ไซมิสฯเผยแผน 3 ปี ปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวสูง-แนวราบ ที่ 50:50 ตั้งเป้ารายได้แตะปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท แย้มปี 66 จ่อผุดแนวราบจำนวน 3 ทำเลใหม่ รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และเฟสต่อเนื่องในโครงการ Siamese Kin รามอินทรา ส่วนความคืบหน้า “Monsane Exclusive Villa ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า” ลูกค้าตอบรับดีเกินคาดปิดขายเฟสแรกเป็นที่เรียบร้อย คาดปิดจ๊อบทั้งโครงการได้ภายในปีหน้า
นายสุภัค ลีลากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด(มหาชน)หรือ SA เปิดเผยภาพรวมตลาดแนวราบ Luxury Segment ว่าจากข้อมูลยอดเปิดโครงการใหม่ของบ้านระดับ Segment Luxury ราคา 20 ล้านบาท ในปี 2565 นี้ มีอัตราเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็น Brand ระดับแนวหน้า และยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆที่เพิ่มโครงการใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าเป็นผลพวงมาจากผลกระทบในปีที่ผ่านมา ที่ประสบปัญหาด้านวัสดุก่อสร้าง, แรงงาน ทำให้เกิดการชะลอตัวของการเปิดการขายโครงการใหม่ๆ รวมถึงรอดูภาพรวมของสถานการณ์ในปีที่ผ่านมา
โดยการเติบโตของตลาดคิดว่ายังคงเป็นไปตามกลไกลปกติ ด้วยปัจจัยความต้องการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโซนที่เป็นกลุ่มตลาด Luxury จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสูงในย่านนั้นๆ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบที่ครบครัน รวมทั้งปัจจัยด้านเงินเฟ้อในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อการลงทุนในอสังหาฯประเภทบ้าน Luxury ที่ถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในกลุ่มที่ชนะเงินเฟ้อได้ดี อัตราการเติบโตของที่ดินของทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูงนั้น ส่งผลให้มูลค่ารวมของโครงการมีแต่จะเพิ่มขึ้น
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯภายในระยะเวลา 3 ปี (2566-2568)ได้ปรับกลยุทธ์วางสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวสูงและแนวราบไว้ที่ 50 : 50 เพื่อรองรับดีมานด์ที่หันมาซื้อโครงการแนวราบมากขึ้น โดยการตั้งเป้ารายได้ที่ปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท
โดยในปี 2566 บริษัทฯมีแผนจะพัฒนาโครงการแนวราบจำนวน 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ได้แก่
1.Siamese Holm พหลฯ-วิภาวดี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ ทำเลรังสิตติดถนนพหลโยธิน พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ระดับราคา 8-10 ล้านบาท จำนวน 190 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท
2.Siamese Blossom พหลฯ-วิภาวดี ตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ ทำเลรังสิตติดถนนพหลโยธิน พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและทาวน์โฮม ระดับราคา 2-5 ล้านบาท จำนวน 450 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท
3.Monsane ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 65 ไร่ ทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ราคาเฉลี่ย 15—25 ล้านบาท จำนวน 175 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 3,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวเฟสต่อเนื่องโครงการ Siamese Kin รามอินทรา(Phase 2) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ ในพื้นที่โครงการ Siamese Kin รามอินทราเดิม พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝดและทาวน์โฮม จำนวนรวม 36 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 6-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการเฟส 2 ประมาณ 250 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าโครงการ “Monsane Exclusive Villa ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า” ถือเป็นโครงการแนวราบระดับ Luxury โครงการแรกของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 33 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท โดยเฟสแรกมีจำนวน 25 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 100-230 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 30-50 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายในรอบ VIP ไปแล้วเมื่อวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ปิดการขายในเฟสแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเปิดขายในเฟส 2-4 อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปี 2566
โดยกลุ่มลูกค้าโครงการ เป็นกลุ่มเจ้าของกิจการหรือผู้บริหาร ที่ต้องการขยับขยาย มองหาที่อยู่อาศัยใหม่ในทำเลศักยภาพโซนกรุงเทพฯตะวันตก พร้อมทั้งตอบโจทย์ด้านพื้นที่ใช้สอย ดีไซน์ และภาพลักษณ์โครงการโดยรวม
“เรามีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับ High End มาหลายโครงการ (อาทิ โครงการ Siamese Exclusive สุขุมวิท 31 , Siamese Exclusive Queens) ทำให้เรามีเข้าใจใน Product และ Lifestyle ของผู้บริโภคกลุ่มนี้ จึงนำประสบการณ์สำหรับลูกค้ากลุ่ม High End Condominium มาต่อยอดในการพัฒนาโครงการ Luxury แนวราบ ที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่มีทั้งกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ ทำให้เราพัฒนาโครงการ Monsane โดยคำนึงถึงการใช้สอยพื้นที่ ที่สามารถรองรับการทำกิจกรรมได้ครบครันทั้ง 3 เจเนอเรชั่น ที่มีความแตกต่างกันตามช่วงอายุวัยได้อย่างลงตัว พร้อมนำนวัตกรรม Siamese Technology ของคอนโดมิเนียม มาพัฒนาต่อยอดสำหรับบ้านโครงการนี้ เพื่อให้เป็นโครงการที่ครบครันทั้งในด้านสถาปัตยกรรม, ฟังก์ชันการใช้สอย และเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย” นายสุภัค กล่าว
โดยสาเหตุที่ได้รับผลตอบรับที่ดี ด้วยลักษณะโครงการที่บริษัทฯพัฒนาค่อนข้างตอบโจทย์กลุ่มตลาด Luxury ที่ขยับขยายที่อยู่อาศัยในโซนนี้ ที่มองหาบ้านพื้นที่กว้างเพื่อรองรับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัวภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดีในระดับราคาที่เหมาะสม สอดรับกับแนวโน้มภาพรวมของตลาดลักชัวรี่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากความพร้อมด้านกำลังซื้อของฐานลูกค้ากลุ่มนี้
ซึ่งการพัฒนาโครงการของ Siamese Asset ไม่เพียงจำกัดเฉพาะโครงการระดับ Luxury เท่านั้น โดยบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสพัฒนาโครงการใหม่ๆทุกระดับราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์กับทำเล และไลฟ์สไตล์โดยรวมในแต่ละ Location โดยเน้นไปที่ทำเลศักยภาพ หรือทำเลที่มีปัจจัยโดยรวมที่ส่งเสริมการเติบโตและการขยายตัวของประชากรที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเมือง จะเห็นจากการพัฒนาโครงการของไซมิสที่ไปยังทำเลศักยภาพโดยรอบเมือง เช่น กรุงเทพฯฝั่งตะวันตก, โซนเหนือ ปทุมธานี-รังสิต และรามอินทรา เป็นต้น
“ปัจจุบันเรามีแนวราบแล้ว 4 แบรนด์หลัก คือ Monsane Exclusive เป็นบ้านหรูระดับลักชัวรี่ ราคาขายเริ่มต้นที่ 30-50 ล้านบาท, Monsane บ้านระดับราคา 15-25 ล้านบาท , Siamese บ้านระดับราคา 10-12 ล้านบาท และ Siamese Kin พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคา 6 ล้านบาท และบ้านแฝด 2 ชั้น ราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทุกแบรนด์ต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” นายสุภัค กล่าวในที่สุด
