เมื่อพูดถึงทำเลที่อยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยมโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ หนึ่งในลิสรายชื่อที่นึกถึงคงหนีไม่พ้น “บางนา” ที่นับเป็นทำเลทองของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต ด้วยความพร้อมที่มีครบในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคม ขนส่ง รวมทั้งศักยภาพของทำเลที่เติบโตขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา บางนา มีราคาที่ดินเติบโตขึ้นราว 5-10% ต่อปี และรายล้อมไปด้วย Mega Project ขนาดใหญ่ที่จะส่งผลให้บางนากลายเป็น Hub แห่งใหม่ของการใช้ชีวิตอย่าง ศูนย์ประชุมไบเทคบุรี (เดิมคือ ไบเทค บางนา) ที่ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ บนพื้นที่กว่า 169 ไร่ มุ่งสร้างพื้นที่ให้กลายเป็นคอมมูนิตี้สเปซก้าวสู่ธุรกิจ MICE แบบครบวงจร ห้างสรรพสินค้า Central Bangna , Mega Bangna , Central Village , Siam Premium Outlet ที่ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการรวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นบางนายังคงถูกเติมเต็มที่รอการเปิดตัวในอีกไม่ช้าอย่าง Trust City บนพื้นที่ 500 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 100,000 ล้านบาท ที่ถือเป็นโครงการมิกส์ยูซที่ใหญ่ที่สุดและลงทุนมากที่สุดในย่านนี้ โครงการ Bangkok Mall ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 100 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท โครงการ The Forestias บนพื้นที่กว่า 398 ไร่ มีมูลค่าโครงการมากกว่า 125,000 ล้านบาท ที่จะยกระดับให้บางนาเป็นย่านที่สมบูรณ์แบบของการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

รวมทั้งโครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายบางนา-สุวรรณภูมิ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีระยะทาง 18.3 กิโลเมตร ที่ถูกเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว(เส้นสุขุมวิท) สถานีบางนา โดยจะวิ่งไปทางบางนา-ตราด นอกจากนี้แล้ว ในย่านบางนา ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยทางด่วน 2 สายสำคัญอย่าง ทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ หรือกรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) และ ทางพิเศษบูรพาวิถี อีกด้วย

บางนา จึงกลางเป็นศูนย์กลางของกรุงเทพโซนตะวันออกอย่างสมบูรณ์ ที่มีศักยภาพโดดเด่นไม่แพ้ทำเลอื่นเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเชื่อมต่อสนามบิน และเส้นทางการขนส่ง Logistic ที่สำคัญแห่งหนึ่งประเทศ ทำเลที่ยังคงเป็น Prime Location จะอยู่ในช่วงบางนา-ตราด ปัจจุบันทำเลบางนามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก ภาพของบางนาเริ่มชัดเจนมากขึ้นฉายแววความเป็น New CBD ใหม่แห่งอนาคต ซึ่งจะเป็นกระดูกสันหลังของกรุงเทพฯ และเป็นพื้นที่ของการอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว

นอกจากการมาของรถไฟฟ้าจะทำให้ทำเลหรือย่านเติบโตขึ้นแล้ว “การเกิดห้างสรรพสินค้า” ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้กลายเป็น ย่านแห่ง Community ของที่อยู่อาศัย โดยพื้นที่ บางนา มีทำเลที่โดดเด่นคือ พื้นที่บริเวณโดยรอบ Mega Bangna มีบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯหลายรายต่างเข้าซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลที่ใกล้กับ Mega Bangna เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกยิ่งขึ้น

อารียา พรอพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้บุกเบิกรายแรกๆที่เข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ด้านหลัง Mega Bangna ที่เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรใหญ่ โดยมีพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 500 ไร่ ปัจจุบันมีโครงการที่พัฒนาแล้วทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 35 โครงการ โดยมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อแบรนด์ Noww Mega Bangna และบ้านแนวราบที่ราคาเริ่มตั้งแต่ 3.19 ล้านบาทขึ้นไป ครอบคลุมแทบทุก segment

โดยวันนี้ prop2morrow จะพาไปชมโครงการ COMO Botanica II บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ในระดับราคาเริ่ม 6.59 ล้านบาท พิเศษยิ่งขึ้น ที่ล่าสุดทางอารียา พรอพเพอร์ตี้ ผนึกกำลังร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ มอบสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ 0.99% นานสูงสุด 3 ปี* สำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ซื้อโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในเครืออารียาฯ ในระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป* สำหรับลูกค้า โซนบางนา รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 500,000 บาท* พร้อม ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ เฉพาะโครงการที่กำหนด* สำหรับลูกค้าที่จอง และโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2567 นี้

สนใจนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่
Facebook: Areeya Home https://bit.ly/453bol1
Website: www.areeya.co.th https://bit.ly/3KhJTdT
Line: @Areeyahome https://bit.ly/3WZ0cDK
โทร. 1797

โครงการ COMO Botanica II ได้แรงบันดาลใจมากจากสวนป่า เพื่อต้องการสร้างบ้านให้เป็นพื้นที่หลบหนีจากความวุ่นวาย สู่พื้นที่การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยแนวคิด “CRAFT YOUR OWN NATURE ออกแบบชีวิต ให้ชิดธรรมชาติ” จะเห็นว่าโครงการเลือกใช้พรรณไม้ป่าฝนเขตร้อนชื้น อย่างเช่น ต้นบอนกระดาษ ต้นจิกน้ำ ต้นเฟิร์น ที่ออกแบบและจัดวางแบบอิสระเพื่อให้รู้สึกเสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง

ตัวบ้านออกแบบสไตล์ Urban Botanical ซึ่งเป็นการนำเอารูปแบบสถาปัตยกรรมเขตร้อนมาผสมผสานกับความ Urban ทันสมัยอยู่ติดเมือง โดยเลือกใช้โทนสีไม้เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเป็น Botanical ที่สร้างความโดดเด่นด้วย เส้นสายของ Façade บ้าน ทำให้เกิดมิติของแสงเงาจากช่วงเวลาระหว่างวัน การตกกระทบของแสงอาทิตย์ที่สร้างความแตกต่างออกไป Shade and Shadow ยังสร้างความสวยงามและทำให้บ้านรู้สึกอบอุ่นขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดทอนแสงบางช่วงเวลาระหว่างวันลงให้แสงส่องถึงเฉพาะเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความร้อนให้กับบ้าน ตัวบ้านมีความโดดเด่นที่แฝงไปด้วยความหรูหราและดูร่วมสมัย ไม่เน้นความฉูดฉาดของสีสัน สะท้อนถึงความเป็นธรรมชาติร่มรื่นอย่างลงตัว

Project Info

ชื่อโครงการ : โครงการ โคโม่ โบทานิก้า 2

บริษัท : บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

ที่ตั้งโครงการ : ถนนมหาชัย บางนาตราด กม.10 จังหวัดสมุทรปราการ

พื้นที่โครงการ : 19-1-43 ไร่

จำนวนแปลงขาย : 104 ยูนิต

รูปแบบโครงการ : บ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50.1 ตารางวา / บ้านแฝด ขนาดที่ดินเริ่มต้น 41.8 ตารางวา

พื้นที่ใช้สอย : 171 ตร.ม.

ค่าส่วนกลาง : 45 บาท / ตร.ว. / เดือน

ราคาเริ่มต้น : 6.59 ล้านบาท*

โครงการ COMO Botanica II มี Type บ้านเพียงแบบเดียว คือ พื้นที่ใช้สอย 171 ตารางเมตร แต่มีบ้านให้เลือก 2 แบบ แตกต่างกันที่ขนาดของที่ดินโดย บ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50.1 ตารางวา และบ้านแฝด ขนาดที่ดินเริ่มต้น 41.8 ตารางวา ซึ่งโครงการออกแบบบ้านแฝดให้ความรู้สึกหมือนได้อยู่บ้านเดี่ยวอย่างแท้จริงที่ให้ความเป็นส่วนตัวและไพรเวทสูง โดยทั้งโครงการมีทั้งหมด 104 หลัง

