ทายาทคนกลาง MJD แยกตัวตั้งอาณาจักรใหม่ รุกโครงการลักชัวรี ทำเลทองหล่อ-เอกมัย เจาะนิชมาร์เก็ต

  • Post author:
  • 7
You are currently viewing ทายาทคนกลาง MJD แยกตัวตั้งอาณาจักรใหม่  รุกโครงการลักชัวรี ทำเลทองหล่อ-เอกมัย เจาะนิชมาร์เก็ต
“สุริยน พูลวรลักษณ์”ประกาศแยกตัวจากกลุ่ม “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์”ควรศรีภรรยาตั้ง “เอสพีเจ แลนด์”รุกตลาดลักชัวรี่ย่านทองหล่อเอกมัย เจาะกลุ่ม “นิช มาร์เก็ต” นำร่องลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” ราคา 80-105 ล้านบาท  มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท คาดปิดการขายภายในปี 66 ปีหน้าจ่อผุดโครงการใหม่ต่อเนื่อง
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด เปิดเผนถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2566 ว่า มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาพรวมเศรษฐกิจ ก็ไม่เลวร้ายกว่าปี 2565 ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราดอกเบี้ยก็ไม่ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง จึงเชื่อว่าผู้ที่สนใจลงทุนอสังหาฯหรือซื้อเป็นที่พักอาศัย จะสามารถหาซื้อได้ในราคาที่ดี ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองก็น่าจะสามารถทำยอดขายได้ดีทุกรายโดยเฉพาะตลาดนิช มาร์เก็ต(Niche Market)

อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้ตัดสินใจแยกตัวจากบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชนหรือ MJD ด้วยการก่อตั้ง บริษัท เอสพีเจ แลนด์ จำกัด ขึ้นมา ร่วมกับนางจิตรดี พูลวรลักษณ์ ผู้เป็นภรรยา

นายสุริยน-นางจิตรดี พูลวรลักษณ์

ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบของลักชัวรี มาร์เก็ตเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิช มาร์เก็ต มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมือง แต่มีความต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากมองว่ายังมีช่องว่างทางการตลาด โดยมีแผนจะพัฒนาโครงการทั้งแนวราบ และแนวสูง ทำเลย่านทองหล่อ-เอกมัย ปีละประมาณ 1-2 โครงการ โดยหากเป็นโครงการแนวราบ หรือคอนโดฯโลว์ไรส์ จะพัฒนาไม่เกิน 10 ยูนิต แต่หาเป็นคอนโดฯไฮไรส์ จะพัฒนามากกว่า 10 ยูนิต ทั้งนี้การพัฒนาแต่ละโครงการขึ้นอยู่กับความต้องการของดีมานด์ในช่วงนั้นๆ หรือหากกลุ่มทุนใดสนใจที่จะร่วมทุนด้วย บริษัทก็พร้อมที่จะเปิดโอกาสเช่นกัน

“ผมออกมาจากเมเจอร์ฯมาได้ 2 ปีแล้ว เพราะอยากออกมาโฟกัสในสิ่งที่เราชอบ ตอบโจทย์ลูกค้าได้ และมองว่าสินค้าที่เป็นลักชัวรี เน้นกลุ่มนิชมาร์เก็ตนั้น ยังไม่ค่อยมีใครทำ จึงอยากให้ลูกค้าได้จดจำเอสพีเจ แลนด์ฯในฐานะผู้ประกอบการด้านลักชัวรี เรสซิเดนเชียล โดยในช่วงแรกเราจะเน้นพัฒนาทำเลสุขุมวิท ช่วงทองหล่อ-เอกมัย เพราะมองว่าในระยะยาว 5-10 ปี ทำเลดังกล่าว ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถลงทุนในระยะยาวได้”นายสุริยน กล่าว

นายสุริยน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้นำร่องโครงการแรกคือ ลาวิสต้า เพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10” (Lavista Prestige Village Ekkamai 10) ซึ่งเป็นการซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิม ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ในราคา 500,000 บาท/ตารางวา จากในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาขายที่ดินในทำเลเอกมัย อยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 บาท/ตารางวา ปัจจุบันราคาพุ่งสูงไปที่ 500,000-600,000 บาท/ตารางวา ซึ่งที่ดินย่านใจกลางเมืองค่อนข้างหายาก แต่สำหรับตนด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาฯมานานกว่า 20 ปี จึงมีสายสัมพันธ์ในการหาที่ดินได้ค่อนข้างสูง

สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว ตั้งในซอยเอกมัย 10 บนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวระดับ Ultimate Luxury ภายใต้แนวคิด “Redefined Prestigious Living” สร้างเสร็จก่อขาย ขนาด 40-60 ตารางวา ราคา 80-105 ล้านบาท มีจำนวนเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น โดยทุกยูนิตมีลิฟต์ส่วนตัว  มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดยเปิดการขายไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา(ต้นเดือนมกราคม 2566)ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจคนไทย ซื้อไปแล้ว 1 ยูนิต ราคา 85 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าให้ความสนใจหลายราย คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2566 นี้

“ผมมองว่าตลาดแนวราบในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านชานเมือง ขนาดตั้งแต่ 60-100 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 50-80 ล้านบาท ซึ่งมีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก เราจึงต้องการพัฒนาโครงการที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และชัดเจน มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมือง ไม่ต้องการอยู่กันมาก จึงพัฒนาเพียงแค่ 7 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวสูง อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้านี้การแข่งขันยังมีน้อย และบางรายสนใจที่จะย้ายจากคอนโดฯมาซื้อบ้านระดับลักชัวรีมากขึ้น โดนในระยะเวลา 3-5 ปีนี้ เรายังคงเน้นพัฒนาในทำเลสุขุมวิทโซนทองหล่อ-เอกมัย เป็นหลัก แต่อนาคตก็อาจจะหันไปพัฒนาพื้นที่ใจกลางเมืองโซนอื่นบ้างเช่นกัน หากได้ที่ดินที่เหมาะสม” นายสุริยน กล่าว

นายสุริยน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 มีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบเดียวกับ  “ลาวิสต้าเพรสทีจ วิลเลจ เอกมัย 10”ในย่านสุขุมวิทอีก 1 โครงการ จำนวนไม่เกิน 10 ยูนิต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ประมาณไตรมาส1/2567

อนึ่ง นายสุริยน พูลวรลักษณ์ เป็นน้องชายของ นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชนหรือ MJD และเป็นพี่ชายของดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ MJD

 

toppercool

CEO,Prop2morrow Blogger อสังหาฯ , นักการตลาดดิจิตัล สาย Content marketing