“สืบวงษ์ สุขะมงคล” ซีอีโอแพทโก้ กรุ๊ป รับตำแหน่งนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทราคนใหม่ สานต่อนโยบายด้านอสังหหาฯรองรับการพัฒนา EEC ชูฉะเชิงเทราเมืองน่าเที่ยว-น่าอยู่-ลงทุน ชี้อสังหาฯ ฉะเชิงเทรายังเติบโตระยะยาว แม้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาสแรกปีนี้หดตัวลงหลังโดน Rejectสูง
ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตนได้เข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมาเพื่อรับหน้าที่ในการพัฒนาและผลักดันอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยในพื้นที่ฉะเชิงเทราให้เติบโต สานต่อนโยบายและรองรับการพัฒนาอีอีซี พร้อมกำหนดนโยบาย 7 เรื่อง ประกอบด้วย ฉะเชิงเทราเมืองน่าเที่ยว เมืองน่าอยู่ เมืองน่าลงทุน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นหลายด้าน เป็นเมืองที่เงียบสงบ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายในการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 75 กิโลเมตรเท่านั้น
“ฉะเชิงเทราเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มีโอกาสในการลงทุนสูง เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม เช่น รถไฟความเร็วสูง การเชื่อมต่อกับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ มีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่ 4 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุสาหกรรมเวลโกร์ว, นิคมอุตสาหกรรมTFD, นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้, นิคมอุตสาหกรรม 304 จึงทำให้ฉะเชิงเทราเป็นจังหวัดที่น่าสนใจทั้งในการอยู่อาศัย ท่องเที่ยว และการลงทุน”
นอกจากนี้ยังมีนโยบายในการสานต่อเรื่องปัญหาแนวถนน ผังเมือง ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การท่องเที่ยวและการขนส่งในแม่น้ำบางปะกง การช่วยเหลือมาตรการต่างๆ ของภาคอสังหาริมทรัพย์ และขานรับการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)
ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดฉะเชิงเทรายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการขยายตัวของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับ EEC และบริเวณใกล้เคียงโครงข่ายคมนาคม ส่งผลให้มีการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น จากความต้องการของกลุ่มแรงงานและผู้บริหารในพื้นที่ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ เข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายราย อาทิ บริทาเนีย และศุภาลัย
สำหรับยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปี 2566 ที่ผ่านมา เฉพาะในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง มีทั้งหมด 1,834 ยูนิต สินค้าทาวน์โฮมมียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดจำนวน 577 ยูนิต คิดเป็น 31.46% ส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 1 มีจำนวน 303 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 951.68 ล้านบาท โดยบ้านแฝดมียอดโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดจำนวน 365 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบยอดโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 1ปี 2566 ที่มีจำนวน 404 ยูนิต ถือว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากหลายบริษัท ลูกค้าถูกปฎิเสธสินเชื่อเงินกู้จากธนาคาร ผนวกกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มยกเลิกการโอนที่อยู่อาศัยและชะลอการตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์
ดังนั้นในฐานะนายกสมาคมฯ จึงเดินหน้าผลักดันมาตรการอสังหาฯ ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย และการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง กลุ่มที่บ้านหลังแรก และบ้านมือสอง สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการภายในปีนี้ นอกจากนี้ต้องการให้รัฐบาลช่วยผ่อนปรนมาตรการ LTV พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้โอกาสคนที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ได้รับสินเชื่อมากขึ้น ขณะเดี่ยวกันรัฐบาลควรสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนมีความต้องการซื้อบ้านสูงเกินวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ





