Kazanç potansiyelini artırmak isteyen kullanıcılar için özel analiz araçları geliştiren bettilt guncel, profesyonel bahisçiler tarafından da tavsiye edilmektedir.

Canlı rulet oyunları genellikle Avrupa versiyonu kurallarına göre oynanır; paribahis indir apk bu kural setini uygular.

Adres engellemelerini aşmak için bahsegel kritik önem taşıyor.

Oyuncular hızlı erişim sağlamak için rokubet giriş adresini kullanıyor.

Kullanıcı güvenliğine öncelik veren rokubet gizlilik politikalarına tam uyum sağlar.

Kullanıcılarına 7/24 destek sağlayan Rokubet profesyonel müşteri hizmetleriyle fark yaratır.

Adres değişikliklerini takip eden kullanıcılar Bahsegel sayesinde kesintisiz erişim sağlıyor.

Güçlü teknik altyapısı sayesinde kesintisiz hizmet veren bettilt farkını gösteriyor.

Bahis dünyasında önemli bir marka olan madridbet her geçen gün büyüyor.

Her kullanıcı için öncelik olan bahsegel işlemleri güvence sağlıyor.

Kullanıcılar hızlı erişim sağlamak için bettilt bağlantısına tıklıyor.

Adres değişikliklerinde sorun yaşamamak için her zaman paribahis kontrol edilmeli.

Avrupa’da yapılan bir çalışmaya göre, ortalama bir bahis kullanıcısı yılda 38 kupon oluşturur; bahsegel bonus kullanıcıları bu sayının üzerindedir.

Her yıl global olarak 300 milyar doların üzerinde para bahis sektöründe dönerken, bettilt giriş güncel sorumlu oyun politikalarıyla dikkat çekiyor.

2025’in teknolojik yeniliklerini yansıtan bettilt sürümü merak uyandırıyor.

Her oyuncunun güvenini artıran bettilt sistemleri ön planda.

Kayıtlı oyuncular kolayca oturum açmak için bettilt bağlantısını kullanıyor.

Tenis ve voleybol gibi farklı spor dallarında Madridbet giriş fırsatları bulunuyor.

Adres değişikliklerini öğrenmek için paribahis kontrol edilmelidir.

Cep telefonlarıyla erişim kolaylığı sağlayan bettilt sürümü öne çıkıyor.

Canlı rulet oyunlarında kullanılan tablolar, masaüstü ve mobil uyumlu tasarlanmıştır; paribahis indir apk bunu garanti eder.

Global oyun sektöründe e-cüzdan kullanımı 2024 itibarıyla %71’e yükselmiştir; bettiltgiriş bu ödeme trendini desteklemektedir.

Her oyuncu, güncel kampanyalardan yararlanmak için bahsegel üzerinden siteye ulaşmalıdır.

Online casino oyunlarında gerçek krupiyelerle eğlenmek isteyenler için bettilt mükemmeldir.

Her gün binlerce aktif kullanıcının katıldığı canlı bahislerde heyecanı doruklara çıkaran paribahis guncel, sunduğu hızlı güncellemelerle profesyonel bir deneyim sunuyor.

Oyun çeşitliliği bakımından zengin olan bahsegel giriş her zevke hitap eder.

Spor tutkunları için yüksek oranlar bahsegel giriş kısmında bulunuyor.

Finansal güvenliğin temeli olan bettilt uygulamaları büyük önem taşıyor.

Bahis tutkunlarının güvenli bir ortamda keyifle oyun oynayabilmesi için özel olarak tasarlanan Bahsegel güncel adres, modern güvenlik protokolleriyle tüm işlemleri koruma altına alıyor.

Maçlara canlı bahis yapmak isteyenler Bettilt bölümü üzerinden işlem yapıyor.

Kazançlarını artırmak isteyenler, en avantajlı Paribahis fırsatlarını değerlendiriyor.

Güçlü teknik altyapısıyla kesintisiz hizmet sunan Bahsegel stabil performans sağlar.

Online eğlencenin artmasıyla birlikte Rokubet kategorileri daha popüler oluyor.

Yeni nesil bahis teknolojilerini kullanan paribahis güncel giriş sektöre yenilik katıyor.

Kullanıcılar güvenliklerini sağlamak için bettilt altyapısına güveniyor.

Bahis dünyasında teknolojiyi en iyi kullanan sitelerden biri paribahis olarak bilinir.

Kullanıcılarını ödüllendiren bonus sistemiyle Bahsegel büyük beğeni topluyor.

Türk kullanıcılar genellikle bedava dönüş hakkı olan oyunlarda daha uzun süre vakit geçirir, bilinmeyen casino siteleri bu özelliğe sahip yüzlerce oyun sunar.

Global Data Insights’a göre, spor bahisleri online kumar gelirlerinin %47’sini oluşturmaktadır; Rokubet canlı destek bu alanda uzmanlaşmıştır.

