomer ให้ความสำคัญกับการออกแบบและระบบต่าง ๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงาน สะท้อนการให้ความสำคัญกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

นอกจากนี้ ทุกช่วงวัยให้ความสำคัญกับทางเลือกในการ Customize รูปแบบ หรือวัสดุต่าง ๆ ได้

โดยแอปพลิเคชันติดต่อนิติบุคคลเป็นบริการหลังการขายที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยสูงที่สุด สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อ และการเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกต่อผู้อยู่อาศัยมากขึ้น

ทั้งนี้ EIC มองว่าผู้ประกอบการยังเผชิญความท้าทายในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะที่ตลาดยังมีข้อจำกัดอยู่มากจากกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ส่งผลให้ต้องระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่ เน้นตอบโจทย์กลุ่มที่มีศักยภาพ ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว อาทิ นำเสนอความคุ้มค่า และสร้างความแตกต่าง

ความท้าทาย

ทั้งนี้การฟื้นตัวในระยะข้างหน้า เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์กำลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มรายได้เปราะบาง โดยต้นทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาวัสดุก่อสร้าง แรงงาน และราคาที่ดิน อีกทั้งยังมีโอกาสในการเกิดภาวะอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้การเปิดโครงการใหม่ต้องเป็นไปอย่างอย่างระมัดระวัง และมีการบริหารความเสี่ยง

การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย

โดยในช่วงที่ตลาดที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ผู้ประกอบการยังสามารถเจาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อ / มีศักยภาพ โดยยังมีผู้ซื้อที่อยู่อาศัยบางกลุ่มตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้นในช่วงที่ COVID-19 ระบาด จากการจัดโปรโมชันของผู้ประกอบการ การซื้อก่อนที่ราคาที่อยู่อาศัยจะปรับขึ้น รวมถึงมีการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อตอบโจทย์อยู่อาศัยที่บ้านมากขึ้น

อีกทั้งต้องนำเสนอความคุ้มค่า ด้วยสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความปลอดภัย และความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน / การออกแบบให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย รวมไปถึงสร้างความแตกต่างด้วยสินค้า และบริการใหม่ ๆ เช่น สภาพแวดล้อมและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เทคโนโลยี / บริการใหม่ ๆ ทางเลือกให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้เลือกจ่ายเงินเพิ่ม สำหรับบริการหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

การสํารวจความคิดเห็นผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัยของ EIC (EIC Real Estate Survey) ผ่านช่องทางออนไลน์ Monkey Survey ระหว่างวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ถึง 7 มีนาคม 2565 มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 3,193 คน

วิกฤติ COVID-19 ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยอย่างไร?

กําลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัว อย่างต่อเนื่องจาก ผลกระทบของการ แพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะในกลุ่มกําลังซื้อระดับ ปานกลาง-ล่างที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ส่งผลให้มีการชะลอ แผนซื้อที่อยู่อาศัยออกไปหรือลดงบประมาณในการซื้อลง

ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งเห็นด้วยว่า COVID-19 ทำให้ต้องพิจารณาแผนการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งชะลอระยะเวลาในการซื้อออกไปหรือลดงบประมาณ ในการซื้อลง จากความกังวลเกี่ยวกับรายได้และความมั่งคั่งที่ลดลง โดยกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยังคงมีความกังวลค่อนข้างมาก ทั้งนี้แม้แต่ในกลุ่มที่มีรายได้สูง (มากกว่า 100,000 บาท/เดือน) ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าโดยเฉพาะในด้านงบประมาณซื้อส่วนใหญ่รายครึ่งหนึ่งก็ยังมีความกังวลและเลื่อนแผนการซื้อ ที่อยู่อาศัยออกไป

กําลังซื้อในตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมยังมี ความเปราะบาง ส่วนใหญ่ยังไม่มีแผน จะซื้อจากความกังวล ด้านรายได้ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บางกลุ่มเพิ่งซื้อไป จากการที่ผู้ประกอบการมีการนําเสนอโปรโมชัน เพื่อระบายสต๊อก ในช่วงที่ผ่านมา

COVID-19 ส่งผล กระทบต่อตลาด ที่อยู่อาศัย ทั้งในด้านการเข้าชมโครงการ การเลื่อนซื้อที่อยู่อาศัย และการลดงบประมาณ ซื้อที่อยู่อาศัยลง

