LIV-24 หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์

“ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน” คือหัวใจสำคัญที่สุด ในการดูแลบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้าน คอนโด ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานโครงการ หรือโรงงาน แต่การดูแลโดยใช้ คน หรือ มนุษย์เพียงอย่างเดียวจะเพียงพอและมีประสิทธิภาพได้ดีตลอด 24 ชั่วโมงได้จริงหรือไม่ ???

อาจจะได้หรืออาจไม่ได้ เพราะยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย!

แต่อย่าลืมว่า คนหรือมนุษย์ ก็มีข้อจำกัดที่ต้องการพักผ่อน การเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า และข้อจำกัดอื่นๆ ที่อาจทำให้ไม่สามารถดูแลได้เต็มที่ ลองคิดถึงโครงการหมู่บ้านที่มีพื้นที่สัก 40 ไร่ รั้วโครงการยาวขนาดไหน พื้นที่ที่อาจจะเป็นจุดสุ่มเสี่ยงในการรักษาความปลอดภัยมีมากแค่ไหน และตลอด 24 ชั่วโมง เราจะสามารถดูแลความปลอดภัยจากเรื่องต่างๆได้เต็มที่ขนาดไหน ไม่ใช้แค่ความปลอดภัยจากการบุกรุกของผู้ไม่ประสงค์ดี แต่ยังมีเรื่องของฟืนไฟ เรื่องระบบน้ำ ระบบความปลอดภัยต่างๆ รวมถึงระบบลิฟท์สำหรับอาคารสูงด้วย ดังนั้น ข้อจำกัดในการใช้คนในการดูแลทั้งหมดอาจจะไม่คำตอบที่ดีที่สุด

แล้วถ้าลองคิดใหม่ว่า การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานผ่านรูปแบบ
1. ระบบ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากมายในทุกๆด้าน มารวมกับ
2. SOFTWARE ที่ถูกพัฒนามาเพื่อการดูแลบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ
3. HARDWARE อุปกรณ์ต่างๆที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพสูง และ
4. HUMANWARE บุคลากรที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ บริหาร จัดการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ

ถ้านำทั้ง 4 เรื่องมารวมกันแล้ว เชื่อสิว่าการดูแลบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งเรื่องความปลอดภัย ระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟท์ และการบุกรุกต่างๆทั้งจากคนและสัตว์ร้ายน่าจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลย

พาบุก “ถ้ำลับ” COMMAND CENTER ของ LIV-24

เรียกว่าถ้ำลับเพราะเป็นสถานที่ที่ปกติไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ เนื่องจากเป็นเรื่องความปลอดภัย และเรื่อง PDPA แต่พอดีมีกรณีพิเศษที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนในวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบบริหารจัดการโครงการ หรือผู้พัฒนาโครงการเข้ามาศึกษาดู เพราะของมันต้องมี แล้วก็ต้อง ว้าวววว แบบหลายว้าว มากๆ !!!

นี่แหละคือ ระบบที่สามารถตอบโจทย์เรื่อง Security Solution และ BAS – Building Automaion System ได้ดีที่สุดในปัจจุบันจนได้รับ “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบบริการ” เมื่อปี 2562 มาแล้ว

ที่นี่คือ LIV-24 COMMAND CENTER อีกหนึ่งบริการของบริษัท PLUS PROPERTY ผู้เชี่ยวชาญด้าน Property Management กว่า 25 ปี ที่ใครๆก็รู้จักดี เพราะเป็นผู้บริหารทั้งโครงการหมู่บ้าน และคอนโด รวมถึงอาคารชั้นนำต่างๆในประเทศมากมาย อาทิ โครงการของแสนสิริ ที่มีแฟนคลับทั่วบ้านทั่วเมือง รวมถึงโครงการอื่นๆ จากผู้พัฒนาอสังหาฯชั้นนำในเมืองไทย

จากการที่ได้ดูการทำงานจริง จากห้อง Command Center นี่ต้องบอกว่าน่าทึ่งมากๆ และเห็นได้ชัดเลยว่า ระบบนี้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องการใช้คนได้หลายเรื่องมากๆ ยกตัวอย่างเช่น

