“สมาร์ท เซอร์วิส”โชว์ศักยภาพปี66 มั่นใจคว้างานบริหารเพิ่มอีก 50-60 โครงการ

สมาร์ท เซอร์วิสฯในเครือเอพีฯ เผยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวโน้มเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 15-16% ต่อปี ระบุบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์ เติบโตสูงสุด ระบุธุรกิจบริหารจัดการโครงการแข่งขันเริ่มดุเดือด คาดปี66 คว้าเพิ่มอีก 50-60 โครงการ พร้อมเร่งขยายฐานหัวเมืองท่องเที่ยว มั่นใจการดำเนินธุรกิจแข็งแกร่ง ภายใต้ 3 คีย์หลัก หวังตอบโจทย์ในการดูแลลูกบ้านครบทุกมิติ
นายสุวัฒน์ กุลไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SMART)ในเครือบริษัท เอพี(ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน) หรือ AP บริษัทด้านการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดการบริหารจัดการโครงการจะเติบโตมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นจากปัจจัยบวก คือ สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคงที่ ประชาชนได้รับวัคซีนกันมากขึ้น ตามมาด้วยการเปิดประเทศ ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติเข้ามา จึงทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะประชาชนเริ่มกลับมามีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้เริ่มมี Supply มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในปี 2565 นี้มีอัตราการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยโครงการใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15-16% ต่อปี โดยเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ กลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด รองลงมาเป็นกลุ่มตลาดลักชัวรี่ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ส่งผลให้ผู้ประกอบการและนักลงทุน หันกลับมาสนใจพัฒนาและลงทุนในธุรกิจคอนโดฯมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า ยอดการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะส่งผลโดยตรงกับการเติบโตของธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ในปี 2566  ซึ่งจากการวิเคราะห์และคาดการณ์ ทำให้ภาคธุรกิจของ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน

โดยปัจจุบันธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ แบ่งเป็น 2 เซกเมนต์ คือ บริษัทที่มี Developer และบริษัทที่ไม่มี Developer ที่ปัจจุบันมีบริษัทเปิดตัวใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการโครงการมากขึ้น ส่งผลให้มีการแข่งขันที่สูงมากขึ้น ในส่วนของสมาร์ท เซอร์วิสฯเอง ดำเนินงานมาครบ 26 ปี ดูแลบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดกว่า 360  โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ สัดส่วน 35%  และคอนโดฯ สัดส่วน 65% มีลูกบ้านที่ไว้ใจให้บริหารมากกว่า 120,000 ราย แบ่งเป็นโครงการในเครือ AP มากกว่า 240 โครงการ ที่เหลือเป็นการบริหารให้โครงการอสังหาฯอื่นๆ คาดว่าจนถึงปลายปี 2565 จะมีโครงการที่เข้าไปบริการจัดการรวมทั้งสิ้น 380 โครงการ

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถเข้าไปบริการจัดการโครงการใหม่ๆได้เพิ่มอีกประมาณ 50-60 โครงการ หรือคิดเป็นสัดส่วน 15% โดยจะเป็นโครงการจากเอพีฯประมาณ 35% ส่วนโครงการในหัวเมืองใหญ่ก็มีความน่าสนใจที่จะขยายฐานเข้าไปบริหาร โดยปัจจุบันได้เข้าไปบริหารจัดการแล้ว 8 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี,พิษณุโลก,ขอนแก่น,นครศรีธรรมราช,ระยอง,พระนครศรีอยุธยา,เชียงราย และหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

“ถ้าเทียบสัดส่วนของจำนวนโครงการที่ดูแลแล้ว ทำให้ สมาร์ท เป็นที่ 1 ในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ ของประเทศไทย และปัจจุบันมีลูกบ้านมากกว่า 120,000 ท่าน ซึ่งตลอดระยะเวลาในการดูแลลูกบ้าน เชื่อว่าในการส่งมอบการดูแลลูกบ้านในทุกมิติของการอยู่อาศัย นอกจากการดูแลพื้นที่ส่วนกลางแล้ว ยังคงให้ความสำคัญและมุ่งเน้นการเข้าถึงและเข้าใจลูกบ้านในทุกมุมมองของการใช้ชีวิต โดย สมาร์ท เซอร์วิสฯ ได้นำแนวความคิดจากการ Design Thinking เข้ามาตอบโจทย์ลูกบ้านโดยการค้นหา Pain Point หรือ Inside ที่แท้จริง จึงทำให้เกิดการพัฒนาทุกระดับการดูแลที่อยู่เหนือกว่าในทุกๆ ด้าน จนได้รับการตอบรับและเป็นที่ 1 ในปัจจุบัน” นายสุวัฒน์ กล่าว

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ สมาร์ท เซอร์วิสฯ ได้วางแผนงานขององค์กรไว้อย่างชัดเจนและแข็งแกร่ง ภายใต้ 3 กุญแจสำคัญ ที่จะส่งมอบคุณภาพและประสบการณ์ที่ดี สร้างคุณภาพชีวิตเพื่อตอบโจทย์ในการดูแลลูกบ้านได้ครบทุกมิติ ซึ่งประกอบด้วย

1. Bounding community ให้ความสำคัญในการสร้างสัมพันธ์ที่ดี ให้เกิดสังคมที่น่าอยู่ในโครงการ เพื่อเกื้อกูลกันและกัน ทั้งการอยู่อาศัยและการดำเนินธุรกิจในสังคม

2. Digital transformation ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการบริหารองค์กร นำ technology ที่ดีที่สุดมาบริหารงานในโครงการ ด้วยการใช้ระบบ SMART NITI ,SMART finance ,ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN พร้อมทั้ง Mobile Application ที่ชื่อว่า SMART World ที่มีลูกบ้านใช้งานมากกว่า 70,000 คน

3. Partnership ที่เกิดจากการค้นหาและร่วมมือกับ partner ต่างๆ เพื่อมอบสิทธิพิเศษ ส่วนลด หรือการเลือกซื้อบริการเรื่องบ้านต่างๆ และทุกบริการที่เข้ามาในระบบต้องแก้ไข pain ของลูกบ้านได้ และให้ลูกบ้านได้รับสิทธิประโยชน์มากที่สุด

 

สมาร์ทฯ นำเสนอทางออกในรูปแบบใหม่ๆ และแตกต่างเกี่ยวกับการดูแลนิติบุคคล โดยมอบการบริหารงานที่เชื่อถือได้ ตอบสนองอย่างรวดเร็วและโปร่งใส นอกจากนี้ยังนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการดูแลลูกบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นไปและให้ความสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีในระยะยาวกับผู้อยู่อาศัยทุกท่าน มุ่งมั่นในการพัฒนาทีมงานที่มีทัศนคติในการทำงานที่ดีเยี่ยมและส่งเสริมให้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ และเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจลูกบ้านตลอดมา

โพสที่เกี่ยวข้อง