ซีวิลเอนจีเนียริงเผยทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ-เอกชน คาดพอร์ต Backlog สิ้นปีนี้ทำนิวไฮแตะ 30,000 ล้านบาท มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพงานด้วยเทคโนโลยีบริหารก่อสร้าง เร่งส่งมอบงานในมือตามกำหนดเวลา เล็งจับมือพันธมิตรพัฒนาธุรกิจยานยนต์เชิงพาณิชย์, อสังหาฯ และ วัสดุก่อสร้าง ตั้งเป้ารายได้สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ว่า บริษัทตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นการเข้ารับงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพทั้งภาครัฐและเอกชน หลังจากที่รัฐบาลได้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้กับบริษัทมากขึ้นในการเข้าประมูลงาน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ อาทิ งานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่, งานประเภทรถไฟความเร็วสูง และ งานถนน มูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญาจำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ งานถนน และงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยงานทั้งหมดทีคาดว่าจะได้รับจะส่งผลให้มูลค่างานในมือของบริษัทจนถึงช่วงสิ้นปี 2567 นี้จะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมี Backlog จำนวน 22,538 ล้านบาท
สำหรับการรับรู้รายได้ในปี 2567 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 6,500 ล้านบาท จากแผนการดำเนินงานใน 2 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
โดยธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทได้มีการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยี อาทิ โปรแกรม Power BI (Business Intelligence), HR Tech และ ระบบ RPA (Robotic Process Automation) ซึ่งปัจจุบันดำเนินการเต็มประสิทธิภาพ สามารถบริหารขั้นตอนงานก่อสร้างด้วยความรวดเร็ว และส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา ล่าสุดบริษัทมีแผนส่งมอบงานในมือจำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์,โครงการพัฒนาคูน้ำวิภาวดี ตอน 2,โครงการก่อสร้างสนามบินลำปาง สนามบินหัวหิน และ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่บางสะพานน้อย-ชุมพร มูลค่ารวม 3,300 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้งานก่อสร้าง แบ่งเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟและทางรถไฟความเร็วสูง 46%, งานก่อสร้างทางหลวง ทางต่างระดับ และทางพิเศษ 33.9% และงานประเภทอื่นๆ 20.1% อาทิ คลองระบายน้ำ งานก่อสร้างเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ และสนามบิน
ขณะที่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานก่อสร้าง บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ ธุรกิจยานยนต์เชิงพาณิชย์ (EV) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจอย่างยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสการเติบโตในส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเครื่องจักรก่อสร้างให้เช่า รวมไปถึงการต่อยอดธุรกิจวัสดุก่อสร้างของบริษัท ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็นต้นไป