แอสเซทไวส์รุกตลาดบล็อกเชน ผุดโปรเจกต์ “Rock the Iconic Fashion Set”ผลงานภาพถ่ายแฟชั่นนางงามในรูปแบบ NFT ที่เป็น Limited Collection ของผู้เข้าประกวด 30 คนสุดท้ายจากเวที MUT 2022 ที่ถ่ายทอดความสวยงามของการอยู่อาศัยผ่านโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 เตรียมวางจำหน่ายผ่านช่องทาง Crownex บนแพลตฟอร์ม Bitkub NFT
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกันกับลูกบ้านและลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ โดยล่าสุดได้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) มาใช้ในการชมการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ซึ่งปีนี้บริษัทได้ร่วมสนับสนุนเวทีการประกวดเป็นปีที่ 3 เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนคลับนางงามได้มีโอกาสเก็บความประทับใจของผู้เข้าประกวดที่ตัวเองชื่นชอบผ่านภาพ NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งเป็นหนึ่งในโทเคนที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มนักสะสมและนักลงทุน
โดยได้จัดโปรเจ็กต์พิเศษ “Rock the Iconic Fashion Set” ขึ้นสำหรับนำเสนอผลงานภาพถ่ายแฟชั่นของ 30 คนสุดท้ายมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ในรูปแบบ NFT ที่เป็น Limited Collection และมีเพียง 600 ชิ้นในโลกผ่านนิยามการอยู่อาศัยในโครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 คอนโดมิเนียมไฮไรส์พร้อมอยู่ พร้อมวิวคของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 180 องศา
“ภาพแฟชั่นของสาวงามทั้ง 30 คน จัดทำขึ้นโดยบริษัทดิจิโทไนซ์ จำกัด บริษัทในเครือของแอสเซทไวส์ ซึ่งการผลิตภาพแฟชั่น NFT Collection นี้จะเป็นการนำที่อยู่อาศัยและแฟชั่นมาผนวกกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ถือเป็นมิติใหม่ในการนำเสนอและต่อยอดการใช้งานให้กับกลุ่มแฟนนางงาม และกลุ่มลูกค้าของแอสเซทไวส์”
นอกจากนี้บริษัทยังได้จับมือกับ Mouawad แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีชั้นนำของโลก และผู้ออกแบบมงกุฎ MUT ในการสนับสนุนเครื่องประดับให้ผู้เข้าประกวดได้สวมใส่ โดยภาพ NFT ทั้งหมดจะวางจำหน่ายในรูปแบบกาชาปองผ่านช่องทาง Crownex บนแพลตฟอร์ม Bitkub NFT ในราคาภาพละ 2 KUB ซึ่งแต่ละภาพจะมีระดับความหายากที่แตกต่างกัน รวมทั้งยังรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรับบัตรเข้าชมการประกวด Miss Universe Thailand 2022 รอบ Final จำนวน 2 รางวัล (รางวัลละ 2 ที่นั่ง) และผู้ที่สะสม NFT สูงสุด 5 ท่านแรกจะได้รับสิทธิพิเศษในการร่วมกิจกรรม Meet & Greet กับผู้ผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้าย Miss Universe Thailand 2022ด้วย
ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลเทพสิริ โดยมูลนิธิเทพสิริ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสงหาผลกำไร และเป็นโรงพยาบาลรักษาทั่วไป รวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด
