พฤกษา Comeback ตลาดอสังหาฯ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวคอนโดโครงการใหม่ในปีนี้ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท สำหรับโครงการแรกที่จะเปิดให้ชมสำนักงานขายและห้องตัวอย่าง อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคม 2566 นี้ “แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา (CHAPTER ONE ALL RAMINTRA)” มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท
ทำเลของโครงการ CHAPTER ONE ALL RAMINTRA ตั้งอยู่ในโซนกรุงเทพฯตอนเหนือที่พฤกษามีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเก่าเป็นจำนวนมากเพราะก่อนหน้านี้ทางพฤกษาเลือกวางแบรนด์ Plum Condo บนทำเลย่านนี้เป็นส่วนใหญ่ มารอบนี้แบรนด์ “Chapter One” จึงเป็นสีสันใหม่บนทำเลที่พฤกษาเลือกปักหมุดบนทำเลรามอินทราตอนเหนือ ติดถนนใหญ่รามอินทรา ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีลาดปลาเค้าเพียง 250 เมตรเท่านั้น!!! ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีเป็นอย่างมากเพราะสามารถทำยอดขายไปแล้วกว่า 40% ของทั้งโครงการ หลังจากที่ได้เปิดขายสำหรับลูกค้าเก่า โดยโครงการมีราคาเฉลี่ย 89,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาทเท่านั้น จองเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท ผ่อนสบายเพียง 3,900 บาทต่อเดือน สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/411qfd4
สำหรับแบรนด์ “Chapter One” จะเป็นแบรนด์ที่มีความสดใส จัดจ้าน อยู่ในระดับ Segment Upper Class โดยพฤกษาจะเลือกทำเลที่มีความครบ สมบูรณ์ ของทั้งการใช้ชีวิตและความสะดวกสบายของการเดินทางที่ดีอยู่แล้วและเติมเต็มให้ดียิ่งขึ้นด้วยการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์
Project Name : CHAPTER ONE ALL RAMINTRA
(แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา)
Project Type : 3 Lowrise Building
Land Size : 5-0-65.2 rais
Location : With a Walking diatance 250m. connecting to MRT Lat Plakhao and 2.6 km. to Central Ramintra
Number of Units : 631 units (Residential 628 units and Shop 3 units)
Parking : 43%
CHAPTER ONE ALL RAMINTRA ถูกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 631 ยูนิต โดยได้รับแรงบันดาลงานสถาปัตยกรรม Facade สไตล์ Dutch Aesthetic ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน เพื่อให้ทุกครั้งที่กลับมาเสมือนเป็นการต้อนรับกลับบ้านเสมอ และสอดรับกับความกลมกลืนของทำเลรามอินทราที่มีความสนุกสนาน จัดจ้าน โดยโครงการถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ การเริ่มต้นใหม่ของชีวิตแบบ ALL IN ONE ซึ่งประกอบด้วย
ALL TIME : ชีวิตลื่นไหล ทำเลดีเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีลาดปลาเค้า เพียง 250 เมตร พร้อมพื้นที่ส่วนกลางในโครงการที่เปิดรองรับตลอด 24 ชั่วโมง
Living : ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย โดยมีรูปแบบห้องให้เลือกตามสไตล์ที่ชอบ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างลงตัว
Lifestyles : พื้นที่ส่วนกลางที่รองรับการทำกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลายและมีมากถึง 8+1 ชั้น ในรูปแบบ Double Volume
ตัวอาคารถูกจัดวางเป็นแนวยาวลึกเข้าไปตามหน้าของที่ดินโดยมีพื้นที่รวมกว่า 5 ไร่ พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 17 กิจกรรม 8+1 ชั้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหน้าของโครงการบริเวณอาคาร A รูปแบบของ Layout จะจัดวางแต่ละชั้นให้มีความเหลือมกันเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นและทำให้ได้พื้นที่แบบ Double Volume มีความสูงโปร่งและรู้สึกอึดอัด
Living Lounge พื้นที่ Lobby ที่ทำหน้าที่ต้อนรับหรือพักผ่อนสำหรับเพื่อนที่มาเยี่ยม
เชื่อมต่อมายังบริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ Multiplay Space / Entertainment Space และ Workshop Space โซนเปิด24 ชั่วโมง สำหรับรองรับการทำกิจกรรมเอนเตอร์เทนเมนท์ในรูปแบบต่างๆตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
