“มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44” รวมพลังอสังหาฯ แรงซื้อช่วงท้ายสุดของปี’66

“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 44 เผยเป็นงานที่เพิ่มโอกาสให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง สอดรับนโยบายกทม. ชมผู้ประกอบการปรับตัวรับเทรนด์ขยายความต้องการตอบโจทย์ 3 Gen ด้านดีเวลลอปเปอร์ค่ายใหญ่ ขนโครงการทุกระดับราคาอัดแคมเปญกระทุ้งยอดขายโค้งสุดท้ายปี 66 กันเพียบ ส่วนสถาบันการเงินนำสินทรัพย์เด่นหลากทำเลเพิ่มทางเลือก พร้อมให้คำปรึกษาฟรี
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด”ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 -20.00 น.ณ ฮอลล์ 5 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่แสดงถึงความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นและความพยายามอย่างต่อเนื่องของเหล่าสมาชิกผู้ประกอบการที่จะสร้างการเติบโตให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยิ่งกว่านั้นคือการเพิ่มโอกาสให้กับคนไทยได้มีบ้านที่ดีเป็นของตัวเอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและปณิธานของกรุงเทพมหานคร การมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพที่ดี คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมือง ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงพยายามที่จะสร้างโอกาสการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงให้กับคน กทม. ไม่ว่าจะเป็นผู้มีรายได้น้อยและประชาชนทั่วไป ผ่านโครงการและความคิดริเริ่มต่างๆ เช่น โครงการบ้านมั่นคง การพัฒนาที่อยู่อาศัยชั่วคราว การจัดทำฐานข้อมูลห้องเช่าราคาถูก ไปจนถึงการพัฒนาที่พักให้คนไร้บ้าน เป็นต้น”

 

สำหรับงานครั้งที่ 44 นี้ ทาง 3 สมาคมได้ขยายขอบเขตการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มอายุ Gen X, Gen Y และ Gen Z ซึ่งเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่เหล่าผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วให้สอดรับกับบริบทและความต้องการในสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะกับกลุ่ม Gen Z ที่กำลังมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในหลายมิติของสังคมและเศรษฐกิจไทย เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นผู้บริโภครุ่นแรกที่เกิดในยุคอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็น Digital Native ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย และบางส่วนก็เริ่มเข้าสู่วัยทำงาน เป็น First Jobber แล้ว และในอนาคตก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้นำองค์กรในยุคถัดไป ที่จะรับช่วงต่อจากคนเจนก่อนหน้า ทั้งยังเป็นเจนที่ให้ความสนใจในเรื่องการเงิน การลงทุน การสร้างรายได้ และการเป็นเจ้าของกิจการของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นก่อนหน้า ดังนั้น Gen Z จึงเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคตอันใกล้นี้

“สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ว่าภาครัฐ สถาบันการเงิน และผู้ประกอบการ จะสามารถปรับตัว กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ สร้างสรรค์ความริเริ่มและนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึงได้ดีมากแค่ไหน จะทำอย่างไรให้คน Gen Z สามารถเป็นเจ้าของ ‘บ้าน’ ที่มั่นคง มีคุณภาพ เดินทางไปกลับที่ทำงานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย รวมไปถึงทำอย่างไรให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้มั่นใจได้ว่าจะสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการทางการเงินต่างๆ การที่งานมหกรรมบ้านและคอนโดฯได้นำโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภท ที่มีช่วงราคาขายแตกต่างกัน จากหลายๆ ทำเลทั่วประเทศ มาไว้ที่เดียวกับสถาบันการเงินที่พร้อมจะให้คำแนะนำและข้อเสนอด้านสินเชื่อ จึงเป็นโซลูชั่นที่ดีสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะ Gen Z ที่เป็นกลุ่มที่นิยมค้นหาข้อมูลหรือเรียนรู้จนเข้าใจก่อนจะตัดสินใจ” นายชัชชาติ กล่าว

ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก
ด้าน ดร.ทัพพ์เทพ ภัคกระนก ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 กล่าวว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้าน งานนี้ถือเป็นโอกาสดีที่สุดของโค้งสุดท้ายปี 2566 นี้ เพราะนอกจากมาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง หรือการผ่อนปรนมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV) ในกรณีกู้ร่วม ยังคงทำงานอยู่ ทางด้านผู้ประกอบการเองในปีนี้ก็มีโครงการใหม่ๆ มานำเสนอมากขึ้น บวกกับโครงการดีๆ ที่มีอยู่ในสต๊อก ทำให้มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจ รวมมากกว่า 1,000 โครงการ รับรองว่าคนอยากมีบ้านจะได้พบบ้านที่ใช่ ในราคาที่โดนใจที่สุด อีกทั้งผู้ประกอบการหลายราย โดยเฉพาะบิ๊กแบรนด์ อาทิ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน),บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) ,บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด(มหาชน),บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน),บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน),บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน),บริษัท สัมมากร จำกัด(มหาชน),ริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน),บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน),บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด(มหาชน) และบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย เพื่อหวังจะกระตุ้นการขายและเร่งการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ภายในงานมหกรรมนี้ ทั้งราคาสุดพิเศษที่ไม่มีที่ไหนและของแถมมากมาย