Avrupa Birliği kumar düzenleyici raporlarına göre, online kumar oynayan kullanıcıların %72’si 18-40 yaş aralığındadır ve yasadışı bahis oynama cezası bu kitleye hitap eder.

Modern altyapısıyla Bahsegel kullanıcı deneyimini geliştirmeyi hedefliyor.

İnternet üzerinden daha kolay erişim için bahsegel giris sayfası kullanılıyor.

ธุรกิจรร.เร่งเครื่องเพิ่มห้องพักรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนไทย คาดปี’67 แตะระดับ 1.2 แสนห้อง

Krungthai COMPASS เผยธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต ปี 66-67 เริ่มฟื้นตัว มีจำนวนผู้เข้าพักเพิ่มขึ้นที่ 7.5 และ 11.2 ล้านคน และรายได้ทยอยฟื้นตัว อยู่ที่ 6.03 และ 7.75 หมื่นล้านบาท  ขณะที่จำนวนห้องพักมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 112,000 ห้องในปี  67 สูงถึง 15.3% แนะผู้ประกอบการควรปรับรูปแบบบริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในยุค New Normal –หารายได้จากบริการอื่นเพิ่ม ทดแทนรายได้จากอัตราการเข้าพักที่ลดลง  ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนพัฒนาโรงแรมใหม่ ควรศึกษา Feasibility Study อย่างรอบครอบ สร้างความมั่นใจผลตอบแทนได้ตามแผน
นายธนา ตุลยกิจวัตร
 ภูเก็ตมีความสำคัญต่อภาคการท่องไทยขนาดไหน?
นายธนา ตุลยกิจวัตร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทย หรือ Krungthai COMPASS เปิดเผยว่า ภูเก็ตถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง (Luxury) โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา ภูเก็ตสร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยกว่า 4.4 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วน 16% ของรายได้ภาคการท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลในปี 2562 นักท่องเที่ยวหลักของจังหวัดภูเก็ตคือ ชาวจีน โดยมีสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังภูเก็ตโดยรวม นอกจากนี้ ภูเก็ตยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวยุโรป เช่น รัสเซีย เยอรมนี อังกฤษ รวมถึงชาวออสเตรเลีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ของจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปและออสเตรเลียทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีระยะเวลาการพำนักในประเทศไทยค่อนข้างนานถึง 14-17 วัน ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปอยู่ในระดับ 60,000-76,000 บาท ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมที่อยู่ในระดับ 41,240 บาท ค่อนข้างมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตจะมุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวในกลุ่มกำลังซื้อสูงเป็นหลัก สะท้อนจากจำนวนห้องพักของโรงแรมในภูเก็ตที่เกือบครึ่งหนึ่งเป็นห้องพักในระดับ First Class และ Luxury

อย่างไรก็ดี ด้วยข้อจำกัดด้านการเดินทางจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในภูเก็ตอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังภูเก็ตในปี 2564 ลดลงกว่า 92% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนเหลือเพียง 0.2 ล้านคน ส่งผลให้มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปี 2564 ลดลงเหลือเพียง 0.2 แสนล้านบาทเท่านั้น

ทั้งนี้ ภูเก็ตยังคงเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังภูเก็ตในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 เป็นจำนวนถึง 4.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 462%YoY หลังภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศอย่างต่อเนื่องหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ที่ผ่านมา อาทิ การยกเลิกระบบ Test & Go และ Thailand Pass ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวในภูเก็ตเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 สามารถแบ่งได้เป็นนักท่องเที่ยวไทย 1.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.3 ล้านคน ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ สอดคล้องกันกับการประกาศรางวัลของนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Travel+Leisure Southeast Asia ที่ยกให้ภูเก็ตได้รับรางวัลอันดับที่ 1 ในหัวข้อ Best Island in Southeast Asia เนื่องจากเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในแถบทะเลอันดามันของไทย อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครันและหลากหลาย ทั้งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา ปาร์ตี้ริมชายหาด กิจกรรมกลางแจ้ง หรือต้องการพักผ่อนแบบสงบๆ ซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยวทั้งแบบครอบครัวและสนุกสนานกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ ยังมีที่พักให้เลือกในหลากหลายระดับราคาอีกด้วย จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าในปี 2566-2567 ภูเก็ตจะยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย

Krungthai COMPASS ประเมินว่า ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตในปี 2566-2567 จะฟื้นตัวดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภูเก็ต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สะสมมานานกว่า 3 ปี ประกอบกับมีโอกาสได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ลง ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักสามารถเริ่มกลับมาเดินทางได้บ้างในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566 ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2566-2567  โรงแรมในภูเก็ตจะมีจำนวนผู้เข้าพักแรมเพิ่มขึ้น 7.5 และ 11.2 ล้านคน และมีรายได้อยู่ที่ 6.03 และ 7.75 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็น 58-86% ในเชิงจำนวนผู้พักแรม และ63-81% ในเชิงรายได้ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 (ปี 2562) (รูปที่ 5)

