เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ขบเคลื่อนธุรกิจ Engine2 หรือ Recurring income ร่วมทุนครั้งใหม่กับโตเกียว ทาเทโมโนะ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ระดับแถวหน้าจากญี่ปุ่น ตั้งเอสซีเอ็กซ์ (SCX) พัฒนาคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ารองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นำร่องใน 2 ทำเลศักยภาพทั้งบางนา กม. 20 และแหลมฉบัง พื้นที่ให้เช่ารวม 126,704 ตารางเมตร
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) เปิดเผยว่า การลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานเพื่อเช่า เป็น 1 ในยุทธศาสตร์สำคัญที่จะสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท เนื่องจากธุรกิจนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง เพราะได้แรงสนับสนุนจากการเติบโตของ e-commerce ในประเทศไทย โดยตลอด 10 ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายพัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่ารวม 1 ล้านตารางเมตร ล่าสุดบริษัทได้ร่วมทุนกับโตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) พัฒนาคลังสินค้า-โรงงานให้เช่ารวม 126,704 ตารางเมตรในทำเลบางนา กม.20 และแหลมฉบัง
“การร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นต่อยอดความสำเร็จจากการร่วมทุนครั้งแรกในธุรกิจคอนโดมิเนียม และมีแผนจะร่วมทุนครั้งต่อไปอีกในอนาคต เพราะบริษัทมีวิสัยทัศน์ ทัศนคติ และความรู้ประสบการณ์ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กันและกันได้เป็นอย่างดี”
ทั้งนี้โตเกียว ทาเทโมโนะ เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าจากประเทศญี่ปุ่น และมีสถานะการเงินที่มั่นคง โดยมีทุนจดทะเบียน 22,000 ล้านบาท มีทรัพย์สินกว่า 460,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 โดยมีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาฯ ที่หลากหลายต่อเนื่องยาวนานมากว่า 128 ปี ทั้งคอนโดมิเนียม ออฟฟิศ โรงแรม และรีเทล
นายฟุมิโอะ ทะจิมะ กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนในธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่ากับเอสซี แอสเสทฯครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในการลงทุนโลจิสติกส์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพสูง มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค และมีกำลังการบริโภคสูง โดยเฉพาะทางช่องทางออนไลน์ โดยคาดว่าในปี 2569 ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 รวมทั้งประเทศไทยตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของเครือข่ายการขนส่งของภูมิภาค และภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้ไทยเป็นฐานการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อส่งออกไปทั่วโลก จึงทำให้ตลาดโลจิสติกส์ในประเทศไทยมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
การร่วมทุนครั้งนี้ระหว่างเอสซีฯและโตเกียว ทาเทโมโนะ เพื่อวางแผนพัฒนาโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า 2 โครงการ ใน 2 ทำเล ได้แก่ SCX บางนา กม.20 ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซสูง โดยโครงการนี้จะมีคลังสินค้าทั้งหมด 5 อาคาร รวม 15 ยูนิต มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 78,252 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 เฟส เฟสแรกมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2568 เฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 ในเดือนเมษายนและธันวาคม 2568 ส่วนเฟสที่ 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569
อีกโครงการ คือ SCX แหลมฉบัง ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีความต้องการพื้นที่คลังสินค้าสำหรับเก็บชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปต่างประเทศ โครงการนี้มีคลังสินค้าทั้งหมด 3 อาคาร รวม 10 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยรวม 46,602 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกและเฟสที่ 2 จะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์และพฤษภาคม 2568 ส่วนเฟสที่ 3 ในเดือนมกราคม 2569