เป็นเรื่องที่รู้กันเป็นอย่างดีว่า “การมาของรถไฟฟ้ามักนำมาซึ่งความเจริญ” ซึ่งนอกจากความเจริญจะตามมาแล้วนั้นที่อยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียมมักได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยเช่นกันกับการพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า หนึ่งในเส้นทางที่น่าจับตาคือแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (มีนบุรี-แคราย) ที่จะกลายเป็น Feeder สำคัญ นำพาคนโซนพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ เข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯได้อย่างสะดวก ที่ปัจจุบันการก่อสร้างโดยรวมคืบหน้าแล้วกว่า 95.56% หนึ่งในพื้นที่ที่น่าสนใจคือย่านบริเวณจุดตัดของถนนติวานนท์ กับ ถนนงามวงค์วาน หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อของ “แยกแคราย” ทำเลขึ้นชื่อเรื่องการจราจรที่ติดขัดมากเป็นพิเศษมาเป็นระยะเวลานาน
พื้นที่โดยรอบ “แยกแคราย” นั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นของการพัฒนาคอนโดมิเนียมตั้งแต่มีข่าวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯเริ่มมองหาที่ดินและเข้าซื้อที่ดินเก็บเข้าPortเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการต้อนรับการมาของรถไฟฟ้าสายสีม่วงในเวลาดังกล่าวและความนิยมกำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้งเพราะพื้นที่บริเวณแครายจะกลายเป็น Interchang Station สถานีแคราย ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ กับ รถไฟฟ้าสายสีชมพู มีนบุรี –แคราย กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าโดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ราวเดือนมิถุนายน 2567 หรือระยะเวลาอีกเพียง 1 ปี เท่านั้น
พื้นที่รอบสถานีแครายนั้นมีคอนโดมิเนียมในพื้นที่ประมาณ 2,320 ยูนิต และขายไปแล้วกว่า 80% ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งมียูนิตเหลือขายไม่มากแล้วและคาดว่าภายในปีนี้จะสามารถปิดการขายได้ เพราะเมื่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการเชื่อได้ว่าราคาคอนโดฯจะมีการปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยราว 60,000 – 70,000 บาทต่อตารางเมตร และบางโครงการเปิดขายก่อนภายใต้ต้นทุนเดิมก่อนที่จะมีการปรับราคาในช่วง 1-2 ปีหลังที่ผ่านมา รวมทั้งผังเมืองนนทบุรีฉบับใหม่จะเป็นตัวผลักดันสำคัญที่ทำให้ราคาขายที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีข้อกำหนดสำหรับการพัฒนาโครงการค่อนข้างจำกัดและมีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่สามารถพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรได้ ดังนั้นส่งผลให้ที่ดินมีจำกัด แต่ในขณะเดียวกันอุปทานในตลาดลดลงส่งผลต่อราคาคอนโดมิเนียมหลังจากนี้จะมีราคาแพงกว่าโครงการที่เปิดขายในช่วงก่อนหน้าอย่างแน่นอน
Project Info
ชื่อโครงการ : ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย
ประเภทที่พักอาศัย : อาคารพักอาศัย ความสูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
ชั้น 1 Shop / Lobby / Office / WC / Parking
ชั้น 2-7 Parking
ชั้น 8 สระว่ายน้ำ และส่วนพักอาศัย
ชั้น 9-32 ส่วนพักอาศัย
ชั้น 33 Roof Garden
จำนวนยูนิต : 424 ยูนิต (ห้องพัก 422 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต)
ลักษณะห้องชุด : Studio 32.00 – 35.00 ตารางเมตร
1 Bedroom 46.00 – 49.00 ตารางเมตร
2 Bedrooms 56.50 – 68.00 ตารางเมตร
ที่จอดรถ : รองรับที่จอดรถประมาณ 214 คัน (ประมาณ 50.7%)
การมาของ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ Ready to Move ห้องใหญ่สุดในแคราย ที่ปัจจุบันมีราคาขายเริ่มต้น 46,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาทเท่านั้น สนใจลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/3KaICpx ซึ่งเป็นโครงการที่มาต้อนรับก่อนรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการ ซึ่งมีข้อดีสำหรับการซื้อโครงการ Ready to Move คือ
เห็นโครงการจริง ผู้ซื้อโครงการจะเห็นสภาพแวดล้อมของทำเลจริงที่ส่งผลต่อ Community ของการอยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น โดยโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย ตั้งอยู่บนถนนใหญ่ติวานนท์ พัฒนาเป็นอาคารสูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 422 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต รองรับที่จอดรถประมาณ 50.7% ใกล้ Interchange Station สถานีแคราย พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Smart Growth การเติบโตอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ บนทำเลที่มีความพร้อมของการใช้ชีวิตและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย ซึ่งทางโครงการจัดวางผังอาคารในรูปแบบตัว L เพื่อเปิดรับมุมมองและพื้นที่ว่างสำหรับการใช้งานอย่างลงตัว ออกแบบงานสถาปัตยกรรมสไตล์ Loft เน้นโทนสี Earth Tone ที่ช่วยให้รู้สึกสบายตา ผ่านสีขาว สีเทาอ่อน และสีเทาเข้ม ที่สร้างเอกลักษณ์อันโดดเด่นทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และยังเลือกใช้วัสดุประหยัดพลังงานภายในตัวอาคารเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการบริเวณด้านหน้าถูกออกแบบให้เป็นสวนสีเขียวปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้ดอกที่ให้ความรู้สึกสบายตาและช่วยกรองมลพิษจากภายนอกรวมทั้งลดเสียงรบกวนลงก่อนถึงตัวอาคารเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ซึ่งมีการจราจรพลุกพล่าน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บริเวณชั้น 8 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า และ Rooftop Garden ที่ถูกออกแบบให้เป็นสวนสีเขียว
สวนบริเวณด้านหน้าของโครงการปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้ดอกที่ช่วยสร้างความร่มรื่น และช่วยกรองฝุ่น ลดเสียงก่อนเข้าสู่ตัวโครงการ
ทางเข้าด้านหน้าของโครงการ
พื้นที่ Lobby สำหรับต้อนรับ
ที่สำหรับจัดเก็บพัสดุที่ทางโครงการติดตั้งเพิ่มเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่มีการสั่งสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น
Mail Box สำหรับลูกบ้าน พื้นที่ส่วนนี้จะสามารถเข้ามาได้ต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้น
นอกจากนี้บริเวณชั้นล่างของโครงการยังมีห้อง Laundry Room ที่คอยอำนวยความสะดวกสำหรับการซักผ้าซึ่งช่วยประหยัดเวลาและไม่ต้องขนย้ายเสื้อผ้าไปซักไกลหากในห้องไม่มีเครื่องซักผ้า
สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 8 ที่ออกแบบให้เป็น Infinity Edge Pool เป็นระบบเกลือ ความยาว 15.75 เมตร ลึก 1.10 เมตร ไม่มีสระเด็ก เปิดรับวิวเมืองย่านแคราย
ห้อง Fitness สำหรับรองรับการออกกำลังกาย
ห้อง Sauna
พื้นที่ Rooftop ที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นสวนพื้นที่สีเขียวที่สามารถมาใช้ออกกำลังกาย หรือ Jogging Track เบาๆ ในวันที่อากาศสดใสก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจโดยที่ไม่ต้องไปไหนไกลเลย
สามารถตรวจเช็คก่อนทำสัญญา ปัจจุบันโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแครายก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ผู้ซื้อสามารถเข้ามาตรวจเช็คส่วนงานและระบบต่างๆภายในห้องพักและสิ่งตกแต่งที่ทางโครงการให้มาพร้อมกับห้องชุดได้ โดยหากมีจุดไหนที่ไม่เรียบร้อยจะสามารถแจ้งแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กับทางโครงการได้โดยตรงก่อนวางเงินทำสัญญา โดยห้องชุดของโครงการขนาดเริ่มตั้งแต่ Studio 32.00 ตารางเมตร – 2 Bedroom ขนาด 68.00 ตารางเมตร จำนวนยูนิตต่อชั้น เพียง 14- 17 ยูนิต เท่านั้น พื้นที่บริเวณห้องพักมีความสูง 2.60 เมตร ทางโครงการขายห้องชุดแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว built-in มาพร้อม ยกเว้น Hob&Hood และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งภายใน 30 เมษายนนี้ ทางโครงการจัดโปรโมชั่น รับบัตรกำนัลสูงสุดมูลค่า 70,000 บาท ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ฟรีมิเตอร์ไฟฟ้า และรับชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung จำนวน 4 ชิ้น สนใจลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/3KaICpx
Studio Type 32.00 Sq.m.
เป็นห้อง Studio ที่ type ใหญ่มากเริ่มที่ 32.00 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันรูปแบบ Studio Type จะเริ่มต้นที่ 22.00 ตารางเมตร ซึ่งแทบจะหาห้อง Type Studio ขนาดนี้ได้ยากมากในปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่และฟังก์ชันการใช้งานมากขึ้น การอยู่อาศัยค่อนข้างสบายไม่รู้สึกอึดอัด
พื้นที่โซนแรกที่อยู่ติดกับประตูจะเป็น Living Area พื้นที่ในโซนนี้สามารถวางโซฟาที่มีขนาดใหญ่ได้เพราะมีพื้นที่ค่อนข้างมากโดยยังมีพื้นที่เหลือบริเวณด้านข้างที่สามารถทำเป็นมุมรับประทานอาหารก็ยังได้ มีระยะห่างค่อนข้างมากสามารถติดตั้งทีวีขนาด 70 นิ้ว ได้สบายๆ หรือจะBuilt-in ชั้นวางของ ตู้เก้บของเพิ่มเติมก็สามารถทำได้เช่นกัน พื้นที่ในส่วนนี้ค่อนข้าง Free form ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถออกแบบหรือดีไซน์ได้ตามใจ
พื้นห้องเป็นลามิเนตที่ดูแลรักษาง่ายค่อนข้างคงทน แข็งแรง โทนสีน้ำตาลให้ความรู้สึกเสมือนไม้จริง ซึ่งสามารถกั้นห้องเองเพิ่มเติมได้เพราะด้วยขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง วางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้สบายๆ และมีพื้นที่ในห้องเหลือค่อนข้างมากเลยทีเดียว
มีพื้นที่สำหรับใช้สอยเหลือค่อนข้างเยอะมาก นอกจากนี้ทางโครงการติดตั้งกระจกมาให้เพื่อเปิดรับแสงจากธรรมชาติ และช่วยระบายความอับชื้นจากการใช้ห้องพักอาศัยเป็นประจำในทุกวัน ช่วยให้อากาศถ่ายเทและมีการหมุนเวียนของอากาศระหว่างภายในกับภายนอกได้อย่างสะดวก
มีพื้นที่เหลือบริเวณหัวเตียงที่สามารถหาโต๊ะเล็กสักตัวหรือ Built-in ตู้ สำหรับวางของและเก็บของที่ต้องอยู่ใกล้มือบ่อยๆ อย่างเช่นไอแพดหรือโทรศัพท์มือถือ หรือหนังสือเล่มโปรดที่เอาไว้อ่านก่อนนอน
บริเวณปลายเตียงสามารถ Built-in หรือวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่ได้สบายๆ
ข้อดีของห้อง Type Studio คือสามารถจัดวางฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องได้ตามอิสระ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยที่ค่อนข้าง Flexible สูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของพื้นที่ได้ตามความต้องการ
ห้องครัว เป็นครัวปิดติดระเบียงที่สามารถช่วยระบายกลิ่นจากการประกอบอาหารได้ดีเนื่องจากสามารถเปิดประตูออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทและไหลเวียนลดความอับชื้นลง พื้นครัววัสดุเป็นกระเบื้องสามารถทำควมสะอาดได้ง่าย ทนทานต่อความชื้นและการใช้งานระยะยาว อีกด้านหนึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องน้ำที่ทางโครงการยกธรณีประตูขึ้นให้พอก้าวสะดวก เพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาจากห้องน้ำติดตั้งสุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto ให้ครบ พร้อมฉากกั้นอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นที่ทางโครงการติดตั้งมาให้เลยโดยแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม
ชุดครัวมาตรฐานที่ทางศุภาลัยให้มาพร้อมกับห้องชุดประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัว ซิ้งค์ล้างจาน ตู้เก็บของด้านบนและล่าง พร้อมเว้นพื้นที่เพื่อรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้อยู่อาศัยสามารถซื้อมาใส่เพิ่มเติมเองได้
บริเวณเดียวกันพื้นที่อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำที่ทางโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์ของ Cotto มาให้พร้อมใช้งาน
เครื่องทำน้ำอุ่นที่ทางโครงการติดตั้งมาให้พร้อม
1 Bedroom 49 Sq.m.
ด้วยความที่ห้องมีลักษณะเป็นห้องแบบหน้ากว้างให้ความรู้สึกห้องค่อนข้างใหญ่ความแตกต่างของห้อง Type 1 Bedroom กับ Studio คือพื้นที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วนมากขึ้น บริเวณ Living Area มีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมเองได้ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ มุมรับประทานอาหาร มุมทำงาน หรือแม้แต่จะ Built-in ตู้เก็บของแบบเต็มพื้นที่ผนังก็สามารถทำได้เช่นกัน
พื้นที่โซน Living Area
ห้องนอน Master Bedroom โครงการติดตั้งประตูห้องนอนบานไม้เป็นแบบบานสวิงซึ่งจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี มีพื้นที่ในห้องค่อนข้างมาก บริเวณปลายเตียงสามารถเลือกชุดเฟอร์นิเจอร์โต๊ะวางทีวีมาวางได้และยังมีพื้นที่เหลือที่ยังทำให้การเดินสะดวกอยู่ หรือจะเลือกแบบแขวนผนังเพื่อพื้นที่ที่มากขึ้นก็ได้เช่นกัน ไฮล์ไลท์ที่น่าสนใจคือมีพื้นที่ที่สามารถออกแบบเป็น Walk in Closet ได้อย่างสบายๆ และเชื่อมต่อกับห้องน้ำภายในห้องที่หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาแต่งตัวในบริเวณนี้
ห้อง Master Bedroom
พื้นที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำที่สามารถดัดแปลงให้กลายเป็น Walk in Closet ขนาดย่อมๆได้
สำหรับครัวเป็นครัวปิด ติดริมระเบียงเหมือนกับห้อง Type Studio
2 Bedrooms 68 Sq.m.
สำหรับห้อง 2 Bedrooms รูปแบบของฟังก์ชันห้องจะคล้ายกันกับ 1 Bedroom คือพื้นที่ส่วนแรกยังคงเป็น Living area ที่สามารถจัดสัดส่วนระหว่างโซนนั่งเล่น กับโซนรับประมานอาหารออกจากกันได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะมีพื้นที่แยกเป็นห้องนอน 2 ห้อง ให้ความรู้สึก Feel Like Home เหมือนได้อยู่บ้าน มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก โดยห้อง Master Bedroom จะมีลักษณะคล้ายกันคือมีห้องน้ำภายในตัวและพื้นที่แต่งตัวที่สามารถทำเป็น Walk in Closet ได้ ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่สำหรับการใช้งานได้หลากหลาย โดยสามารถเพิ่มมุมสำหรับทำงานภายในห้องก็ยังได้ และห้องนอนเล็กนั้นสำหรับคนที่มีครอบครัว ห้องนอนนี้เพียงพอที่จะใช้เป็นห้องนอนของลูกไปจนโตเลยก็ยังได้ด้วยซ้ำ เพราะพื้นที่ค่อนข้างกว้างรองรับเด็กโตได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว
พื้นที่โซน Living Area
ห้อง Master Bedroom ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งคือมีพื้นที่ระเบียงที่สามารถเปิดออกไปเพื่อชมวิวได้
ห้องนอนเล็กที่จริงๆแล้วมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามการใช้งานได้หรือหากอยู่อาศัยคนเดียวจะเปลี่ยนเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกัน หรือสำหรับคนขายของออนไลน์จะทำเป็นสตูดิโอที่ใช้ไลฟ์ขายสินค้าก็ยังได้
โครงการ สามารถเข้าอยู่ได้ทันที โครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ทำให้ผู้ซื้อไม่ต้องกังวลว่าการพัฒนาโครงการจะเป็นไปตามแผนหรือไม่หรือจะเกิดการล่าช้าเกิดขึ้นโดยสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันทีหลังทำการโอนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย จัดโปรที่ใช่ให้ตามที่ชอบ ชอบแบบไหนเลือกเลยตามที่ใช่ รับบัตรกำนัลสูงสุดมูลค่า 70,000 บาท ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ฟรีมิเตอร์ไฟฟ้า และรับชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung จำนวน 4 ชิ้น ภายใน 30 เมษายน 2566 นี้เท่านั้น!!! นอกจากนี้ยังเป็นการลดภาระซึ่งสามารถ เปลี่ยนค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อน จะช่วยให้ผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายเงิน 2 ทาง ซึ่งเงินค่าเช่าที่อยู่อาศัยกับค่าผ่อนคอนโดฯแทบไม่แตกต่างกันและสุดท้ายหลังจากผ่อนคอนโดครบตามระยะเวลาสินทรัพย์นั้นจะกลายเป็นทรัพย์สินของเจ้าของหรือผู้ซื้อ อนาคตสามารถปล่อยเช่าต่อได้ เพราะตัวทำเลเองนั้นเป็นย่านที่มีศักยภาพ และยังคงเป็นหนึ่งในทำเลที่มีความต้องการของการอยู่อาศัยด้วยราคาที่จับต้องได้ ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้สูงเทียบเท่าย่านใจกลางเมืองหรือย่านแคมปัสคอนโดรอบมหาวิทยาลัยแต่อย่างน้อยราว 3%- 4% เป็นตัวเลขที่พอเป็นไปได้ ทั้งในอนาคตแครายยังคงรอการเติบโตด้วยการมาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ที่จะเข้ามาเติมเต็มและยกระดับการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และสามารถนำเงินของผู้เช่ามาจ่ายแทน ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่ทำให้เกิดรายได้หรือผลตอบแทนเกิดขึ้น
การหาคอนโดมิเนียมที่มีไซส์ห้องขนาดใหญ่ในราคาเริ่มต้น 46,000 บาทต่อตารางเมตร แทบจะเป็นไปได้ยากมากในปัจจุบันเพราะต้นทุนของการพัฒนาโครงการตั้งแต่ราคาที่ดินที่ปรับขึ้นอยู่ตลอดเวลา ราคาของวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูง รวมทั้งปัจจัยแวดล้อมของทำเลที่เติบโตและโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure) ที่เข้ามาเติมเต็ม ทำให้การพัฒนาโครงการใหม่มีราคาสูงตามไปด้วย โดย ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย มีราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาทเท่านั้น!!! พร้อมจัดหนักด้วยโปรโมชันสุดพิเศษ “ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย จัดโปรที่ใช่ให้ตามที่ชอบ” ชอบแบบไหนเลือกเลยตามที่ใช่ รับบัตรกำนัลสูงสุดมูลค่า 70,000 บาท ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ฟรีมิเตอร์ไฟฟ้า และรับชุดเครื่องใช้ไฟฟ้า Samsung จำนวน 4 ชิ้น ภายใน 30 เมษายนนี้เท่านั้น!!! สนใจลงทะเบียน http://bit.ly/3KaICpx สอบถามเพิ่มเติมโทร 1720
