“เครือสหพัฒน์” ตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่ย่านพระราม 3 ให้เป็น Community of Kindness มีทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน และคอมมูนิตี้มอลล์ มูลค่าสูงกว่า 1หมื่นล้านบาท ผนึกค่ายโตคิว คอร์ปอเรชั่น พัฒนาคอนโดฯ “คิงสแควร์ เรสซิเดนซ์” พร้อมโรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์แบรนด์ “ดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ” ที่มีกลุ่มดุสิตธานีเข้ามาบริหารจัดการด้าน Hospitality
นายจักรกฤษณ์ สันติรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทคิง สแควร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า เครือสหพัฒน์มีแนวคิดที่จะพัฒนาพื้นที่ในทำเลพระราม 3 ให้เป็นสถานที่ที่ทุกคนอยากมาใช้ชีวิต ภายใต้แนวคิด Community of Kindness โดยจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียม,โรงแรม,คอมมูนิตี้มอลล์ และอาคารสำนักงานอยู่ในพื้นที่ติดกัน มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งโปรเจกต์กว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดผู้คนที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมให้เข้ามาอยู่อาศัยและใช้ชีวิตร่วมกัน
โดยเครือสหพัฒน์ได้ร่วมทุนกับโตคิว คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ชื่อ “คิงสแควร์ เรสซิเดนซ์” บนเนื้อที่กว่า 4ไร่ติดถนนรัชดาภิเษก เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 52 ชั้น 1 อาคาร จำนวนห้องชุดรวม 222 ยูนิต มีขนาดห้องชุดให้เลือกแบบ 1-4ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 60 ตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ย 200,000 บาทต่อตารางเมตร ล่าสุดทำยอดขายได้แล้ว 50% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่อยู่อาศัยในย่านพระราม 3 รวมถึงกลุ่มผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติคิงส์ คอลเลจ กรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 1,500 คนหลังจากได้เปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี 2563

ส่วนงานก่อสร้างได้ดำเนินการถึงชั้นที่ 4แล้ว หลังจากได้เริ่มงานก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีบริษัทไทยโอบายาชิ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จอีกประมาณกว่า 2ปี ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับกลุ่มดุสิตธานี ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริการและโรงแรม เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการภายในโครงการ โดยทีมงาน Dusit Hospitality Services เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมในอนาคตเมื่อแล้วเสร็จ
นอกจากนี้เครือสหพัฒน์ยังได้ร่วมทุนกับกลุ่มโตคิว คอร์ปอเรชั่น พัฒนาโครงการดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ มีทั้งเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์และโรงแรมจำนวน 222 ยูนิต โดยมีดุสิตธานีเป็นผู้บริหารจัดการด้าน Hospitality เช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ส่วนในพื้นที่ใกล้กันยังมีอาคารสำนักงานเกรดเอ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ อาคารไอคอนิกที่สูงที่สุดในย่านพระราม 3 ด้วยความสูง 52 ชั้น มีพื้นที่รวม 44,500 ตารางเมตร พร้อมห้องอีเว้นท์ ฮอลล์ขนาด 400 ตารางเมตรและห้อง Meeting Facilities บนชั้น 41 รองรับการประชุมสำหรับแขกวีไอพี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ สูง 4ชั้นครึ่ง พื้นที่ใช้สอย 10,000ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่ของวิลลามาร์เก็ตประมาณ 1,000-1,200 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มพื้นที่แล้ว จะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2568

นายฮิโรฮิสะ ฟูจิวาระ Director & Senior Managing Executive Officer โตคิว คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โตคิว คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเมืองและอสังหาฯในประเทศญี่ปุ่น ทั้งที่เป็นโครงการที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สำนักงาน รวมทั้งให้บริการที่ปรึกษาและบริหารจัดการทรัพย์สินครบวงจร นอกจากนี้โตคิว คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเครือสหพัฒน์ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาฯมาตั้งแต่ปี 2557 เริ่มจากโครงการบ้านพักสำหรับชาวญี่ปุ่นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี และโครงการในพื้นที่ย่านพระราม 3 เพราะเห็นโอกาสที่จะพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในย่านพระราม 3และโรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพฯ โดยมี 2 โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา คือ โครงการคิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ และโครงการดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานี เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีกิจการครอบคลุม 5 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะยำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงแรมและงานบริการที่เกี่ยวข้องมาช่วยบริหารโครงการดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทั้งโรงแรมและเซอร์วิสอะพาร์ตเมนท์ รองรับความต้องการทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ
 
															
 
				