การแพร่ระบาดของCOVID-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในด้านการเข้าชมโครงการ การเลื่อนซื้อที่อยู่อาศัย และการลดงบประมาณซื้อที่อยู่อาศัยลง โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 67% ระบุว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการเลื่อนหรือชะลอการเข้าชมโครงการ ออกไปในช่วงที่มีการระบาดอย่างรุนแรง สะท้อนว่าการเพิ่ม ช่องทางการขายอื่นๆ อาทิ ออนไลน์ และการนําเทคโนโลยีมาช่วยในการชมโครงการมีความสำคัญมากขึ้น

โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ระบุว่า มีการเลื่อนการซื้อที่อยู่อาศัย ออกไป 2-3 ปีข้างหน้าจากความกังวลทางด้านรายได้ ทั้งรายได้ในปัจจุบันที่ลดลง และความไม่แน่นอนของรายได้ในอนาคต สะท้อนการฟื้นตัวช้าของตลาดที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างราวครึ่งหนึ่งลดงบประมาณซื้อที่อยู่อาศัยลง จากข้อจํากัดต่าง ๆ เช่น รายได้ลดลง วงเงินกู้ที่ได้จากสถาบันการเงินจํากัด จากการที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการยังต้องเน้นการนําเสนอโปรโมชัน และนําเสนอความคุ้มค่า เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในช่วงการระบาดของ COVID-19 การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยจะถูกกระตุ้น จากปัจจัยด้านราคา และการอยู่อาศัยที่บ้านมากขึ้น โดยยังมีกลุ่มตัวอย่างส่วนหนึ่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยราคายังเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างดี โดยกลุ่มตัวอย่างที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ระบุเหตุผลที่การ ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น จากการจัดโปรโมชันของ ผู้ประกอบการ และเป็นการซื้อก่อนที่ราคาที่อยู่อาศัยจะปรับขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อตอบ โจทย์การอยู่อาศัยที่บ้านมากขึ้น เช่น ทำงานที่บ้าน เรียน ออนไลน์  โดยกลุ่มตัวอย่างที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่ระบุว่าซื้อที่อยู่อาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท รองลงมาเป็น 3-5 ล้านบาท สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยราคาปานกลาง ที่ผู้ประกอบการจะสามารถระบายสินค้ากลุ่มนี้ได้แม้มีการแพร่ระบาดของ COVID-19

แม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ผู้บริโภค ส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัย ก่อนการซื้อรถยนต์ ส่วนมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐจะมีผลเพียงในระยะสั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้บางส่วน ในภาวะเศรษฐกิจ ที่ยังฟื้นตัวได้ช้า การออกมาตรการสนับสนุนตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงน่าจะเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยเร่งการฟื้นตัวในระยะต่อไป

โดยผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 3 ใน 4 เห็นด้วยว่ามาตรการภาครัฐทั้งการผ่อนคลาย LTV และการลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ ที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีส่วนกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น ขณะที่การกระตุ้นโดยโปรโมชันจากผู้ประกอบการมีสัดส่วนผู้เห็นด้วยน้อยกว่าไม่มากนัก ซึ่งผลสํารวจสะท้อนการให้เห็นความจําเป็นของการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการต่อตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในระยะสั้นที่การฟื้นตัวของ กําลังซื้อยังเป็นไปอย่างช้า ๆ รวมถึงในระยะกลางที่คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนเกิด COVID-19 ได้เร็วขึ้น

ที่อยู่อาศัยแบบไหนตรงใจผู้บริโภค?

อย่างไรก็ตามผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจที่อยู่อาศัย แนวราบ ในกลุ่มบ้าน เดี่ยว บ้านแฝด จากความเป็นส่วนตัว และ พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ ทั้งในส่วนของรูปแบบ บ้านโครงการ หรือ บ้านสร้างเองซึ่งจะ มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า เนื่องจากมีที่ดินอยู่แล้ว และสามารถปรับแต่งพื้นที่ได้ตามต้องการ

โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กว่า 39% สนใจบ้านเดี่ยวสร้างเอง ขณะที่อีก 36% ก็สนใจประเภทบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดในโครงการ แสดงให้เห็นว่าที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y + Z จากเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว และด้านพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอหรือพอเหมาะกับการดูแล

ประเภทที่ได้รับความสนใจรองลงมา คือ คอนโดมิเนียมที่ 15% (High-Rise 8% และ Low-Rise 7%) จากเหตุผลด้านความสะดวก ในการเดินทางและความสะดวกในการดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่ม Baby Boomer ที่อาจไม่ได้อาศัยอยู่กับลูกหลาน หรือซื้อเพื่อเป็น สถานที่เปลี่ยนบรรยากาศ รวมถึงซื้อเพื่อการลงทุนให้บุตรหลาน

อย่างไรก็ตาม กําลังซื้อในปัจจุบันที่ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างจํากัดจาก การถูกกดดันรอบด้าน ทำให้ผู้ซื้อส่วนใหญ่สนใจที่อยู่อาศัยระดับราคาเข้าถึงได้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่อาจเข้าถึงบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ได้ค่อนข้างยาก จึงเป็นโอกาสของตลาดทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ

โดยที่อยู่อาศัยระดับราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีคนเลือกมากที่สุดในทุกช่วงรายได้ที่ไม่เกิน 100,000 บาท/เดือน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน ซึ่งมี ผู้เลือกเกินกว่า 50% จึงเป็นโอกาสที่ดีของตลาดทาวน์เฮาส์และคอนโดฯ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคาดังกล่าว ในการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านพื้นที่ใช้สอยของผู้ซื้อ และด้านอื่นๆให้ได้มากขึ้น สะท้อนให้เห็นกําลังซื้อที่ยังคงเปราะบาง และความต้องการที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับ ราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งเหตุผลที่เลือกที่อยู่อาศัยแต่ละประเภท ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยด้านการเดินทาง พื้นที่ใช้สอย และความสอดคล้องกับงบประมาณ

สถานการณ์ของกําลังซื้อที่ยังคงอ่อนแอในปัจจุบันส่งผลให้ที่อยู่อาศัยมือสองกลายเป็น อีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยราคาที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับที่อยู่อาศัยมือหนึ่งที่มีบริบท เชิงพื้นที่และทำเลที่ตั้งที่ใกล้เคียงกัน

โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เกือบ 2 ใน 3 และสัดส่วนมากกว่าครึ่งในทุกช่วงอายุสนใจ ที่อยู่อาศัยมือสอง  โดยเหตุผลหลักเป็นด้านราคาที่ถูกกว่าโครงใหม่เมื่อเปรียบเทียบที่อยู่อาศัยประเภทเดียวกัน พื้นที่ใกล้เคียงกัน ในทำเลที่ต้องการ สะท้อนกําลังซื้อที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านราคามากขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยด้านความใหม่ยังไม่ผ่านการใช้งานของที่อยู่อาศัย หากได้ในทำเลที่ต้องการ

เหตุผลที่จะซื้อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ยังเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ทั้งหลังที่ 1 และ หลังที่ 2 สะท้อนความต้องการที่อยู่อาศัยจากกลุ่ม Real Demand โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ที่มีแผนจะซื้อที่ยู่อาศัย ยังเป็นการซื้อในกลุ่ม Real Demand โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อ ที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทั้งด้านการอยู่อาศัย เช่น ขนาดพื้นที่ที่เหมาะสม ความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงความสะดวกด้านการเดินทาง รองลงมาเป็น กลุ่ม Real Demand ที่ซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ขึ้นไป เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น อยู่อาศัยยามเกษียณ ซื้อให้บุตรหลาน สะท้อนโอกาสในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อเจาะกลุ่ม Real Demand ได้มากขึ้น ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มที่มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัย เพื่อการลงทุน เก็งกําไร หรือปล่อยเช่ามีสัดส่วนน้อยกว่ากลุ่มที่มีแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยกลุ่ม Real Demand ดังนั้น การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อเจาะกลุ่มนักลงทุนอาจต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง

การพัฒนาที่อยู่แนวราบ ในกรุงเทพฯ ชั้นกลางไป ถึงชั้นนอกยังตอบสนอง ความต้องการของผู้มีแผนจะซื้อได้ดี เช่นเดียวกับในปริมณฑลที่มีแนวโน้มได้รับความนิยม จากผู้ซื้อที่ต้องการที่อยู่อาศัยพื้นที่ขนาดใหญ่ขณะที่กลุ่มคอนโดฯยังเป็นโอกาสของทําเลใจกลางเมืองและพื้นที่ ใกล้เคียง

ทั้งนี้ทําเลที่มีศักยภาพที่ยังคงได้รับความสนใจ  สำหรับตลาดคอนโดฯ พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ได้แก่ อโศก สุขุมวิท สีลม สาทร ลุมพินี ปทุมวัน และราชเทวี ,พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง ได้แก่ ลาดพร้าว จตุจักร ห้วยขวาง พระราม 9

ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง ได้แก่ ลาดพร้าว จตุจักร ห้วยขวาง พระราม 9 • ปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี (ปากเกร็ด รัตนาธิเบศร์ ติวานนท์ บาง กรวย ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ บางใหญ่)

ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดยังฟื้นตัวได้ช้า โดยสัดส่วนผู้ที่สนใจยังน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอาจทำการตลาด ระบายสินค้าคงเหลือ ในกลุ่มที่มองหาที่อยู่อาศัยยามเกษียณ

โดยจังหวัดที่กลุ่มตัวอย่างมีสัดส่วนสนใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด ได้แก่ เชียงใหม่ รองลงมาคือ ชลบุรี และนครราชสีมา ตามลําดับ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนผู้ที่สนใจที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดยังน้อย ประกอบกับกําลังซื้อของคนในพื้นที่ที่เป็น Real Demand ยังฟื้นตัวช้า จึงทําให้ตลาดที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด ยังฟื้นตัวได้ช้ากว่าตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มองหาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดเพื่ออยู่อาศัยยามเกษียณ ดังนั้นผู้ประกอบการอาจทำการตลาดระบายสินค้าเจาะกลุ่มดังกล่าว

บริการลักษณะใดตรงใจผู้บริโภค?

จากผลการสำรวจพบว่าความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญสูงสุด โดยมากกว่า 60% ยังให้ความสําคัญกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ขณะที่เทคโนโลยี / บริการใหม่ๆยังมีความสําคัญน้อยกว่าปัจจัยอื่นๆ อย่างไรก็ตาม Smart Home ในกลุ่ม ระบบเตือนภัย และความปลอดภัย ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นลําดับต้นๆ สอดคล้องกับการให้ความสําคัญด้านความ ปลอดภัยของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย รองลงมาคือ ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน/การออกแบบให้เหมาะสมต่อการอยู่อาศัย

นอกจากความปลอดภัย และพื้นที่ใช้อยภายในบ้านที่มีความยืดหยุ่นแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่ผู้คนให้ความสําคัญรองลงมายังมีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย เช่น

Gen Y&Z : แม้จะต้องการความเป็นอิสระส่วนตัวสูง แต่ในการอยู่รวมกับสมาชิกในครอบครัวก็ยังให้ความสําคัญกับ Universal Design ที่คํานึงถึงคนกลุ่มต่าง ๆ ในครอบครัว เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง

Gen X และ Baby Boomer ให้ความสําคัญกับการออกแบบและระบบต่าง ๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงาน สะท้อนการให้ความสําคัญกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ทุกช่วงวัย ให้ความสําคัญกับทางเลือกในการ Custom รูปแบบ หรือวัสดุต่าง ๆ ได้โดยผู้ประกอบการอาจใช้กลยุทธ์นําเสนอทางเลือกสําหรับผู้ซื้อ เช่น สีของบ้าน ประเภทวัสดุ รูปแบบ Layout บ้านที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้แอปพลิเคชันติดต่อนิติบุคคล มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยสูงที่สุด สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วในการติดต่อและ การเข้าถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยอํานวยความสะดวก โดยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเกินกว่า 70% ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นสําหรับโครงการที่นําเทคโนโลยีมาช่วยประหยัด ค่าใช้จ่ายในระยะยาว

นัยต่อธุรกิจ

การฟื้นตัวในระยะข้างหน้าเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์กําลังซื้อ โดยเฉพาะกลุ่มรายได้เปราะบาง ที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้อย่างจํากัด และปัจจัยด้านราคาที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากต้นทุนการก่อสร้าง และราคาที่ดินที่สูงขึ้น ที่จะเป็นปัจจัยท้าทายสำคัญต่อการฟื้นตัวในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบจะเป็นกลุ่มนําการฟื้นตัว จากความนิยมที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดคอนโดฯอาจเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวมากขึ้นในระยะกลาง เมื่อจำนวนหน่วยเหลือขายลดลง และรถไฟฟ้าสายใหม่ทยอยเปิดให้บริการ