ด้วยความที่ขนาดโครงการไม่ใหญ่มากจุดที่ได้เปรียบคือความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านที่จะไม่ทำให้รู้สึกวุ่นวายมากเกินไป โดยโครงการยังมี Clubhouse เพื่อรองรับสำหรับการพักผ่อนของลูกบ้านที่สามารถมาทำกิจกรรมได้

ซุ้มด้านหน้าโครงการออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมและผสมผสานกับความหลากหลายของพืชพรรณทำให้เสมือนเป็นการต้อนรับการกลับบ้านสู่พื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยได้ติดตั้งไม้กระดกพร้อมระบบควบคุมผ่านบัตรและระบบอ่านบัตรระยะไกลที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกและรู้สึกปลอดภัย แยกทางเข้าระหว่างลูกบ้านและคนภายนอก

ตัวบ้านออกแบบและก่อสร้างด้วย Precast ซึ่งมีข้อดีในเรื่องของความมั่นคงแข็งแรง เพราะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทุกชิ้น สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือน ป้องกันไฟและทนความร้อนได้มากกว่า 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังช่วยให้ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเพราะการก่อสร้างจะไม่มีเสาและคาน อีกทั้งยังเรียบเนียน สวยงาม สามารถเลือกทาสีหรือติดวอลเปเปอร์ได้ทันที และยังช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกหรือห้องข้างเคียงได้ถึง 33% เพราะวัสดุมีคุณสมบัติทึบเสียง ลงเสาเข็ม I22 จำนวน 12 ต้นรอบตัวบ้าน

สำหรับหลังคาติดตั้งกระเบื้องตราช้าง ซีแพคโมเนีย (Cpac Monier) ด้วยกรรมวิธีพ่นสีแบบ Wet on Wet พ่นสีในขณะที่ตัวกระเบื้องยังเปียกอยู่ ทำให้เนื้อสีติดประสานเป็นเนื้อเดียวกับกระเบื้อง สีจึงติดทนนาน ที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ไม่รั่ว โดยออกแบบให้มีบัวดักน้ำ 3 ชั้น 2 ร่องลึก ยาวตลอดแนวชายกระเบื้อง เพื่อป้องกันน้ำฝนสาดย้อนด้านหัวกระเบื้อง และมีลิ้นรางด้านข้างกระเบื้องที่ป้องกันการรั่วระหว่างแผ่น ซึ่งผ่านการทดสอบในอุโมงค์ลมและการใช้งานจริงมากกว่า 40 ปี พร้อมทั้งติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนที่ช่วยให้บ้านมีอุณภูมิลดลงลดความร้อนได้ระดับหนึ่ง โครงสร้างหลังคาทำจากเหล็กกล้าแรงดึงสูง ทนทานต่อการเกิดสนิม และมีอายุการใช้งานยาวนานทนทานแข็งแรง

พื้นที่ลานจอดรถบริเวณหน้าบ้านรองรับการจอดรถได้ 2 คัน โดยโครงการได้ลงโครงสร้างเสาเข็ม 6 เหลี่ยม ตอกปูพรมทุกระยะ 1.20 เมตร ทำให้พื้นที่มีความมั่นคง คลายความกังวลในเรื่องของพื้นที่จอดรถทรุดตัวจากการใช้งานระยะยาว พร้อมทั้งหลังคาคลุมรถ โครงสร้างเหล็ก ทาสีน้ำมัน และแผ่นเมทัลชีท ที่ไม่ต้องต่อเติมเอง ซึ่งส่วนนี้ช่วยประหยัดเงินได้เพิ่มขึ้น และมีรูปแบบที่สวยงามเข้ากับตัวบ้านมั่นคงแข็งแรง

พื้นที่ชั้น 1 โครงการปูพื้นให้เป็นกระเบื้องพอร์ชเลนทั้งหมดเป็นวัสดุที่มีราคาสูง มีความแข็งแรง สามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ตัวบ้านออกแบบฟังก์ชันที่ค่อยข้าง Flexible ยืดหยุ่นสูงสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายตามพฤติกรรมการอยู่อาศัยส่วนบุคคลที่สามารถดัดแปลงพื้นที่ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้สูงสุด

โซนแรกทางโครงการออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการกั้นพาทิชั่น ทำให้พื้นที่ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น สามารถทำเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางรองเท้า และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการหยิบใช้สอยเมื่อจำเป็นสำหรับการออกนอกบ้าน โดยการออกแบบพื้นที่ในลักษณะแบบนี้จะเป็นจุดพักที่ช่วยกรองฝุ่นต่างๆก่อนเข้าสู่พื้นที่ภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถจะถอด-ใส่ หรือเปลี่ยนรองเท้าได้สะดวก

แต่หากใครที่มองว่าทำให้บ้านดูเล็กลง อาจจะไม่จำเป็นต้องทำแบบบ้านตัวอย่าง ซึ่งพื้นที่ของบ้านปกติที่ทางโครงการส่งมอบนั้นจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง เชื่อมต่อพื้นที่เข้าถึงกัน ซึ่งจะทำให้ดูมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นและบ้านดูกว้างขวางขึ้น เพียงแค่เลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาจัดวางก็สามารถใช้งานได้แล้ว เรียกได้ว่าจริงๆแล้วแทบจะลากกระเป๋าเข้ามากพร้อมอยู่ได้เลย

พื้นที่ Living Area ในบริเวณนี้เป็นแบบ Open Plan ที่มีความยาวตั้งแต่หน้าบ้านจรดหลังบ้าน ออกแบบมารองรับการไหลผ่านของลมได้สะดวกทำให้บ้านมีความ Flow ของลมมากขึ้น โดยโครงการปูกระเบื้องโทนสีขาวมาให้ ช่วยทำให้บ้านดูสะอาดตา รวมทั้งการจัดหาเฟอร์นิเจอร์สำหรับการตกแต่งง่ายขึ้น ด้วยความที่เป็นสีพื้นฐาน ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้สามารถจัดสัดส่วนการใช้งานระหว่าง Living Area กับพื้นที่รับประทานอาหาร โดยสามารถเลือกวางชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบเต็มพื้นที่ได้ จัดวางทีวีให้มีระยะห่างได้สบายๆ เป็นพื้นที่เปิดโล่งที่มีพื้นที่รองรับกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถเลือกจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ได้ถึง 6 -8 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับโซนครัวด้านข้าง

ผนังด้านข้างของตัวบ้านทางโครงการออกแบบให้เป็นลักษณะ Glass House และติดตั้งกระจกขนาดใหญ่ที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน ลักษณะแบบบานสไลด์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อกันได้รองรับสำหรับการทำกิจกรรมหรือช่วงเวลาปาร์ตี้สังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน ของคนในครอบครัว เปิดเชื่อมต่อพื้นที่เข้าด้วยกันเมื่อจำเป็นต้องใช้งานทำให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น

ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเพราะน้อยมากที่จะมีโครงการไหนติดตั้งพื้นที่ในลักษณะแบบนี้มาให้โดยส่วนใหญ่แล้วจะต้องต่อเติมเองซึ่งจะทำให้เจ้าของบ้านเสียเงินเพิ่มเติม

แต่สำหรับที่ โครงการ COMO Botanica II ทำมาให้เสร็จเรียบร้อยรวมทั้งลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้านทำให้มีความมั่นคงสูงสามารถกั้นเป็นห้องได้เลย หรือสำหรับคนรักสัตว์ สามารถดัดแปลงพื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องของเหล่าบรรดาเจ้านายได้อย่างสบายๆ และยังมีพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนระหว่างสัตว์เลี้ยงกับคนในครอบครัวได้อย่างชัดเจน พื้นที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่อึดอัด

ถัดจากโซนรับประทานอาหารมา จะเป็นพื้นที่ของครัว โดยทางโครงการเลือกมุมไว้ให้บริเวณด้านในสุดของตัวบ้าน ช่วยลดความวุ่นวายจากการมองเห็นอุปกรณ์ต่างๆภายในครัวลง ทำให้รู้สึกบ้านเป็นระเบียบ เรียบร้อยมากขึ้น ซึ่งหากครอบครัวทำอาหารเป็นประจำ และทำอาหารหนัก แนะนำให้ติดตั้งกระจกบานสไลด์เพิ่มเติมเพื่อป้องกันกลิ่นของอาหารเข้ามารบกวนพื้นที่พักอาศัย โดยสามารถ Built-in ตู้เก็บของ ชั้นเก็บของ เคาน์เตอร์ครัว ได้ตามความชอบ ตามการใช้งานที่เหมาะสม