• หากโครงการหมู่บ้านใหญ่ๆ ที่มีพื้นที่มากๆ รั้วยาวๆหลายร้อยเมตร มีผู้บุรุกจากภายนอกปีนข้ามแนวรั้วจุดใดจุดหนึ่งเข้ามา ก็มีโอกาสที่จะหลุดรอดช่วงที่ รปภ.มองไม่เห็นได้ หรือยิ่งถ้าเป็นกลางคืน ยิ่งมีโอกาสหลุดรอดมากขึ้น แต่ถ้าเป็นระบบของ LIV24 ที่มีทั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่จับความเคลื่อนไหวได้เอง รวมถึงระบบรั้วดิจิทัลแล้ว ระบบ AI จะสามารถเตือนภัยมาที่ COMMAND CENTER ได้ทันที แม้ว่าทางหน้างานจริงจะไม่มีคนเห็นหรือไม่มีใครกำลังดูกล้อง CCTV ก็ตาม แต่ AI จะแจ้งเตือนภัยมาที่ COMMAND CENTER ทันที และ AGENT หรือเจ้าหน้าที่ที่รักษาการณ์ใน COMMAND CENTER ในกะนั้นๆ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำถึง 3 กะ กะละ 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลาทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของเจ้าหน้าที่แต่ละคน จะรีบแจ้งกลับไปที่หน้างานให้ รปภ.หรือเจ้าหน้าที่เข้าชาร์จได้ทันที นี่คือประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนมากๆ

• หรือในกรณี สัตว์ร้าย เช่นงูตัวใหญ่ๆ หรือสัตว์ที่อาจมีอันตรายต่างๆ เข้ามาในพื้นที่ ระบบ AI ก็สามารถแจ้งเตือนกลับไปให้ รปภ.หรือเจ้าหน้าที่เข้ารีบดำเนินการป้องกันได้ทันที

• หรืออย่างกรณีในคอนโด LIV-24 มีระบบที่สามารถดูแลอาคารได้ดีมากๆ เช่น กรณีเกิดประกายไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในคอนโด จนเกิดควันไฟเริ่มลุกลาม AI จากกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ก็จะรีบแจ้งเหตุมาที่ COMMAND CENTER เพื่อให้ AGENT แจ้งระงับเหตุกลับไปที่หน้างาน ซึ่งอาจจะเร็วกว่า Fire Alarm จะเตือนก่อนด้วยซ้ำ

• หรือการติดระบบ Censor ในที่ต่างๆที่มีความเสี่ยง เช่น ถังเก็บน้ำบนอาคารที่อาจจะล้นจนไหลเข้ามาลงช่องลิฟท์จนเกิดความเสียหายมหาศาลตามมา อย่างที่เราเคยเห็นข่าวมาแล้ว LIV-24 ก็สามารถแจ้งเตือนเหตุได้ก่อนเช่นกัน

หลายคนอาจสงสัยว่า ระบบแจ้งเหตุของ LIV-24 จะสามารถเห็นเหตุก่อนในทุกพื้นที่ ทุกโครงการที่ดูแลได้จริงๆ หรือ???

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนจากที่เห็นของจริงมาแล้ว LIV-24 ตอนนี้ดูแลโครงการทั้งสิ้นกว่า 100 โครงการ ในหลายจังหวัดทั้ง กรุงเทพ ภูเก็ต ขอนแก่น และเชียงใหม่ แต่ด้วยการใช้ AI + SOFTWARE + HARWARE + HUMANWARE ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องหลายปีเพื่อระบบนี้โดยเฉพาะ AI มันจะสามารถเตือนเองเมื่อเกิดเหตุ และดึงภาพ Real Time จากที่เกิดเหตุ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตามมาขึ้นจอ Monitor ให้ AGENT โดยทันที อันนี้ ว้าวมาก ! ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะหลุดรอดสายตา เพราะระบบ AI และกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ของ LIV-24 มีประสิทธิภาพดีมากๆ จนมีการแจ้งเตือนเฉลี่ยถึงวันละ 2,000 ครั้ง หรืออาทิตย์ละมากกว่า 10,000 ครั้ง ที่เป็นการป้องปรามการเกิดเหตุร้ายจากทุกพื้นที่ ทุกโครงการ ที่ LIV-24 ดูแลอยู่ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ ลองคิดเล่นๆว่า เราจะต้องใช้ รปภ. กี่คน ถึงจะสามารถตรวจสอบพื้นที่ได้มากเท่านี้