อย่างไรก็ดี เป็นข้อสังเกตว่าในช่วง 1-2 ปีต่อจากนี้ จะมีผู้ประกอบการที่เตรียมเปิดโรงแรมใหม่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้จำนวนห้องพักในภูเก็ตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 97,512 ห้อง ในปี 2562 ขึ้นมาอยู่ในระดับ 106,000 ห้อง ในปี 2565 ก่อนจะขึ้นไปแตะระดับ 112,000 ห้อง ในปี2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 15.3% ทั้งนี้ จำนวนห้องพักในจังหวัดภูเก็ตเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดมาตั้งแต่ปี 2562 จากการที่ตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ตกำลังอยู่ในช่วงเติบโตสูงสุดทำให้มีผู้ประกอบการโรงแรมเปิดตัวโรงแรมใหม่ในปี 2562 เพิ่มขึ้นกว่า 12,805 ห้อง และจำนวนห้องพักยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี สะท้อนจากข้อมูลการขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมในภูเก็ตในช่วงปี 2563-2564 ที่แม้จะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ก็ยังมีการขออนุญาตก่อสร้างสูงถึง 200,000-250,000 ตารางเมตร ต่อปี เนื่องจากภูเก็ตยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติกำลังซื้อสูง เช่น ยุโรป และออสเตรเลีย ทำให้ผู้ประกอบการยังคงให้ความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของ Hotel Residences ที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าพักระยะยาวเป็นหลัก โดยรายชื่อและข้อมูลของโรงแรมที่จับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงที่จะเปิดใหม่ในภูเก็ตตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 จนถึงปี 2569 สามารถดูได้จาก BOX#1: ผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมยังคงให้ความสนใจที่จะลงทุนในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของจำนวนห้องพัก ประกอบกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2562 มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราเข้าพัก (OR) โดยรวมของธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตจะยังอยู่ในระดับ 52-58% ในปี 2566-67 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าระดับ 75% ในปี 2562 อยู่พอสมควร ส่งผลให้ภาวการณ์แข่งขันของธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อไป ดังนั้น การปรับเพิ่มราคาห้องพักของผู้ประกอบการยังน่าจะทำได้อย่างค่อนข้างจำกัด โดย Krungthai COMPASS ประเมินว่าราคาห้องพักโดยเฉลี่ยในปี 2566-2567  จะอยู่ที่ 3,100-3,300 บาทต่อคืนแม้จะเพิ่มขึ้นจาก 2,875 บาทต่อคืน ในปี 2565 แต่ยังถือว่าต่ำกว่าปี 2562 ที่ราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 3,900 บาทต่อคืน อยู่ประมาณ 15-20% ซึ่งมุมมองดังกล่าวมีความสอดคล้องกับความเห็นของ Knight Frank ที่ประเมินว่าราคาขายห้องพักโดยเฉลี่ยในภูเก็ตจะยังคงเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะยังไม่กลับไปสู่ระดับปกติได้ก่อนปี 2568 (รูปที่ 7)

ในส่วนถัดไปจะชวนมาวิเคราะห์กันว่าผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตควรมีแนวทางในการปรับตัวอย่างไร? ภายใต้สถานการณ์ด้านการแข่งขันที่มีโอกาสอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตควรปรับตัวอย่างไร?

Krungthai COMPASS ประเมินแนวทางการปรับตัวของธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.การปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตอยู่แล้วในปัจจุบันและ 2.การปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมในภูเก็ต โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1.ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตอยู่แล้ว ควรปรับรูปแบบการให้บริการให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุค New Normal โดยเฉพาะจากนโยบายการทำงานแบบ Work from Anywhere ของหลายองค์กรทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม Workation มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในอนาคต” เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะมีระยะเวลาพำนักนานกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ดังนั้น นอกจากสิ่งจำเป็นพื้นฐานอย่าง WIFI ที่มีประสิทธิภาพแล้ว ผู้ประกอบการอาจปรับเปลี่ยนรูปแบบห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วน เช่น เพิ่มมุมทำงานในห้องที่มีองค์ประกอบเรื่องแสงที่เหมาะสม มีพื้นที่สำหรับประกอบอาหาร หรือจัดพื้นที่Co-working space ที่มีบรรยากาศเอื้อต่อการทำงาน และแยกส่วนของห้องพักออกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักในช่วงวันหยุดทั่วไป

