“แสนสิริ”ประกาศบุกตลาดครึ่งปีหลัง66 จ่อผุด 39 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5.6 หมื่นล้านบาท

แสนสิริฯเผย 7 เดือน Secured Revenue แล้วกว่า 70% คิดเป็นมูลค่า 29,700 ล้านบาท จากเป้ารายได้จากการขาย 41,000 ล้านบาท พร้อมจ่อคิวบุคโอนอีก 3 โครงการแนวสูง – แนวราบ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท มั่นใจรายได้จากการขายตามเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นและสะท้อนความแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่ยอดขายรอบ 7 เดือน ล่าสุดทะลัก 27,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลัง 66 จ่อเปิด 39 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท 
นายอุทัย อุทัยแสงสุข
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)  หรือ SIRI เปิดเผยว่า ความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ ของแสนสิริ ส่งผลให้แสนสิริมีผลงานที่แข็งแกร่ง ด้วยยอดขายในช่วง 7 เดือน ที่มียอดขายรวมถึง 27,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท จากการ Sold Out ปิดการขายไปถึง 10 โครงการ มูลค่ารวม 20,200 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแนวราบ 7 โครงการ ได้แก่  โครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล, เศรษฐสิริ พระราม 5, อณาสิริ กรุงเทพ – ปทุมธานี, อณาสิริ รังสิต – คลอง 2, คณาสิริ ศาลายา – ปิ่นเกล้า, สิริเพลส ราชพฤกษ์ – พระราม 5 และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ รังสิต, ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต รวมถึงล่าสุดยังปิดการขายคอนโดมิเนียม เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ทำเลห้าแยกลาดพร้าว ตอกย้ำความมั่นใจในตลาดคอนโดมิเนียม

นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานการโอนที่โดดเด่นในรอบ 7 เดือน โดยมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% จากเป้าหมายยอดโอน 41,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลัง แสนสิริยังเตรียมโอนอีก 3 โครงการแนวสูง – แนวราบ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท ได้แก่ เฮย์ หัวหิน (HAY HUA HIN) และ เนีย บาย แสนสิริ (NIA by Sansiri) คอนโดฯใหม่จากซีรี่ย์ One of a Kind Project ที่จะเป็นโครงการคอนโดสูงในสุขุมวิท ราคาเริ่มต้น 2.59  ล้านบาท* ที่พร้อมโอนในเดือนกันยายนนี้

รวมทั้งโครงการแนวราบที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของแสนสิริในปีนี้ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำอสังหาฯ ลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ไทย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมโอน “บูก้าน พัฒนาการ” บ้านเดี่ยวรูปแบบ Luxury Private Villa รายล้อมด้วยสังคมคุณภาพ เพียง 17 ยูนิตเท่านั้น ราคา 65 – 115 ล้านบาท* จ่อคิวเปิดตัวปลายกันยายน ที่จะรองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยล่าสุด แสนสิริมี Secured Revenue หรือรายได้ในมือที่รองรับแล้วถึง 29,700 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 70% จากเป้าหมายรายได้จากการขายที่วางไว้ในปีนี้ 41,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง 2566 แสนสิริยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 39 โครงการ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 23 โครงการ มูลค่ารวม 35,900 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท ครอบคลุมทุกทำเล และแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 20,800 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัว New Luxury Condominium ในสุดยอดทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ ได้แก่ “ราชเทวี”และ “อารีย์” เพื่อผลักดันการเติบโตของยอดขายและตุนยอดรับรู้รายได้ในอนาคต

“ผลงานยอดขายที่ดีตั้งแต่ต้นปี มาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าในการเป็น ‘แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน’ จากการมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในด้านคุณภาพ ดีไซน์ รวมถึงการบริการ หรือ Sansiri Service ในการมอบบริการที่ดีที่สุดทั้งก่อนและหลังการขายรวมไปถึง LIV-24 ที่ดูแลความปลอดภัยส่งตรงจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมงมาตรฐานแสนสิริ พร้อมเจ้าหน้าที่พร้อมดูแลทุกจุดในโครงการพร้อมพริวิเล็จมากมายจากแสนสิริ แฟมิลี่ ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้าแสนสิริ ด้วยยอดขายและการทยอยรับรู้รายได้ที่ดีขณะที่ผู้ถือหุ้นให้ความเชื่อมั่นสูง สะท้อนจากหุ้น SIRI ที่มีความแข็งแกร่ง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหุ้นที่ถูกรวมอยู่ในดัชนี SETHD (SET High Dividend)จากการเป็นหุ้นที่มี Market cap สูง, Liquidity สม่ำเสมอ และจ่ายปันผลสูงต่อเนื่องอีกด้วย” นายอุทัย  กล่าวในที่สุด

 

 

โพสที่เกี่ยวข้อง