ระบบของ LIV-24 SOLUTION ยังประกอบไปด้วย ระบบ CCTV Analytics ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ แจ้งเตือนทุกเหตุการณ์แบบ Realtime / Digital fence รั้วดิจิตอล ป้องกันการโจรกรรม พร้อมแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบการบุกรุก / Real time Guard Tour ระบบการเดินตรวจสอบพื้นที่ของ รปภ. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ รปภ. บันทึก ตรวจสอบการทำงานได้แบบ Real-time / Access control ระบบไม้กั้น เข้า-ออก พื้นที่ ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Card, RFID และ License Plate Reader (LPR) / Visitor Management System ระบบการบันทึกการเข้า – ออกของลูกบ้านและผู้มาติดต่อ สะดวกสบายด้วยการแจ้งเตือนผ่าน Line / Motion sensor เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว พร้อมแจ้งเตือนทุกการเคลื่อนไหวผ่าน Smart phone / LIV-24 Command Center ศูนย์ควบคุมสั่งการจากส่วนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คอยมอนิเตอร์ ประสานงานให้เข้าพื้นที่เพื่อระงับเหตุแก้ไขในเวลาอันรวดเร็ว ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เรียกได้ว่าครบวงจรและคุ้มค่าการลงทุนมากๆ

ถ้าถามว่า ในทางการลงทุนแล้ว จะคุ้มค่ายังไงกับการใช้ระบบแทนคนจริงๆ ?

ลองวิเคราะห์ถึงความคุ้มค่าในการลงทุนการใช้ ระบบของ LIV-24 กันดูคร่าวๆนะ
สมมุติว่า เราต้องดูแลความปลอดภัยให้โครงการหมู่บ้าน บ้านเดี่ยว 100 ตารางวา จำนวน 200 หลัง มีพื้นที่ในการดูแลประมาณ 32,000 ตร.วา หรือ 80 ไร่ ถ้าเราต้องจ้าง รปภ. ในการดูแลความปลอดภัยโครงการ เราต้องจ้าง รปภ. ประมาณ 20 คน ( แบ่งเป็น 2 กะ ) มีค่าใช้จ่ายเงิน ประมาณ 9,600,000 บาท ต่อปีถึงจะสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง

แต่ถ้ามีการวางระบบ LIV-24 เข้ามาช่วย จะสามารถลดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลง เหลือ 12 คน ( แบ่งเป็น 2 กะ ) มีค่าใช้จ่ายเงินเดือน และค่าติดตั้งระบบเพียง 7,120,000 บาท
ซึ่งค่าใช้จ่ายเริ่มต้นก็จะประหยัดกว่าแล้ว และต่อไปในระยะยาว ค่าแรง รปภ. ก็จะมีโอกาสที่จะต้องปรับสูงขึ้นด้วย แต่ระบบของ LIV-24 ไม่ต้องปรับขึ้น ก็ย่อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการลงได้

ที่สำคัญที่สุดคือ ระบบ LIV-24 ยังสามารถช่วยป้องความผิดพลาดที่เกิดจากคน หรือ Human Error ได้ดีที่สุด ถึงแม้ รปภ.ไม่ได้ประสบเหตุ แต่เทคโนโลยี AI ของ LIV-24 ก็สามารถดูแลได้ และยังสามารถควบคุมการทำงาน การเดินตรวจตราตามตารางของ รปภ. ให้มีประสิทธภาพที่สุดได้ตลอด 24 ชม. ตลอด 7 วันด้วย

ส่วนระบบ BAS หรือ ระบบ Building Automation System ของ LIV-24 คือระบบจัดการวิศวกรรมอาคารเต็มรูปแบบ ระบบนี้จะเกี่ยวข้องกับระบบน้ำ ไฟฟ้า ลิฟท์ ปั๊มต่างๆ เซ็นเซอร์ติดตั้งตามอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึง IOT ต่างๆ ภายในอาคาร ซึ่งบริการนี้จะเหมาะเป็นพิเศษกับตึกสูง คอนโด อพาร์ทเมนท์ เพราะเกี่ยวกับระบบภายในอาคาร ที่มีทั้งหมด 3 เทคโนโลยี ด้วยกัน

1. Building Engineering ระบบควบคุมและมอนิเตอร์การทำงานของระบบต่างๆภายในอาคาร
2. Smart Billing ระบบบริหารจัดการใบเสร็จค่าใช้จ่ายเช่นค่าน้ำ ค่าไฟให้แก่ผู้เช่าได้
3. Energy Management ช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด

โดย LIV-24 จะมีรูปแบบการให้บริการ 2 แบบ คือ
-Full-Service ดูแล มอนิเตอร์ พร้อมช่วยควบคุมทั้งระบบแบบครบวงจร เหมาะแก่ตึกสูงที่มีความซับซ้อนของระบบมาก
-ระบบ LIV-24 IOT Monitoring คือมอนิเตอร์พร้อม Dashboard แจ้งเตือนการทำงานของระบบ น้ำ ไฟฟ้า สัญญาณแจ้งเตือนไฟ ลิฟท์ ที่มีความผิดปกติในทันที ซึ่งสามารถวิเคราะห์และแจ้งเตือนล่วงหน้าได้ด้วย ซึ่งแบบนี้ทาง LIV-24 ออกแบบมาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ให้สามารถใช้ได้กับโครงการที่พักอาศัยที่ระบบไม่ต้องการความซับซ้อนมาก

หลังจากที่ได้ชมการสาธิตจาก COMMAND CENTER จริงๆ และได้ดู เคสที่สามารถป้องกันการเกิดเหตุร้ายได้จริงๆแล้ว ต้องบอกว่า LIV-24 เป็นระบบที่คุ้มค่าน่าลงทุนมากๆ สามารถแก้ Pain point ได้ในหลายๆเรื่อง นอกเหนือไปกว่านั้น ระบบการดูแลบริหารจัดการอาคารที่ดีอย่าง LIV-24 ยังมีประโยชน์ที่เห็นได้ชัดในแง่อื่นเช่น

1. เป็นการยกระดับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในโครงการ ตั้งแต่การเฝ้าระวัง 24 ชม.แบบไม่มีเวลาหยุด ไม่มีวันลา ไม่มีวันหลับ และเป็นการทำงานแบบ Real time คือ Action ทันที และสามารถทำงานได้ทุกๆที่ ไม่ต้องประจำที่สถานที่จริงเท่านั้น และยังการันตีความถูกต้องได้ด้วยการทำงานของ AI

2. เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการในอนาคต เพราะโครงการที่ใช้ระบบรักษาความปลอดภัย และการบริหารอาคารที่ล้ำสมัย จะสร้างความน่าเชื่อถือขั้นสูง และสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้ผู้เช่าและผู้อยู่อาศัย จะเพิ่มราคาตลาดให้กับทรัพย์สินได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าเช่า และราคาขายต่อ และยังเป็นจุดขายของ Developer ที่แตกต่างให้กับ product อีกด้วย อีกหน่อยตลาดจะค่อยๆเรียนรู้ว่า ถ้าอาคารนั้นบริหารจัดการโดย LIV-24 อาคารนั้นจะได้รับความมั่นใจขั้นสูงสุดในเรื่องความปลอดภัย

3. เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพย์สินได้ อะไรที่วัดได้ ก็จะสามารถ Improve ได้ LIV-24 จึงมีการพัฒนา Risk scoring เพื่อใช้ประเมินความเสี่ยงของโครงการ ทั้งก่อนและหลังการใช้ LIV-24 solutions และทำให้เห็นประโยชน์ที่ได้จากการใช้ LIV-24 อย่างชัดเจน ว่าสามารถลด Human error ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และสามารถเพิ่มคุณภาพกระบวนการทำงานและการบริการได้

4.การทำงานด้วยการพึ่งพาคน มีต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าจ้างบุคคลากรที่ดีมีแต่แพงขึ้น หายากขึ้นและเมื่ออายุมากขึ้นประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดลง ซึ่งสวนทางกับเทคโนโลยี ที่จะมีแต่ประสิทธิภาพดีขึ้นและต้นทุนถูกลง การนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด จะทำให้เราใช้ลดต้นทุนได้ในระยะยาว ในขณะที่ประสิทธิภาพกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

พอได้มาเห็นของจริง ระบบจริง การทำงานจริงแล้ว อยากให้ทุกหมู่บ้านได้มีระบบดีดีแบบ LIV-24 SOLUTION ไปใช้จริงๆ เพราะการลงทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 30,000-50,000 บาท แต่สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาเพียง 6 เดือน แลกกับการได้ระบบดูแลความปลอดภัยให้ลูกบ้านได้อุ่นใจตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน มันคุ้มค่ามากกว่าแค่ตัวเลขจริงๆนะ

ถ้าสนใจลองติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม หรือปรึกษาเรื่องระบบเพิ่มเติมดูได้กับผู้เชี่ยวชาญของ LIV-24 ได้ที่ https://bit.ly/LIV-24 หรือโทร 02 688 7555
ถ้าได้มาศึกษาโดยละเอียดแล้ว กล้าการันตีเลยว่าน่าจะสนใจและนำไปใช้แน่นอน