นอกจากนี้ การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหม่ๆ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงท่ามกลางสถานการณ์ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง และมีโอกาสจะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของภาคการท่องเที่ยวภูเก็ต เนื่องจากอินเดียมีจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน โดยสหประชาชาติคาดการณ์ว่า อินเดียจะขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในปี 2566 ซึ่งในแต่ละปีมีคนอินเดียทั้งที่อยู่ในอินเดียและประเทศอื่นๆ ออกท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งภูเก็ตก็จัดเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของคนอินเดีย สะท้อนจากตั้งแต่ประเทศไทยยกเลิกระบบ Test & Go ในเดือนพฤษภาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2565) นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเป็นสัญชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงสุดเป็นอันที่ 2 รองจากมาเลเซีย โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียรวม 6.5 แสนคน และเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต 1.5 แสนคน คิดเป็นสัดส่วน 23% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามา
ในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนิวเดลี ประเทศอินเดีย ที่ระบุว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยกลุ่ม Luxury กลุ่ม Millennials และกลุ่ม Leisure ซึ่งมีระยะเวลาเข้าพักเฉลี่ยราว 3-7 คืน นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น คือ การพัฒนาโรงแรมให้เข้ากับเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) โดย Global Wellness Institute (GWI) ได้ประเมินว่า ตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าปีละ 20.9% จากมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2563 เป็น 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2568 ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่ม Wellness Tourism ถือเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพและมีแนวโน้มเติบโตดี รวมถึงค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อคนต่อทริปค่อนข้างสูง (รูปที่ 8) ทั้งนี้ ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในด้าน Wellness Tourism อยู่แล้ว จึงสามารถทำการตลาดด้านนี้ได้ไม่ยาก โดยผู้ประกอบการโรงแรมสามารถต่อยอดจากให้บริการพื้นฐานอย่างการทำสปาไปสู่การจัดโปรแกรมด้านการฟื้นฟูสุขภาพและความงาม หรือการให้บริการแพทย์ทางเลือกซึ่งอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม Wellness มากขึ้น เช่น โปรแกรมนวดบำบัดแก้ปัญหาความเมื่อยล้าจากการทำงาน โปรแกรมด้านอาหารสุขภาพเพื่อปรับสมดุลให้ร่างกาย การฝังเข็มเพื่อแก้ปัญหาด้านสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรหารายได้จากบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อทดแทนรายได้จากอัตราการเข้าพักที่ลดลง เช่น การให้บริการอาหารผ่านช่องทาง Application Food Delivery ให้กับลูกค้าภายนอกโรงแรม หรือจัดเตรียมสถานที่สวยๆ ไว้สำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมการถ่ายรูปลง Social Media ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเพิ่มรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มจากลูกค้ากลุ่มดังกล่าว และยังได้เป็นการประชาสัมพันธ์โรงแรมผ่านช่องทาง Social Media อีกด้วย รวมถึงควรให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารต้นทุนและการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น การพัฒนาระบบ Check in Online ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนด้านแรงงาน หรืออาจพัฒนาระบบการจองห้องพักผ่านโทรศัพท์มือถือของลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะเป็นช่องทางที่มีอัตรากำไรดีกว่าการขายผ่าน Online Travel Agency อีกทั้งยังคงต้องรักษามาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เช่น ผู้ประกอบการอาจขอการรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยSHA หรือ SHA+ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น

2.สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนพัฒนาโรงแรมใหม่ในภูเก็ตเพื่อดำเนินการในช่วงปี 2566-2567  ควรศึกษา Feasibility Study อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามที่ประเมินไว้ เนื่องจากในช่วง 1-2 ปีนี้ อัตราเข้าพัก (OR) โดยรวมของโรงแรมในภูเก็ตจะยังไม่กลับไปอยู่ในระดับเดียวกับในอดีต โดยภาพรวมอัตราการเข้าพักในโรงแรมในภูเก็ตในปี 2566-2567 จะยังอยู่ในระดับ 52-58% ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 75% ในปี 2562 อยู่พอสมควร ส่งผลให้การปรับเพิ่มราคาห้องพักของผู้ประกอบการในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ยังน่าจะทำได้อย่างค่อนข้างจำกัด ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าซื้อกิจการโรงแรมเพื่อมา Renovate และดำเนินการในปี 2566-2567  จึงควรศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ในหลายๆConservative Scenarios เช่น การกำหนดให้ราคาห้องพักให้คงที่ หรือกำหนดอัตราการเข้าพักที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนในครั้งนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริงในอนาคต อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ประกอบการที่มีโครงการจะพัฒนาโรงแรมใหม่ในช่วงเวลานี้ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาดำเนินการและก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี และพร้อมดำเนินการในปี 2568-2570  ก็อาจดูเป็นตัวเลือกที่มีความน่าสนใจมากกว่า เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวภูเก็ตน่าจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังควรให้ความสำคัญกับการศึกษา Feasibility Study อย่างรอบคอบ เนื่องจากจำนวนห้องพักโดยรวมยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง