ESTAR ส่ง 3 โครงการใหม่ปี’67 ตั้งเป้า 5 ปี รายได้ทะยานแตะ 3,000 ล้านบาท

ESTAR เดินหน้าปี’67 ส่ง 3 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ทั้งพื้นที่กรุงเทพ และระยอง มองเป้ายอดขาย 5 ปี ทะยานแตะ 3,000 ล้านบาท ตุนที่ดินเพิ่มสร้างความแข็งแกร่ง จ่องัดแลนด์แบงก์ผุดโปรเจ็กต์รับดีมานด์ใจกลางเมือง

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องโดยปี 2567 วางแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท ประกอบด้วย

ทำเล บ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

  • โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภา-บ้านฉาง ระยอง บนพื้นที่ทั้งหมด 38 ไร่ จำนวน 128 หลัง มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท พัฒนาเป็น บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดินตั้งแต่ 52 – 88 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 194-277 ตร.ม.
  • โครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง จำนวน 6 หลัง มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 380.6 Sqm. ออกแบบเป็น บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว

ทำเลโซนกรุงเทพ 1 โครงการ คือ

  • โครงการ ESTON ลาดกระบัง- สุวรรณภูมิ บนพื้นที่ทั้งหมดกว่า 16 ไร่ พัฒนาเป็น ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น จำนวน 160 หลัง มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป ขนาดที่ดินตั้งแต่ เริ่มต้น 19-34.60 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 92-131 ตร.ม.

นอกจากนี้ยังวางแผนการซื้อที่ดินเพิ่มจำนวน 3 แปลงภายในปี 2567 แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพจำนวน 2 แปลง และพื้นที่ EEC จำนวน 1 แปลง รวมทั้งในอนาคตภายในปี 2568-2569 วางแผนซื้อเพิ่มอีก 4 แปลง เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการของบริษัท โดยปัจจุบัน ESTAR มีที่ดินสะสมอย่างต่อเนื่องในจังหวัดระยองแตะ 3,000 ไร่ ครอบคลุม 3 อำเภอ แบ่งเป็นพื้นที่ บ้านฉาง 1,800 ไร่ บ้านค่าย 600 ไร่ และอำเภอเมืองระยองประมาณ 300 ไร่ สามารถรองรับการพัฒนาโครงการต่อเนื่องไปอีก 10 ปี โดยที่ดินในจังหวัดระยองนั้นที่มีการเปลี่ยนแปลงปรับราคาสูงขึ้นราว 20-30% ต่อปี บางแปลงมีราคาสูงถึงไร่ละ 12 ล้านบาท

สำหรับในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้อยู่ที่กว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้แล้ว สำหรับโครงการประเภทคอนโดมิเนียมทำเลใจกลางกรุงเทพ รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่องภายใน 5 ปี มียอดรายได้เพิ่มขึ้น 22% ภายในปี 2571 ทะยานแตะที่ 3,479 ล้านบาท

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำยอดขายปี 2566 ได้ถึง 1,580 ล้านบาท สูงทะลุเป้าที่วางไว้ ซึ่งเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งในไตรมาส 1/2567 บริษัทยังสามารถดันยอดขายนิวไฮ แตะถึง 510 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเปรียบเทียบกับ Q1 ปี 2566 ที่มูลค่าเพียง 292 ล้านบาท ขณะที่ยอดโอนไตรมาสแรก อยู่ที่ 300 ล้านบาท โตเพิ่ม 21% QoQ โดยแบ่งสัดส่วน ยอดขายโครงการในกรุงเทพ ทั้งแนวสูงและแนวราบ ไตรมาสแรก มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมียอดโอนที่ 165 ล้านบาท สำหรับยอดขายโครงการแนวราบใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง จะอยู่ที่กว่า 109 ล้านบาท มียอดโอนที่ มูลค่า 135 ล้านบาท

รวมทั้งบริษัทยังมี Land Bank ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลที่เตรียมพัฒนา 2 แปลงได้แก่ ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีติวานนท์ พื้นที่ทั้งหมดกว่า 7 ไร่ โดยเตรียมพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม HI Rise มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในช่วงการวางแผน ออกแบบ และดำเนินงานโดยวางกำหนดเปิดตัวโครงการช่วงปลายปี 2568 – ต้นปี 2569 และ ทำเลใจกลางเมืองย่านเย็นอากาศ ซอยประสาทสุข พื้นที่ทั้งหมดกว่า 2 ไร่ ที่อยู่ในช่วงของการตัดสินใจเลือกรูปแบบของการพัฒนาโครงการ โดยมองเป็นโครงการระดับ Hi-End ทั้งพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise และพัฒนาเป็นบ้านหรูที่มีระดับราคาขายในช่วง 50 – 80 ล้านบาทขึ้นไป โดยมองหาพาร์ทเนอร์ร่วมพัฒนาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือแบรนด์ เพราะเป็น Segment ที่บริษัท ไม่ถนัดในการพัฒนา

โพสที่เกี่ยวข้อง