ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนหรือ RISC ภายใต้บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) มั่นใจหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด “ฟ้าใสมินิ” รุ่นใหม่ล่าสุด ช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการลดฝุ่น PM2.5 และฆ่าเชื้อโรค ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพให้มีอากาศดีในการหายใจ
รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC by MQDC) เปิดเผยว่า “หนึภารกิจหลักของ RISC คือ การจุดประกายความคิดและพัฒนานวัตกรรมที่จะตอบสนองต่อโลกอนาคตและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกชีวิต ล่าสุ ได้เปิดตัวหอฟอกอากาศนอกอาคาร “ฟ้าใสมินิ” รุ่นใหม่ เหลังจารกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 เพื่อช่วยลดมลภาวะทางอากาศและฝุ่น ซึ่งเป็นปัญหาของเมืองต่อเนื่องมายาวนาน และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีความรุนแรงมากในปีนี้ จนทำให้กรุงเทพฯและหลาย ๆ จังหวัด กลายเป็นเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูงติดอันดับโลก รวมถึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของประชาชนในระยะยาว เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็งปอด โรคหอบหืด โรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นต้น
ดังนั้นหอฟอกอากาศนอกอาคารฟ้าใสมินิ รุ่นใหม่ ได้ถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยผลการวิจัยยืนยันว่าสามารถ ลดฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 70% นอกจากนี้ยังฆ่าเชื้อโรคได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส มีต้นทุนการผลิตที่ลดลง ทำให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ตลอดจนมีดีไซน์ที่ทันสมัยทั้งรูปลักษณ์ และสีสันในโทนสีพาสเทลสดชื่น
ตัวเครื่องหอฟอกอากาศรุ่นล่าสุด ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมสูง 5.10 เมตร เหลือความสูงเพียง 3.20 เมตร และฐานกว้าง 1.35 เมตร เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและติดตั้ง สามารถเข้าถึงเข้าถึงพื้นที่แออัดในเมืองได้ โดยมีกำลังขนาดของพัดลมขาเข้าและขาออก รวมเป็น 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่เท่ากับครึ่งสนามฟุตบอลโดยประมาณ
หลักการทำงานของหอฟอกอากาศฟ้าใสมินิ เริ่มต้นจากการดูดอากาศจากด้านล่างด้วย พัดลม ดึงอากาศเข้าไปในระบบ ผ่านหัวพ่นละอองน้ำความเร็วสูง 2 ชั้น (ตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน) ผสมกับการออกแบบแผ่นโครงสร้างดักฝุ่นละอองและเพิ่มแรงตึงผิวให้กับน้ำ สามารถจับอนุภาคขนาดตั้งแต่ 0.3 ไมครอนขึ้นไป อากาศจากหอฟอกอากาศนี้จะผ่านการฆ่า เชื้อโรคด้วยระบบ UVGI เพื่อทำให้สะอาดอย่างแท้จริง และจะปล่อยออกมาในระดับความสูงที่คนหายใจพอดี โดยมีใบพัดช่วยดึงให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
ทั้งนี้ฟ้าใสมินิรุ่นใหม่ใช้ปริมาณน้ำในระบบเพียง 50 ลิตรต่อวัน เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนในอากาศ รวมถึงมีระบบหมุนเวียนน้ำ บางส่วนให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยเทคโนโลยีโอโซนในน้ำและระบบกรองน้ำ ส่วนระบบอัตโนมัติแบบไฮบริด เป็นการนำพลังงานที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ มาใช้ร่วมกันกับระบบ พลังงานไฟฟ้าทั่วไป เพื่อลดภาระการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวัน
จากการทดสอบประสิทธิภาพของหอฟอกอากาศฟ้าใสที่ผ่านมาพบว่า ค่าฝุ่นละอองลดลงและสร้างขอบเขตพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างชัดเจน โดยมีประสิทธิภาพที่ 50-70% ซึ่งคิดจากวันที่มีฝุ่นสะสมในพื้นที่เมืองที่ 100-150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทำให้ RISC มีความมั่นใจว่า “ฟ้าใสมินิ” รุ่นใหม่จะทำหน้าที่การสร้างพื้นที่ปลอดภัยได้ไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ฟ้าใสเดิม และสามารถติดตั้งในบริเวณพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของอาคารสูง ถนนเล็กในเขตชุมชน และตรอกซอยได้ดียิ่งขึ้น