ถัดมาจะเป็นพื้นที่บริเวณชั้น 3 เป็นพื้นที่ Co-Working Space 24 hr. ที่สามารถมานั่งทำงาน ประชุมงาน ที่ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว
บริเวณชั้น 4 จะเป็นพื้นที่ Lifestyle Kitchen และ Live Studio 24 hr. ที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่ทำอาหารที่มีลักษณะของห้องใต้หลังคาจะเห็นการดีไซน์ฝ้าที่มีความเอียงลาดชัน รวมทั้งยังเป็นที่สำหรับสาย Creator ที่ชอบสร้าง Content ที่ทางโครงการออกแบบมาให้ด้วยความเข้าใจคนในยุคปัจจุบัน
ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ Active Space ที่ทำเป็น Fitness ขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ให้ครบครัน ไฮล์ไลท์สำคัญคือหน้าผาจำลองขนาดใหญ่ที่สามารถขึ้นไปออกกำลังกายปีนหน้าผาได้
ชั้น 6 จะเป็นห้อง Functional Training room เป็นพื้นที่ห้องโยคะ และพื้นที่โซน Active
เชื่อมต่อด้วย Step Garden ที่ทางโครงการทำเป็นสวนไล่ระดับสามารถเดินขึ้นไป ยังบริเวณ Rooftop ชั้น 8 ของตัวอาคาร โดยจะเชื่อมต่อกับ Scenic Sky Pool สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Connecting ไปยังสวนบริเวณ Rooftop ด้านบนของอาคาร ที่ออกแบบเป็น Scenic Sky Yard และ Urban Farming พื้นที่ปลูกผักสวนครัว
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร B และ C ที่ออกแบบเป็น Connecting Lounge พื้นที่นั่งเล่นและทำงานที่ให้ฟีลพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
โครงการรองรับพื้นที่จอดรถ 43% (รวมจอดซ้อนคัน) พร้อมจุดชาร์จ EV Charger 3 จุด เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
โครงการขายห้องชุดแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ชุดครัวตามมาตรฐาน โดยห้องพักอาศัยของโครงการมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ประกอบด้วย
1 ALL-ROUND ที่เป็นรูปแบบของ Smart Layout รองรับการใช้พื้นที่ในทุกตารางเมตร
2 FASHIONISTA รูปแบบของที่ถือเป็น Limited Edition ของโครงการ ความโดดเด่นของห้องพักคือมีพื้นที่ Walk in Closet ที่เพิ่มขึ้นมา
3 FAMILY-DESIGNED ห้องพักที่รองรับสำหรับครอบครัวโดยมีลักษณะเป็นห้องหน้ากว้าง
4 MULTI-USE รูปแบบห้องพักที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
พาดูห้องตัวอย่าง ALL-ROUND ขนาด 24.00 Sq.m. รูปแบบ 1 Bedroom
ฟังก์ชันของห้องพักอาศัยจะถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน โครงการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้พร้อมใช้งาน พื้นที่แรกจะเป็นโซน Living Area สำหรับนั่งเล่นนั่งพักผ่อน ที่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย มีระยะห่างระหว่างโซฟาถึงทีวีพอสมควรรองรับการติดตั้งทีวีขนาด 60 – 65 นิ้ว ที่จะอยู่ในระดับสายตาที่พอดี
โครงการทำเป็นไอเดียให้ดูสำหรับพื้นที่ทำงานโดยเลือกใส่ Smart Furniture ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานด้วยวิธีการหมุนเก็บหรือกางออกมาเมื่อต้องการใช้ช่วยให้ห้องพักมีพื้นที่เพิ่มขึ้น ไม่รู้สึกเกะกะ ถือเป็นไอเดียที่เก๋และดูดีมากๆ ซึ่งวันเปิดชมสำนักงานขาย 11 มี.ค.นี้มีโปรฯแถม Smart Furniture Set มาให้ด้วย
Smart Furniture ที่สามารถหมุนเก็บเป็นตู้หรือกางออกเพื่อเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะทานข้าวก็ได้
ห้องมีความสูง 2.55 เมตร ซึ่งถือเป็นมาตรฐานทั่วไป โดยพื้นเป็นวัสดุกระเบื้องยาง SPC ที่มีคุณสมบัติ ยืดหยุ่น และ แข็งแรง และทนทาน ไม่บวมน้ำ ผิวหน้าเป็นลายไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและความรู้สึกคล้ายไม้จริงโดยกำลังเป็นที่นิยมและใช้กันมากในคอนโดฯ
กั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยกระจกบานสไลด์ ความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน หากต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นแนะนำให้ติดผ้าม่านเพิ่มหรือเลือกใช้สติ๊กเกอร์หรือฟิล์มแบบขุ่นติดทับกระจกอีกชั้น เพื่อป้องกันสายตาจากผู้มาเยี่ยม โครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมใช้งานโดยจะเป็นสี Standard โทนสีครีม ไม้ หน้าบานทึบ ความสูงเต็มพื้นที่และเจาะรูด้านข้างสำหรับรองรับการชาร์จไฟ หรือวางอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆบริเวณพื้นที่หัวเตียง
ห้องนอน
ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้ ความสูงเต็มเพดาน
มุมปลั๊กไฟและที่วางของบริเวณหัวเตียง
บริเวณครัวจะกั้นด้วยกระจกสไลด์ ซึ่งจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้อง โดยครัวจะอยู่ติดระเบียง ซึ่งเป็นข้อดีเพราะจะช่วยระบายกลิ่นจากการประกอบอาหารให้ลดลงเพราะสามารถเปิดประตูตรงระเบียงให้อากาศถ่ายเทได้
โดยพื้นในพื้นที่ครัวจะเป็นกระเบื้องซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาด พร้อมชุดครัว Built-in ติดตั้งตู้เก็บของด้านบน และด้านล่าง ท้อปครัวเป็นหินสังเคราะห์ที่มีความสวยงาม คงทน แข็งแรง พร้อมติดตั้ง Hob&Hood มาให้พร้อมใช้งาน ผนังกันเปื้อนเป็นกระจก เพราะจะเป็นจุดที่รับทั้งความร้อน คราบสกปรกต่างๆ จากการทำอาหารมากที่สุด นอกจากจะดูสวยงามแล้ว ยังทนความร้อนได้ดี
ในส่วนของพื้นที่ห้องน้ำโครงการยกธรณีประตูสูงขึ้นให้พอมีระดับเพื่อกันน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำ ติดตั้งชุดสุขภัณฑ์อ่างล้างมือ มาให้พร้อมใช้งาน โดยพื้นที่อาบน้ำทางโครงการเจาะช่องผนังสำหรับวางอุปกรณ์ ครีม แชมพู อาบน้ำ ทำให้ดูสวยงามและเป็นสัดส่วน แต่ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้
ช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำและของใช้ภายในห้องน้ำ
แบบห้อง MULTI-USE ขนาด 34.68 Sq.m รูปแบบ 1 Bedroom Plus
พื้นที่ที่แตกต่างกันคือโซน Living Area สำหรับห้อง Type นี้ ให้ความรู้สึกมีพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ โดย Built-in ตู้เก็บของมาให้ ส่วนไอเดียที่เสริมมาคือ Smart Furniture ที่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างสำหรับการใช้งานโดยเลือกเป็นแบบซ่อนตู้คือสามารถยกลงมากลายเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะทานข้าว มุมเล็กๆ หรือจะยกเก็บเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน รูปแบบของ Smart Furniture ที่ทางโครงการใส่ให้ดูเป็นไอเดียนั้นสามารถนำไปทำตามก็ได้สำหรับใครที่ชอบวันเปิดสำนักงานขายครั้งแรก 11 มี.ค.นี้ทางโครงการมีโปรฯแถม Smart Furniture Set แบบนี้มาให้ด้วย
Smart Furniture ที่ทางโครงการแต่งห้องให้ดูเป็นไอเดีย
ครัวเป็นครัวปิดซึ่งจะช่วยลดกลิ่นจากการประกอบอาหารออกมารบกวนบริเวณอื่น
ห้องน้ำแบบมาตรฐานซึ่งได้เหมือนกันกับห้องทุก Type
ห้อง Master Bedroom ที่ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ หน้าบานทึบโทนสีมาตรฐาน
สำหรับห้องที่เพิ่มมาเป็นห้อง Plus ที่มีขนาดใหญ่ ที่แทบจะทำเป็นห้องนอนเล็กได้เลย โดยทางโครงการทำเป็นไอเดียให้ดูด้วยการออกแบบเป็นห้องนอนของคุณหนูๆ แต่ด้วยพื้นที่แล้ว สามาถทำเป็นห้องทำงาน ห้องเสื้อผ้า ก็ได้ ห้องนี้จะเป็นห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งาน พื้นที่ค่อนข้าง Flexible ขึ้นกับผู้อาศัยและความจำเป้นของแต่ละบุคคลที่จะเลือกปรับแต่งห้องตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
แน่นอนว่าโครงการ แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา (CHAPTER ONE ALL RAMINTRA) ถือเป็นสีสันใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มบนทำเลรามอินทราจากที่สมบรณ์อยู่แล้วสู่การยกระดับการอยู่อาศัยให้เพิ่มขึ้นไป การสร้างชีวิตในบทใหม่ทั้งความทันสมัย ฟังก์ชันและดีไซน์ พร้อมด้วย Facilities ที่ดี รองรับทุกกิจกรรม ในราคาที่คุ้มค่า ในราคาเฉลี่ย 89,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาทเท่านั้น จองเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท ผ่อนสบายเพียง 3,900 บาทต่อเดือน
เปิดให้ชมห้องตัวอย่างจริงครั้งแรก 11 มี.ค.นี้ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ
● ยูนิตราคาพิเศษ 20 ห้อง!! เริ่มที่ 1.79 ล้านบาท
● 100 ยูนิตแรก รับฟรี Smart Furniture Package!*
● รับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท*
แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา (CHAPTER ONE ALL RAMINTRA) คือหนึ่งในคำตอบของการอยู่อาศัยที่น่าสนใจไม่น้อย สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/411qfd4
