ซีบีอาร์อีประเมินภายในระยะเวลา 4ปีนี้จะมีอาคารสำนักงานสร้างเสร็จใหม่ทยอยเข้าสู่ตลาดอีก 830,0000 ตารางเมตรจำนวน19 อาคาร ในจำนวนนี้ 94%หรือ7800,000 ตารางเมตร เป็นอาคารที่ได้มาตรฐาน Leed Gold หรือการรับรองมาตรฐาน WELL ขณะที่ภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานเริ่มส่งสัญญาณโอเวอร์ซัพพลาย เพราะเจ้าของกิจการลดขนาดพื้นที่ทำงานรองรับการทำงานยุคใหม่แบบ Work from anywhere
นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ไตรมาส1ปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2570 จะมีพื้นที่สำนักงใหม่เข้าสู่ตลาดประมาณ 830,0000 ตารางเมตรจำนวน19 อาคาร ในจำนวนนี้ประมาณ 94%หรือ7800,000 ตารางเมตร จำนวน 16 อาคาร เป็นอาคารที่ได้มาตรฐาน Leed Gold หรือการรับรองมาตรฐาน WELL โดยให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพที่ดีของพนักงาน
ขณะที่พื้นที่อาคารสำนักงานในกรุงเทพทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่มีพื้นที่รวมกัน 9,600,000 ตารางเมตร มีอัตราการเช่าพื้นที่ 82.% และคาดว่าจะลดลงเหลือ80% ในปลายปีนีี้ เนื่องจากปัจจุบันการเช่าพื้นที่สำนักงานลดลง และใช้พื้นที่ออฟฟิศที่มีขนาดเล็กลง เพราะยังมีการทำงานแบบ Work from Home หรือ Work from anywhere
“ตลาดมีความต้องการอาคารอัจฉริยะและความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีบีอาร์อี ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ โดยช่วยสนับสนุนลูกค้าในการสร้างพื้นที่ทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาใช้”
โดยในปัจจุบัน สำนักงานของซีบีอาร์อีที่ตั้งอยู่ที่อาคาร One City Centre ชั้น 46 และ 45 ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน อีกทั้งให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพที่ดีของพนักงาน โดยมีพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกันเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าหรือประมาณ 1,900 ตารางเมตร สามารถรองรับพนักงานที่ประจำในสำนักงานเพิ่มขึ้น 25% ได้โดยการจัดสรรพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ประเมินว่าอย่ในภาวะทรงตัว เพราะยังมีปัจจัยกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง ธนาคารเข้มงวดในการปล่อยเงินกู้ ทำให้ Rejection Rate สูง และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ตลาดลักชัวรีรีสอร์ตในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง พื้นที่คลังสินค้าปล่อยเ่ช่า รวมถึงตลาดโรงแรม ที่มีอัตราการจองห้องพักในอัตราที่สูงทั้งจากลูกค้คนไทยและต่างชาติที่คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 35 ล้านคน
นายชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าแผนกที่ปรึกษากลยุทธ์พื้นที่ทำงานและพัฒนาการออกแบบโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ตลาดสำนักงานในพื้นที่กรุงเทพเริ่มเข้าสู่ภาวะโอเวอร์ซัพพลาย เพราะยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาคารระดับเกรดA และเกรดA Plus เช่น อาคารสำนักงานของ One Bangkok อาคารพาร์ค สีลม และอาคารดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นต้น ขณะอาคารเก่าที่เปิดให้บริการมานานกว่า10ปีมีการรีโนเวตเพื่อปรับปรุงอาคารใหม่ให้มีความเป็นอาคารสีเขียวเพิ่มมากขึ้น
“ในยุคนี้เป็นยุคของการพัฒนาปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงาน โดยมี 2ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต คือ การวิเคราะห์กลยุทธ์สถานที่ทำงาน โดย80 %ของผู้ตอบแบบสำรวจ Global Occupancy ของซีบีอาร์อี ระบุว่า มีการวิเคราะห์อัตราการใช้พื้นที่เมื่อวางกลยุทธ์พอร์ตโฟลิโอ และขั้นตอนต่าง ๆ จะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์พื้นที่ทำงานที่เข้าใจถึงความต้องการเฉพาะด้านและปัญหาของแต่ละบริษัท ทั้งบริษัทข้ามชาติหรือบริษัทในประเทศ”
ส่วนภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯปีนี้ยังมีห้องชุดที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เหลือชายประมาณ50.000 ยูนิต โดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอกกรุงเทพ ระดับราคาขาย40,000-50,000 ตารางเมตร คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการระบายสต็อกอย่างน้อยประมาณ2ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกำลังซื้อของลูกค้าต่างชาติที่หายไป โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน แม้ปัจจุบันจะมีลูกค้าชาวพม่า ไต้หวันเข้ามาเสริมก็ตาม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นฐานเดิม เช่น ชาวเยอรมัน สหรัฐอเมริกา และยูเค