หรือจะออกแบบครัวเป็นเคาน์เตอร์ทรงตัว L Shape ติดผนังเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือครอบครัวไหนที่ไม่เน้นการประกอบอาหารเองบ่อย อาจทำเป็นครัวที่มีขนาดเล็กลง เน้นพื้นที่จัดวางอุปกรณ์สำหรับการอุ่น แช่ เพิ่มขึ้น แล้วเลือกที่จะขยับมุมรับประทานอาหารเข้ามาอยู่ในพื้นที่โซนบริเวณนี้แทนก็ได้ ก็จะทำให้พื้นที่บริเวณกลางบ้านกวางขวางรองรับการใช้งานได้แบบเต็มที่ และยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับบริเวณหลังบ้าน ทางโครงการจัดเตรียมให้สำหรับเป็นพื้นที่ซักล้างต่างๆ รวมทั้งแท็งก์น้ำและปั๊มน้ำ ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อย หรือหากใครจะดัดแปลงต่อเติมเป็นพื้นที่ครัวเพิ่มเติมก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยแยกครัวไทยออกไปบริเวณนอกตัวบ้านซึ่งจะช่วยลดกลิ่นจากการประกอบอาหารได้เป็นอย่างดี พื้นที่มีขนาดกว้างมากพอสำหรับรองรับและออกแบบเป็นพื้นที่ครัวเพิ่มเติม

ห้องเอนกประสงค์ จะอยู่บริเวณด้านล่างใกล้กับประตูทางเข้าบ้านบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งสามารถดัดแปลงและออกแบบได้ตามการใช้งาน หรือหากใครที่มีผู้สูงอายุภายในครอบครัว ห้องนี้สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ เพื่อความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย หรือหากจะทำเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกัน โดยอาจทำผนังกั้น หรือเลือกใช้ม่านทึบเพื่อกั้นแยกสัดส่วนของพื้นที่

ภายในตัวบ้านจะมีห้องน้ำทั้งหมด 3 จุด คือ บริเวณพื้นที่ชั้น 1 บริเวณพื้นที่ชั้น 2 และ เฉพาะห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำภายในตัว โดยทางโครงการเลือกใช้แบรนด์ของ American Standard

พื้นที่ชั้น 2 เป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องนอน โดยโครงการติดตั้งพื้นมาให้เป็นพื้นไม้ลามิเนตสำเร็จรูป ซึ่งมีข้อดีคือผิวหน้าเลียนแบบลายไม้ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ไม่ลื่น ทนความร้อนได้ระดับหนึ่ง สามารถทำความสะอาดได้ง่าย

ห้อง Master Bedroom มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถทำพื้นที่ Walk-in Closet ภายในห้องได้ โดยทางโครงการได้จัดเตรียมพื้นที่รองรับไว้ให้เป็นสัดส่วน

พื้นที่ห้อง Master Bedroom จะได้พื้นที่หน้ากว้างของบ้านไปทั้งหมด ติดตั้งหน้าต่างเพื่อให้แสงแดดส่องถึงซึ่งจะช่วยลดกลิ่นอับชื้นจากการใช้งานห้องเป็นประจำได้เป็นอย่างดี รวมทั้งแยกพื้นที่สัดส่วนค่อนข้างชัดเจน โดยห้อง Master Bedroom ติดตั้งกระจกบานสไลด์ที่สามารถเปิดออกไปบริเวณระเบียงด้านนอกได้ สำหรับออกไปสูดอากาศสดชื่นในวันที่อากาศดี บริเวณปลายเตียง ด้วยพื้นที่ที่เหลือค่อนข้างมากสามารถวางชั้นวางทีวี ได้ หรือหากต้องการความเป็นสัดส่วนมากขึ้นสามารถทำตามแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ด้วยทำผนังเพิ่มเติมและเลือกติดตั้งทีวีแบบแขวนแทน ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่แยกสัดส่วนชัดเจน ระหว่างพื้นที่ห้องนอนกับ พื้นที่ Walk-in Closet

พื้นที่ Walk-in Closet ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำภายในตัว ข้อดี คือ หลังจากอาบน้ำเสร็จสามารถแต่งตัวในพื้นที่บริเวณนี้ได้ทำให้ไม่มีหยดน้ำเปราะเปื้อนในบริเวณอื่นเพิ่มเติมภายในห้องนอน

ห้อง Master Bedroom สำหรับบ้านเปล่าที่ส่งมอบ

ห้องนอน 2 และ ห้องนอน 3

ทางโครงการออกแบบให้ดูเป็น 2 สไตล์ คือของนอนสำหรับเด็กเล็ก และห้องนอนสำหรับเด็กโต ซึ่งพื้นที่ของห้องนอนนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกและลูกๆภายในครอบครัว หรือหากครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียว สามารถทุบกำแพงทำเป็นพื้นที่ห้องเชื่อมต่อถึงกันก็ได้ ซึ่งจะทำให้ห้องมีขนาดใหญ่ขึ้นและได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้น ผนังระหว่าง 2 ห้องนี้ โครงการเลือกใช้วัสดุเป็นอิฐมวลเบา ที่รองรับสำหรับการต่อเติม ซ่อนแซมต่างๆ ตามการใช้งานของผู้อยู่อาศัย การจัดฟังก์ชันและพื้นที่การใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นเพื่อรองรับการใช้ประโยชน์สูงสุดของคนในครอบครัว

ตัวบ้านออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ได้ค่อนข้างลงตัวในราคาที่จับต้องได้ง่าย เริ่มต้นที่ 6.59 ล้านบาท* พร้อมทั้งยังได้พื้นที่โครงสร้างต่างๆที่ทางโครงการต่อเติมมาให้ที่แทบจะเรียกได้ว่าเกือบสมบูรณ์แล้ว ทั้งหลังคาโรงจอดรถ พื้นที่ Glass House ที่สามารถดัดแปลงได้ ไม่ว่าจะกั้นห้องหรือเปิดให้พื้นที่เชื่อมต่อกันรองรับกิจกรรมของครอบครัว ซึ่งตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 171 ตารางเมตร จำนวน 3 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์ รวมทั้งโครงการยังลงพื้นที่สวนภายในบ้านให้แล้วที่ทำให้เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียแรง และเสียเวลาปลูกต้นไม้เอง เพียงแค่ดูแลบำรุงรักษาเท่านั้น เป็นบ้านที่สามารถลากกระเป๋าเข้ามาพร้อมอยู่ได้เลย เหลือเพียงแค่เลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต่างๆที่อาจจะต้องหยิบจับมาเสริมแต่งเพื่อให้บ้านสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ประกอบกับความไม่วุ่นวายมากเพราะมีเพียง 104 ครอบครัวเท่านั้น แต่มี Facility ต่างๆ มาให้รองรับการทำกิจกรรมค่อนข้างครบ หากใครที่กำลังมองหาบ้านทำเลบางนา อยากให้ลองเข้าไปชมที่โครงการ COMO Botanica II บ้านบรรยากาศธรรมชาติในทำเลใกล้ Mega Bangna ที่ตอนนี้มอบสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ 0.99% นานสูงสุด 3 ปี* สำหรับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ซื้อโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในเครืออารียาฯ ในระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป* สำหรับลูกค้า โซนบางนา รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 500,000 บาท* พร้อม ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอนฯ เฉพาะโครงการที่กำหนด* สำหรับลูกค้าที่จอง และโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม – 15 มิถุนายน 2567 นี้ สนใจนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่

Facebook: Areeya Home https://bit.ly/453bol1
Website: www.areeya.co.th https://bit.ly/3KhJTdT
Line: @Areeyahome https://bit.ly/3WZ0cDK
โทร. 1797