SCX Corporation บริษัทใหม่ในเครือเอสซี แอสเสทประกาศแผนโร้ดแมป 5 ปี (2568-2572) ทุ่มงบลงทุน 20,000 ล้านบาทในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ตั้งเป้า5ปีสร้างกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income มากกว่า 25% ของกำไรรวมทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซีฯ ประกอบด้วย ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาคารสำนักงาน
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในยุคที่โลกมีความผันผวนการดำเนินนธุรกิจต้องมีความหลากหลาย ต้องมีการสร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ และลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มขาขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์กันว่าปี 2568จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มสูงถึง 40 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจคลังสินค้าที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในช่วง 10ปีที่ผ่านมามี Occupancy สูงถึง 80% แต่มีจำนวนผู้เล่นในตลาดไม่มาก

ดังนั้นทิศทางการเติบโตของกลุ่มเอสซี แอสเสทในทศวรรษที่ 3 คือ สร้างคุณค่าสู่คนและโลก เติบโตบนความหลากหลาย โดยวางยุทธศาสตร์ลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ผันผวน และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยได้จัดตั้งบริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด หรือ SCX เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ “Engine 2” หรือ “Recurring Income” เพื่อสร้างรายได้ประจำ พร้อมได้แต่งตั้งนายรชฎ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ในการขับเคลื่อนธุรกิจของ SCX โดยตั้งเป้ากำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ในสัดส่วนมากกว่า 25% ของกำไรรวมจากทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซี แอสเสทภายในระยะเวลา 5ปีเริ่มตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

นายรชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า SCX ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “The Prospering Expedition” ที่มุ่งเสาะหาความเป็นไปได้ทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยแผนธุรกิจโร้ดแมป 5 ปี (2568-2572) ได้ตั้งงบลงทุน 20,000 ล้านบาทเพื่อเน้นการลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก คือ SCX Logistics การพัฒนาอาคารคลังสินค้าเพื่อเช่า ครอบคลุมทำเลบางนา, EEC และ อยุธยา-วังน้อย ตั้งเป้าในปี 2572 จะมีพื้นที่เช่ารวม 700,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีพื้นที่อยู่กว่า 200,000 ตารางเมตรจาก5โครงการที่เปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้ ประกอด้วย จังหวัดนครสวรรค์ 16,000 ตารางเมตร บางนา กม.23 พื้นที่ 17,000 ตารางเมตร บางนา กม.20 พื้นที่ 77,000 ตารางเมตร แหลมฉบัง 46,000 ตรางเมตร และอมตะ ชลบุรี พื้นที่ 37,000 ตารางเมตร รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ในประเทศไทย

โดยใช้จุดแข็งที่ตั้งโครงการของ SCX อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งทางด้านโลจิสติกส์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางคมนาคมหลัก มาตรฐานอาคารที่สูงกว่าคู่แข่ง การออกแบบอาคารที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งคลังสินค้าและโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจ SCX Hospitality พัฒนาโรงแรมใน 4 ทำเลท่องเที่ยวหลัก คือ กรุงเทพ, พัทยา, สมุย, และภูเก็ต ตั้งเป้าในปี 2572 จะมีจำนวนห้องพักรวมมากกว่า 2,000 ห้อง ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดบริการแล้ว คือ YANH Ratchawat จำนวน 78 ห้อง และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โรงแรมได้แก่ Kromo, Curio Collection by HILTON จำนวน 306 ห้อง ที่ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น กลุ่ม DAIWA HOUSE INDUSTRY และมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง HILTON เป็นผู้บริหารโรงแรม ตั้งอยู่ติดถนนสุขมวิท 29 และThe Standard Pattaya Jomtien ที่ได้ร่วมทุนกับ Syntec Construction ผู้นำด้านธุรกิจก่อสร้างของไทย โดยมี The Standard เป็นผู้บริหารโรงแรม ตั้งอยู่ริมหาดจอมเทียนจำนวน 161 ห้อง

ส่วน SCX Working Solutions จะเน้นการปรับปรุงพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานที่มีอยู่กว่า 120,000 ตรางเมตรจากทั้งหมด 6 แห่ง มีอัตราการเช่ามากกว่า 90% โดยจะมีการปรับปรุงและพัฒนาอาคาร รวมทั้งระบบประกอบอาคารต่างๆ ให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าตามมาตรฐานระดับสากล เช่น WELL : Health & Safety และอาคารประหยัดพลังงานระดับอาเซี่ยน มีระบบฆ่าเชื้อในอากาศของอาคาร โดยติดตั้งหลอด UVC ใน AHUประสานเทคโนโลยี เป็นต้น
นอกจากนี้ SCX ยังมีแผนดำเนินงานในด้าน Zero Carbon Emission Program ในทุกธุรกิจ ทั้งการพัฒนาอาคารสีเขียว, การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคาร รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามพันธกิจ SCero Mission ของบริษัทเอสซี แอสเสทฯ
															
															
				




