สถาปนิกสยามฯ ผนึก 4 องค์กรวิชาชีพ-ทีทีเอฟ ปักหมุดเตรียมจัดงาน “สถาปนิก’67” ดึงบริษัทไทย-ตปท.กว่า 1 พันราย โชว์เทคโนโลยีชั้นนำของโลก


สมาคมสถาปนิกสยามฯ ผนึก 4 องค์กรวิชาชีพ และทีทีเอฟ ประกาศเดินหน้าจัดงานสถาปนิก’67 ภายใต้ธีม “
Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์”บนพื้นที่รวมกว่า 75,000 ตร.ม. ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 67 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นำเสนออัตลักษณ์ของการสื่อสารด้วยภาษาที่ไร้ขอบเขตของสถาปนิก นักออกแบบ ร่วมขับเคลื่อนงานให้สมบูรณ์แบบ ทั้งจัดแสดงนิทรรศการ จัดกิจกรรมสถาปนิก เปิดเวทีเสวนาให้ความรู้โดยกูรูทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแสดงนวัตกรรมด้านการออกแบบ-ก่อสร้างครบวงจร คาดมีผู้แสดงสินค้าทั้งจากไทย-ต่างประเทศกว่า 1,000 ราย และผู้เข้าชมงานกว่า 325,000 คน มียอดจองพื้นที่ขายแล้วกว่า 15,838 ตารางเมตร คิดเป็น 52.79% จากพื้นที่ขายทั้งหมด
นายชนะ สัมพลัง
นายชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ร่วมมือกับ4 องค์กรวิชาชีพสถาปนิกร่วมจัดงาน “สถาปนิก’67” ภายใต้ธีม “Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์” บนพื้นที่รวมกว่า 75,000 ตารางเมตร กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมองว่าปัจจุบันงานดังกล่าว ถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยงานสถาปนิก’67 นับเป็นครั้งที่ 36 มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพและนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางด้านสถาปัตยกรรมในทุกสาขาวิชาชีพ รวมถึงการจัดแสดงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับงานสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน ภูมิสถาปัตยกรรม อีกทั้งนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การอบรมสัมมนาระดับนานาชาติ ตลอดจนบริการต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้กับสมาชิกและประชาชนที่สนใจได้เข้าร่วมชมงาน

ทั้งนี้ ในปี 2567 จะเป็นปีที่สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะครบรอบ 90 ปี การจัดงานสถาปนิก’67 จึงจะเป็นโอกาสอันดี นอกจากวัตถุประสงค์ของการเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกในแวดวงสถาปัตยกรรม และเป็นสื่อกลางในการจัดแสดงนิทรรศการวัสดุก่อสร้างและให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เทคโนโลยี นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับวงการสถาปัตยกรรมบนพื้นที่เดียวกันที่ งานนี้ยังเป็นพื้นที่รวบรวมเรื่องราวการสื่อสารทางสถาปัตยกรรมตลอดระยะเวลา 90 ปี นับแต่ก่อตั้งสมาคมฯ ให้ผู้คนได้ร่วมเฉลิมฉลองและตระหนักถึงบทบาทการส่งเสริมวิชาชีพสถาปัตยกรรม การพัฒนาองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม มีส่วนสำคัญต่อคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม รวมถึงยังสามารถสะท้อนศิลปวัฒนธรรม และมีส่วนผลักดันด้านเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วย

นางสาวกุลธิดา ทรงกิตติภักดี
นางสาวกุลธิดา ทรงกิตติภักดี ประธานจัดงานสถาปนิก’67 กล่าวถึงที่มาของ Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์” แนวคิดหลักในการจัดงานว่า มนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อติดต่อกัน โดยปัจจุบันพบว่ามีภาษามากกว่า 7,000 ภาษาทั่วโลกที่ถูกใช้ในการสื่อสาร ขณะที่ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชาตินั้นถือเป็นเครื่องมือสื่อสารทรงพลังอีกเครื่องมือหนึ่งในการสร้างความเข้าใจเรื่องราวระหว่างผู้คนต่างชาติต่างภาษา งานสถาปนิก’67 ในปีนี้ เป็นการนำเสนอถึงอัตลักษณ์ของการสื่อสารด้วยภาษาที่ไร้ขอบเขตของสถาปนิกและนักออกแบบ เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบที่สัมผัสได้โดยผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก โดยสถาปนิกสามารถสร้างความรู้สึกทางรูปธรรมอันหลากหลายผ่านการใช้วัสดุและกระตุ้นความรู้สึกของผู้คนผ่านองค์ประกอบต่างๆ แบบนามธรรมในการรับรู้ถึงสถาปัตยกรรม ซึ่งการรับรู้ด้วยภาษาทางการออกแบบที่มีอยู่ร่วมกัน ก็เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสและเข้าถึงผลงานสถาปัตยกรรมดีเด่นจากทั่วโลกที่เชื่อมโยงถึงกันด้วยภาษาสถาปัตยกรรมนั่นเอง
นายชุตยาเวศ สินธุพันธุ์
นายชุตยาเวศ สินธุพันธุ์ ประธานจัดงานสถาปนิก’67 กล่าวว่า ความพิเศษของงานในปีนี้ ต่อยอดจากความร่วมมือระหว่าง 5 องค์กรวิชาชีพสถาปนิก ได้แก่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์, สมาคมมัณฑนากร แห่งประเทศไทย, สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย, สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย และสภาสถาปนิก อีกทั้งยังมีการร่วมมือในระดับนานาชาติผ่านองค์กรวิชาชีพระหว่างประเทศ The Architects Regional Council Asia (ARCASIA)  ที่มีประเทศสมาชิก 22 ประเทศทั่วเอเชียอีกด้วย นับเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญในการร่วมจัดแสดงผลงานทางวิชาชีพสถาปัตยกรรม รวมถึงกิจกรรมสำคัญซึ่งจะเกิดขึ้นในงานครั้งนี้
ดร.พร้อม อุดมเดช
ดร.พร้อม อุดมเดช ประธานจัดงานสถาปนิก’67 กล่าวในส่วนของนิทรรศการและกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย 1.) นิทรรศการหลัก 2.) นิทรรศการวิชาการ 3.) นิทรรศการ สมาคม วิชาชีพ วิชาการ 4.) ส่วนพื้นที่กิจกรรมและบริการ 5.) งานสัมมนาวิชาการ โดยในส่วนของนิทรรศการหลัก ประกอบด้วย นิทรรศการธีมงาน Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์ ที่จัดแสดงผลงานสถาปัตยกรรมจาก 12 สถาปนิกในเอเชีย ร่วมกับการจัดแสดงผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมพันธมิตรใน ARCASIA, นิทรรศการ All Member จัดแสดงผลงานของสมาชิกสมาคมสถาปนิกสยามฯ, สมาคมมัณฑนากรฯ, สมาคมภูมิสถาปนิกฯ และ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย ภายใต้ธีม All Member : The Collective Practices, กิจกรรม Collective Experience, นิทรรศการ สมาคมมัณฑนากรแห่งประเทศไทย : TIDA, นิทรรศการ สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย : TALA และนิทรรศการ สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย : TUDA
ผศ.ดร.รัฐพงษ์ อังกสิทธิ์
ผศ.ดร.รัฐพงษ์ อังกสิทธิ์ ประธานจัดงานสถาปนิก’67 กล่าวเสริมถึงนิทรรศการอื่นๆ ในงาน ทั้ง นิทรรศการประกวดแบบเชิงแนวความคิด (ASA Experimental Design Competition), นิทรรศการสมาคมวิชาชีพ วิชาการ อาทิ นิทรรศการสถาปัตยกรรมดีเด่น, นิทรรศการรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรม ประจำปี 2567, นิทรรศการ VERNADOC, นิทรรศการผลงานนักศึกษา / สถาบันการศึกษา ส่วนงานพื้นที่กิจกรรมและบริการในงานที่ประกอบด้วย ASA Club พื้นที่พบปะ จุดพักผ่อนประจำของชาวอาษา, ASA Night 2024 กิจกรรมสังสรรค์พบปะตามประเพณีของเหล่าสมาชิกอาษา และมีส่วนบริการที่ร่วมมือกับสภาสถาปนิก (ACT) จัดพื้นที่สถาปนิกอาสา บริการให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆ ในงานสถาปัตยกรรม และ ACT Shop พื้นที่จำหน่ายหนังสือและของที่ระลึก และส่วนงานสัมมนาวิชาการ ASA Forum 2024 และ ASA Seminar 2024 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในงานออกแบบและข้อมูลทางเทคนิคในการประกอบวิชาชีพ โดยนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมจากต่างประเทศ ซึ่งมีประเด็นหัวข้อในการเสวนาที่น่าสนใจ ภายใต้ธีมงาน Collective Language : สัมผัส สถาปัตย์ ซึ่งจะจัดในรูปแบบ Hybrid Forum ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟังการสัมมนา แบบ on site และแบบ online ได้ในทุกพื้นที่ของประเทศ
นายศุภแมน มรรคา
ด้านนายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ในฐานะออแกไนเซอร์จัดงานสถาปนิก’67  บริษัทตั้งเป้าจะขยายการจัดงานให้ยิ่งใหญ่กว่างานที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้แสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย เพิ่มขึ้น 9.4% จากงานสถาปนิก’66 ที่มีจำนวนผู้แสดงสินค้า 914 ราย โดยคาดว่าจะเป็นผู้แสดงสินค้าจากต่างประเทศ ประมาณ 30% ในด้านผู้เข้าชมงานคาดว่าจะมีจำนวนกว่า 325,000 คน จากครั้งที่ผ่านมามียอดผู้เข้าร่วมชมงาน จำนวน 305,870 คน เพิ่มขึ้น 6.25% โดยในขณะนี้มียอดจองพื้นที่ขายไปแล้วกว่า 15,838 ตารางเมตร คิดเป็น 52.79% จากพื้นที่ขายทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน 33.8 %

 

โดยในการจัดงานสถาปนิก’66 ที่ผ่านมา พบว่า 5 อันดับสินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในปีนี้ คือ

1.เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง อยู่ที่สัดส่วน 40.69% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (2565) 38%

2.ผลิตภัณฑ์ปูพื้น สัดส่วน 25.06% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22%

3.Lighting,HVAC,IoT,Securities,Elevator สัดส่วน 22.65% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 47%

4.ผลิตภํณฑ์ในห้องน้ำและห้องครัว สัดส่วน 21.68% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 47%

5.ผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่าง สัดส่วน 20.77% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 45%

 

สำหรับผู้แสดงสินค้าชั้นนำที่ยืนยันเข้าร่วมงานแล้ว อาทิ SCG, MAKITA, JORAKAY, TOSTEM, VG, TOA, PANTAMITR, CONNEXT, DOS, CRISTINA, TAK เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้แสดงสินค้าที่มีการขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากงานที่ผ่านมา อาทิ BLACK+DECKER, WILSONART, Q LIGHTING, ARITCO, LAMPTITUDE, PANEL PLUS, GLASTEN, FORMICA เป็นต้น และมีผู้แสดงสินค้ารายใหม่ที่เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นหลายราย อาทิ BOONTHAVORN, ROCOCO, NOVATI & CO, ROBERT BOSCH, BATHIC, DELTA, BLUE INTERNATIONAL, YUASA TRADING, LIGMAN, TRUE CONNECTION

 

นอกจากนี้ ไฮไลท์ภายในงานนอกจากพื้นที่ของสมาคมฯ แล้ว ยังมีพื้นที่ Thematic Pavilion ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงศักยภาพร่วมกันของแบรนด์ซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้างและสถาปนิก ซึ่งเป็นการผสานความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมเข้ากับการตีความนวัตกรรมเหล่านั้นตามสไตล์ต่าง ๆ ออกมาเป็นแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ การจัดประกวด Best Innovation Award 2024 สำหรับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่จะมาเปิดตัวครั้งแรกภายในงาน เพื่อตอกย้ำว่างานสถาปนิกเป็นเวทีรวบรวมนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจากแบรนด์ทั่วทุกมุมโลกที่จะให้ทุกท่านได้มาสัมผัสก่อนใคร และสุดท้ายทางผู้จัดงานยังได้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ดีในการเดินทางมาชมงาน จึงได้มีการทำแคมเปญพิเศษร่วมกับพันธมิตร อาทิ Grab และ การบินไทย เพื่อมอบโปรโมชั่นส่วนลดสำหรับผู้ที่เดินทางมางานสถาปนิก’67 อีกด้วย

 

“การจัดงาน สถาปนิก’67 ได้แสดงให้เห็นว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมงานและเช่าพื้นที่มากขึ้น และยังทำให้เห็นว่าโลกนั้นแคบลง เพราะทุกบริษัททั่วโลกสามารถนำสินค้ามารวมไว้ในสถานที่เดียวกัน ซึ่งชาวต่างชาติจะมองเห็นประเทศไทยเป็นเวทีในภูมิภาคอาเซียนที่สามารถนำสินค้าไปทำการประชาสัมพันธ์และทำการตลาดได้เป็นอย่างาดี”นายศุภแมน กล่าวในที่สุด

โพสที่เกี่ยวข้อง