เปิดโครงการบ้านจัดสรรใหม่อย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับกลุ่มลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตามนโยบายบ้าน 5 มุมเมือง เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย Real Demand ตั้งแต่ระดับกลางล่างไปจนถึงระดับค่อนข้างสูง โดยตามแผนงานในปี 2567 บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องอีกจำนวน 8-12 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,000 – 8,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ที่ 5,250 ล้านบาท เน้นทำเลในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ที่เหลือจะเป็นทำเลในโซนอีอีซีและเมืองรองที่มีศักยภาพ
นายวิกรม ทนทัศน์กุล รองผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีโครงการจัดสรรที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขายในโซนตะวันตกของกรุงเทพ ย่านเพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย4และ 5 จำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวม 2,500ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันทำยอดขายได้เฉลี่ยโครงการละ30% โดยในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ชื่อว่า ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง ติดถนนใหญ่เส้นไร่ขิง-ดอนหวาย บนเนื้อที่กว่า 21 ไร่ พัฒนาเป็นทาวน์โฮมจำนวน 205ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วกว่า 25%
โดยแบ่งการขายออกเป็น 3 เฟส เปิดขายเฟสแรกก่อนจำนวน 51 ยูนิต เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงานในกรุงเทพฯและต้องการหาที่อยู่อาศัยนอกเมือง รวมถึงกลุ่มข้าราชการ กลุ่มเจ้าของกิจการSME และอาชีพอิสระที่ประกอบกิจการค้าขายในตลาดดอนหวาย
“โครงการได้รับการตอบที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยแต่ละเดือนทำยอดขายได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5ยูนิต ทำให้มั่นใจว่าจะเปิดการขายเฟสแรกได้ภายในไตรมาส2นี้และเตรียมเปิดขายเฟส2ต่อเนื่องทันที แต่ด้วยกลุ่มลูกค้าส่วนหนึ่งประกอบอาชีพอิสระ จึงได้รับผลกระทบจากการยื่นกู้แล้วถูกปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยมียอด Reject Rateอยู่ที่ 25-30% ทำให้บริษัทได้มีการPre Approvedลูกค้าแล้วส่วนหนึ่งก่อนจะให้ลูกค้าวางเงินจองโครงการ หรือเปลี่ยนไปจองบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านแทน เพื่อให้ลูกค้ามีระยะเวลาในการเดินบัญชีใหม่”
ทั้งนี้โครงการมีทาวน์โฮมให้เลือก 2 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 105-125 ตารางเมตร ประกอบด้วย ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
นอกจากนี้ยังมีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบคือ Lille ราคาขายเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท จำนวน 147 ยูนิต และ Lyon ราคาขายเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท จำนวน 58 ยูนิต
ที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางสู่ย่านใจกลางเมืองสะดวกด้วยถนนบรมราชชนนี,ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ,ถนนพุทธมณฑลสาย 5, ถนนเพชรเกษม-บางแค และถนนบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า นอกจากนี้ยังมีถนนสายรองซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ตั้งแต่ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ไปจนถึงถนนพุทธมณฑล สาย 5 รวมไปถึง ถนนพรานนก – กาญจนาภิเษก, ถนนบางแวก และถนนศาลาธรรมสพน์
ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ปัจจุบันสถานีที่อยู่ใกล้ทำเลนี้ที่สุดคือ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง โดยในอนาคตรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายจะมีส่วนต่อขยายมาจนถึงสถานีศาลายา (สายสีแดงอ่อน) และสถานีพุทธมณฑลสาย 4
“ทำเลสาย 5 – ไร่ขิง มีศักยภาพที่โดดเด่น เพราะนอกจากจะมีเส้นทางคมนาคมทั้งหลักและรองจำนวนมาก เชื่อมต่อสู่พื้นที่หลักๆ ได้อย่างสะดวกแล้ว ยังรายล้อมไปด้วยแลนด์มาร์คสำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งห้างสรรพสินค้าสถานศึกษา และสถานพยาบาล อาทิ วัดไร่ขิง ตลาดไร่ขิง ตลาดดอนหวาย โรงเรียนวัดไร่ขิง โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โรงพยาบาลสามพราน (ไร่ขิง) บิ๊กซีอ้อมใหญ่ โลตัสศาลายา และเซ็นทรัลศาลายา”
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการมีทั้งพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลางสไตล์โพรวองซ์ พร้อมติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง Solar Cell ในพื้นที่ส่วนกลาง และติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำ โดยนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ดูแลพื้นที่บริเวณสวนส่วนกลาง เพื่อลดการใช้น้ำเกินความจำเป็น ห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบมุม Co-Working Space ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และกล้องวงจรปิด CCTV