สำหรับตัวอย่างโปรโมชั่นพิเศษจากผู้ประกอบการแบรนด์ดังสำหรับลูกค้าที่จองที่อยู่อาศัยภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 เท่านั้น ประกอบด้วย โปรดีดนิ้ว “ดีดปุ๊บได้ปั๊บ” จากออริจิ้นฯ ดีลส่งท้ายของคนอยากมีคอนโดฯ ซื้อวันนี้ผ่อนปีหน้า ส่วนลดสูงสุดกว่าล้านบาท ห้องแต่งครบพร้อมอยู่ ทั้งยังได้ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นฟรี หรือดอกเบี้ยคงที่ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เช่น iPhone 15 ProMax วอยเชอร์มูลค่า 10,000 บาท หรือบริการออกแบบภายในจาก WYDE INTERIOR หรือ บริการแม่บ้านจากนู๋เมด

ส่วนอนันดาฯ ได้เตรียมโปร “ANANDA URBAN CARAVAN CLEARANCE SALE” เสิร์ฟสินค้าพร้อมอยู่บนทำเลดีที่สุด คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า บ้านและทาวน์โฮมแต่งครบพร้อมอยู่กว่า 20 โครงการ ในราคาดี เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ “อยู่ฟรี 2 ปี ฟรีค่าส่วนกลางนานสูงสุด 5 ปี ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และฟรี iPhone 15

ขณะที่เจ้าพระยามหานคร จัดโปร “CMC EXPO ลด แถม คุ้ม” ที่นำโครงการบ้านและคอนโดฯ บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้ามาจัดราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท และสิทธิ์รับของแถมเพิ่มอีกมูลค่ากว่า 4 หมื่นบาท อาทิ ทองคำแท่งหนักหนึ่งบาท บัตรของขวัญ Gift Voucher SB Design Square แพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน โทรศัพท์มือถือ iPhone 14 Pro และ Samsung S23+ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่น Hot Deal โอนสด ลดเพิ่ม กับยูนิตราคาพิเศษสุดคุ้ม

นอกจากโปรโมชั่นจากผู้ประกอบการแล้ว ธนาคารยูโอบียังได้มีของขวัญสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่ยื่นคำขอสินเชื่อบ้านภายในงานฯ นั่นก็คือ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 2 ปีแรก เริ่มต้นที่ 2.75% ต่อปี พร้อมโปรโมชั่นฟรีค่าประเมินหลักทรัพย์ ฟรีค่าอากรแสตมป์ และฟรีค่าประกันอัคคีภัย 3 ปี ไม่รวมของพรีเมี่ยมสุดเก๋ อย่างกระเป๋าเดินทางยูโอบี

ส่วนโปรโมชั่นของงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ที่ทาง 3 สมาคมผู้จัดงานได้เตรียมไว้สำหรับผู้จองซื้อที่อยู่อาศัยในงาน ก็มีทั้งสิทธิ์ในการลุ้นรับทองคำหนัก 10 บาท และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ยอดนิยม พานาโซนิค รวมมูลค่าเกือบ 600,000 บาท

“นอกจากความคุ้มแล้ว งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44 ยังมีความครบเครื่องเรื่องที่อยู่อาศัย ด้วยคอนเซปต์ ‘Property Solutions’ สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทุกดีมานด์ และทุกช่วงวัยของลูกค้าไม่ว่าจะเจนไหน โดยรวมโครงการมากมายที่น่าซื้ออยู่และน่าลงทุนจากทั่วประเทศ มีทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจากเชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี เป็นต้น ทั้งยังมีซัพพลายเออร์ในด้านวัสดุก่อสร้างมาคอยให้คำปรึกษาเรื่องก่อสร้าง ต่อเติม ตกแต่ง และที่สำคัญ ยังมีธนาคารชั้นนำ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารยูโอบี มาให้คำปรึกษาเรื่องสินเชื่อบ้าน ไม่รวมถึงกลุ่ม NPA ที่มีบ้านมือสองทำเลสวยจาก เจ แอสเซ็ท ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย เป็นต้น มาเป็นอีกทางเลือกให้กับลูกค้า”ดร.ทัพพ์เทพ กล่าวในที่สุด

โพสที่เกี่ยวข้อง