กลุ่มบริษัทเอ็นริชผนึกพันธมิตรทุนญี่ปุ่นกลุ่มอนาบูกิ โคซัน กรุ๊ปลุยตลาดบ้านลักชัวรีโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก เปิดตัว “ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์” เป็นบ้าน3.5ชั้นจำนวน 117 ยูนิต เตรียมเปิดขายเฟสแรกในเดือนกันยายนนี้ ด้านซีบีอาร์อี เผยตัวเลขการเปิดโครงการบ้านใหม่ ณ ไตรมาส 1 ปี 2567 ในบ้านกลุ่มไฮเอ็นด์ และลักชัวรีบนทำเลกรุงเทพฯ ชั้นนอกฝั่งตะวันตก มีสัดส่วนเพิ่มสูงกว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปี 2566

นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับกลุ่มอนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 1 ใน 10 จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการบ้านแนวราบในโซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก เพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ที่เริ่มกระจายตัวจากใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะทำเลราชพฤกษ์ตัดใหม่ ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า และโรงเรียนนานาชาติ
โดยใช้ชื่อโครงงการว่า ดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์ มูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ใกล้โรบินสัน ไลฟ์สไตส์ ราชพฤกษ์ พื้นที่โครงการกว่า 24ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 3.5 ชั้นจำนวน117ยูนิต-ขนาดที่ดิน 35 – 130 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 300 – 500 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3-4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้นเริ่มต้น 15.9 – 28 ล้านบาท จะเปิดขายเฟสแรกก่อนในเดือนกันยายนนี้

“ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทเอ็นริช มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯ หลากหลายรูปแบบออกสู่ตลาด รวมทั้งได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายรายในการพัฒนาโครงการร่วมกัน โดยในปีนี้กลุ่มบริษัทเอ็นริชได้ร่วมมือกับอนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป พัฒนาโครงการดิ อาร์ทิเคิล นอร์ธ ราชพฤกษ์ และมอบหมายให้ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเป็นตัวแทนที่ปรึกษาทางการตลาด และบริหารงานขายให้กับโครงการ”

นายมาซาอากิ คากาวะ กรรมการผู้จัดการ อนาบูกิ โคซัน กรุ๊ป กล่าวว่า การร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทเอ็นริช เพราะมีแนวคิดและการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และยังเห็นว่าเอ็นริชฯได้พัฒนาโครงการอย่างมีคุณภาพ มีการวางแผนและการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย การคัดเลือกพัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพทั้งปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในอนาคต ขณะที่โปรดักส์ของเอ็นริชมีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ที่คำนึงถึงความสะดวกสบาย และการเลือกทำเลการพัฒนาโครงการที่ดีรวมไปถึงมีการวางแผนงานที่ดีอีกด้วย
ด้านนางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านจัดสรรในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 31 โครงการ รวม 5,032 ยูนิต มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 15.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 ถือเป็นสัญญาณบวก โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2565-2567 ตลาดบ้านโซนกรุงเทพชั้นนอกฝั่งตะวันตก มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 145% ในปี 2565 และ 18% ในปี 2566
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 พบว่า ทำเลนี้มีอัตราการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรสูงที่สุดในกลุ่มทำเลกรุงเทพชั้นนอกซึ่งมีอยู่ 4 ทำเลด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไฮเอ็นด์ขึ้นไปในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 227% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 มีการเปิดตัวโครงการใหม่สูงขึ้นว่า 385% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านหรูในโซนราชพฤกษ์เติบโตเป็นเพราะศักยภาพของทำเลราชพฤกษ์กลายเป็น New Luxury Hub ที่มีความสมบูรณ์ของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งการสร้างและขยายถนน อาทิ ถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ การขยายถนนชัยพฤกษ์เชื่อมกับสะพานพระราม 4 เป็นถนน 10 เลน รวมถึงเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู ส่งผลให้เกิด Connectivity ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อพื้นที่ได้ทั้ง 3 จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี”
ขณะที่การพัฒนาโครงการ Shopping Mall ขนาดใหญ่รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนในโซนราชพฤกษ์ เช่น โรบินสัน ไลฟ์ สไตล์ ราชพฤกษ์,เซ็นทรัล เวสเกต,เซ็นทรัล เวสวิลล์, และ ตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ นอกจากนี้ทำเลราชพฤกษ์ยังเชื่อมต่อไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจและเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการสำคัญๆ รวมถึงบริษัทชั้นนำมากมาย โดยมีพื้นที่อาคารสำนักงานมากกว่า 1,100,000 ตารางเมตร ทำให้เกิดดีมานด์ของคนทำงานภายในย่านนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดที่พักอาศัยในโซนแจ้งวัฒนะ และขยายตัวมายังโซนราชพฤกษ์เช่นกัน





