สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล แบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลก และเป็นบริษัทแม่ของเครือโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด ซึ่งก่อตั้งมากว่า 25 ปี จับมือ 2 ดีเวลอปเปอร์ “แสนสิริ และ ซีจี แคปปิตอล” เปิดตัวโครงการ “THE STANDARD RESIDENCES” โครงการที่พักอาศัยแบบ branded residences บน 2 ทำเลเมืองท่องเที่ยว เดอะสแตนดาร์ดเรสซิเดนซ์หัวหิน และเดอะสแตนดาร์ดเรสซิเดนซ์ภูเก็ตบางเทา มูลค่ารวมกว่า 8,500 ล้านบาท
นายอมาร์ ลัลวานี ประธานกรรมการบริหาร บริษัทสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า เดอะ สแตนดาร์ดได้เปิดตัวโรงแรมแห่งแรกในเมืองฮอลลีวูด หลังจากนั้นได้เปิดให้บริการโรงแรมในทำเลต่างๆทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก, ไมอามี่, ลอนดอน, อิบิซา, มัลดีฟส์, หัวหิน และกรุงเทพ ที่ได้เปิดตัวโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้เข้าพัก ด้วยบุคลิกที่สนุกสนาน ขี้เล่น รวมถึงการให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดทั้งการออกแบบและการบริการ
“เดอะ สแตนดาร์ดเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งในด้านห้องพัก การท่องเที่ยว อาหาร และความสนุกยามค่ำคืนรวมถึงกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นโชว์ การจัดวางชิ้นงานศิลปะ อาหารมื้อพิเศษ ไลฟ์มิวสิกหรือดีเจชั้นนำระดับโลก เอ-ลิสต์ปาร์ตี้ ฉายภาพยนตร์รอบพิเศษ ไปจนถึงการเปิดตัวแบรนด์สินค้า”
ปัจจุบันสแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล มีโรงแรมอยู่ในเครือ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ The Standard เน้นดีไซน์แปลกใหม่ห้องอาหารที่หลากหลาย และการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าพัก แบรนด์ Bunkhouse เจาะกลุ่มตลาดท่องเที่ยวแบบบีสโปคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแบรนด์ The Peri Hotel โรงแรมบูทีคไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ยังมีโครงการ The Standard Residences ที่เน้นเจาะตลาด branded residences ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีอัตราการเติบโตถึง 216% โดยไม่จำกัดเฉพาะทำเลในเมืองท่องเที่ยวหลักเท่านั้น แต่ยังได้ขยายตัวไปยังเมืองที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีเอกลักษณ์ เช่น บาหลี สิงคโปร์หรือ กรุงเทพ เป็นต้น
ปัจจุบันได้เปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ The Standard Residences, Midtown Miami เป็นคอนโดมิเนียมสูง 12 ชั้น จำนวน 228 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นตารางเมตรละ 450,000 บาท มียอดขายแล้วกว่า 85% กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2568 และโครงการ The Standard Residences, Lisbon จำนวน 3 อาคารทั้งหมด 32 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นตารางเมตรละ 350,000 บาท มียอดขายแล้วกว่า 91% กำหนดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 โดยทั้ง 2 โครงการมีราคาขายสูงกว่าโครงการอื่น ๆ ในตลาดเดียวกันกว่า 20% เพราะมีจุดเด่นอยู่ที่สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งล็อบบี้เลาจน์ที่มีทั้งคาเฟ่, เดอะสแตนดาร์ดโซเชียลคลับ, คอร์ทพิคเคิลบอล, ห้องคาราโอเกะ, โยคะสตูดิโอ, ฟิตเนส, โคเวิร์คกิ้งสเปซ, ห้องเก็บจักรยานและห้องสมุด
ล่าสุดได้ร่วมมือกับพันธมิตร 2 รายเปิดตัว branded residences ภายใต้แบรนด์ The Standard ประกอบด้วย บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ The Standard Residences, Hua Hin และกลุ่มซีจี แคปปิตอล ผู้บริหารกองทุน Private Equity ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา เปิดตัวโครงการ The Standard Residences Phuket Bang Tao
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมทุกระดับเซ็กเมนท์รวมกว่า 500 โครงการ โดยเฉพาะในเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการเปิดตัวโครงการไปมากถึง 25 โครงการมูลค่ากว่า 31,000 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายไปแล้ว 22 โครงการ มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 3 โครงการมูลค่า 6,300 ล้านบาท โดยเปิดตัวโครงการแรกเมื่อ 35 ปีที่แล้วชื่อโครงการบ้านไข่มุก ราคาขายยูนิตละ 7 ล้านบาท ปัจจุบันราคารีเซลอยู่ที่ 80 ล้านบาท Capital Gain เพิ่มขึ่นถึง 1,000% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพแบรนด์ มาตรฐานการออกแบบ ดีไซน์ที่โดดเด่นพร้อมฟังก์ชั่น ตลอดจนบริการดูแลหลังการขายที่สร้าง Value-added ให้กับลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า
“หัวหินเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจสูง เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัย ในรูปแบบ Resort homeหรือบ้านหลังที่ 2 เพิ่มมากขึ้น ทั้งซื้อเพื่ออยู่เองหรือเพื่อการลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติโดยมีปัจจัยบวกด้านโครงสร้างพื้นฐานจากโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่กำลังพัฒนา รวมถึงการผลักดันให้หัวหินเป็น World Class City of Relaxation ศูนย์กลางของด้าน Wellness และ Medical Tourism Hub นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคหลักทั้งการขยายสนามบินเพื่อรองรับไพรเวทเจ็ทของนักท่องเที่ยวกลุ่มลักซ์ชัวรีและการตั้งเป้าให้หัวหินเป็นสมาร์ทซิตี้ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย”
สำหรับโครงการ The Standard Residences, Hua Hin ถือเป็นโปรเจ็กต์ไฮไลท์ของแสนสิริในปีนี้ เพราะเป็น Beachfront branded residences ภายใต้แบรนด์ The Standard แห่งแรกในเอเชีย และมีกำหนดเปิดตัวเป็นแห่งที่ 3 ของโลก โดยโครงการตั้งอยู่ติดหาดหัวหิน จึงสามารถออกแบบห้องพักแบบ Beachfront Pool Villa จำนวน 2 ยูนิตเท่านั้น พร้อม programming experience ระดับเวิลด์คลาสกับ experience facilities ที่มีให้เฉพาะลูกบ้านของเรสซิเดนซ์เท่านั้นอาทิ pickle ball court, the mud lounge, salt sauna และ experience shower นอกจากนี้ยังสามารถบริการร่วมกันกับโรงแรม The Standard, Hua-Hin ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้ด้วย
โดยโครงการ The Standard Residences, Hua-Hin มีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 9 ไร่ จำนวน 245 ยูนิต ราคาขายตั้งแต่ 8.99-100 ล้านบาทมีห้องพักให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40-65 ตารางเมตร, 2 ห้องนอนขนาด77-120 ตารางเมตร, 3 ห้องนอน ขนาด107-153 ตารางเมตร และBeachfront Pool Villa ขนาด 220 ตารางเมตร โดยโครงการเตรียมเปิดให้ชม sales gallery ครั้งแรกวันที่ 23-24 มีนาคมนี้และมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2569
ด้านนายภูมิ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทซีจี แคปปิตอลจำกัด กล่าวว่า ซีจี แคปปิตอล เป็นผู้บริหารกองทุน Private Equity ในเครือเซ็นทรัลพัฒนา ได้จัดตั้งกองทุนแรกมูลค่า 10,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวของไทยที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะลงทุนทั้งในส่วนโรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุกสวนน้ำ และโครงการมิกซ์ยูสในเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต สมุย และพัทยา คาดว่าจะลงทุนปีละ 3-5 โครงการ
สำหรับโครงการ The Standard Residences, Phuket Bang Tao มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ในย่านบางเทา ใกล้กับ Phuket Lifestyle Hub และหาดบางเทา บนพื้นที่ขนาด 19 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 โครงการ ประกอบด้วย The Standard Residences, Phuket Bang Tao เนื้อที่ 12 ไร่ และโรงแรมเดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา รวมถึง F&B Concept ใหม่ล่าสุดจากThe Standard ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันอีก 7 ไร่
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการ branded residences ประกอบด้วยอาคารสูง 7 ชั้นจำนวน 6 อาคาร ห้องชุดทั้งหมด 188 ยูนิตตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีห้องชุดให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอนขนาด 75 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ขนาด 100-120 ตารางเมตร, 3 ห้องนอนขนาด167-172 ตารางเมตร และห้องดูเพล็กซ์ขนาด 301–313 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท จะเปิด sales gallery ในเดือนเมษายนนี้ และพร้อมเข้าอยู่ช่วงไตรมาส 4 ปี 2569
นอกจากนี้ภายในโครงการยังสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย อาทิ โคเวิร์คกิ้งสเปซ, โซนเกมส์, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำความยาว25 เมตร, สระว่ายน้ำเด็ก และสปา พร้อมบริการอื่น ๆ ตามมาตรฐานโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด รวมถึงมีพนักงานดูแลอำนวยความสะดวกตลอด24 ชั่วโมง และบริการรถรับ-ส่งไปยังชายหาดบางเทา