ภาวะอุปทานส่วนเกินยังคงเป็นความเสี่ยงสูงผลให้การเปิดโครงการใหม่ ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง และมีการบริหารความเสี่ยง   แม้สถานการณ์การแพระระบาดจะมีแนวโน้มคลี่คลายมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เริ่มกลับมาเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มแนวราบ หลังจากต้องชะลอหรือระงับไปหลาย โครงการตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของ COVID-19 แต่ด้วยสถานการณ์ของกําลังซื้อในปัจจุบันที่ยังเปราะบาง และการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะต่อไป ทําให้ผู้ประกอบการยังคงต้องพิจารณาการเปิดโครงการ ใหม่อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะตลาดแนวราบที่มีแนวโน้มแข่งขันกันเข้มข้นมากขึ้น บางทำเลที่มีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง จนมีความเสี่ยงของภาวะอุปทานส่วนเกินก็อาจต้องเพิ่มความระมัดระวัง เช่นเดียวกับ การเปิดโครงการแต่ละประเภทในระดับราคาที่ยังมีหน่วยเหลือขายสะสมอยู่ในระดับสูง

ต้นทุนที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งราคาวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูง ปัญหาด้านแรงงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงราคาที่ดินในทำเลศักยภาพที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสาเหตุที่ทำอัตรากําไรผู้ประกอบการลดลง หรือ ผู้ประกอบการต้องกลับมาทบทวนแผนการเปิดโครงการใหม่อีกครั้ง การแข่งขันจากบ้านมือสองมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการหาที่ดินผืนใหญ่ในทำเลศักยภาพที่อาจหาได้ยากขึ้น จะเป็นโอกาสสสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง ที่จะเข้ามาแข่งขันและได้รับความสนใจมากขึ้นจากการตอบโจทย์ทั้งด้านราคา ทำเล และพื้นที่ใช้สอย

โดยกําลังซื้อของกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง-บน ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยกว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี แต่ก็มีการวางแผนการใช้เงินอย่างระมัดระวัง โดยที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลาง (ไม่เกิน 10 ล้านบาท) ในทําเลศักยภาพ พร้อมกับโปรโมชันที่ น่าสนใจ อาจดึงดูดกําลังซื้อกลุ่มดังกล่าวได้ ในระยะต่อไป

ปัจจุบันผู้ซื้อให้ความสําคัญกับปัจจัยด้านความคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากความคุ้มค่าด้านราคาผ่านการทำโปรโมชันแล้ว การนําเสนอที่อยู่อาศัยที่มีฟังก์ชันครบถ้วน รวมถึงสิ่งอํานวยความ สะดวกและบริการหลังการขายที่ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลาย จะช่วยทําให้ผู้ซื้อรับรู้ถึงความคุ้มค่าได้ดียิ่งขึ้น และ อาจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อนํามาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ

ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับความต้องการขั้นพื้นฐานอย่างความปลอดภัยสูงสุด สะท้อนว่าโครงการที่อยู่อาศัยยังต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยการนําเทคโนโลยี Smart Home ในกลุ่มระบบเตือนภัย และความปลอดภัยมาใช้ จะช่วยสร้างความมั่นใจ และกระตุ้นให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยตัดสินใจซื้อได้

ในระยะต่อไปที่การแข่งขันมีแนวโน้มเข้มข้นมากขึ้น เพื่อชิงกําลังซื้อที่มีอยู่อย่างจํากัด การแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียวอาจส่งผลกระทบต่อการรักษาอัตรากําไรในระยะยาว การสร้างความแตกต่างให้กับที่อยู่อาศัยและบริการ การพัฒนารูปแบบใหม่หรือการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะ อาทิ การออกแบบให้ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม บริการด้าน สุขภาพ รวมถึงเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ผู้บริโภคยอมจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับโครงการที่มีการนําเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่ออํานวยความสะดวก และประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นโครงการเปิดใหม่อาจมีทางเลือกให้ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้เลือกจ่ายเงินเพิ่ม สำหรับบริการหรือเทคโนโลยีที่จะได้รับตามความต้องการของตนเอง

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง