“อเรย์ โฮมบิลเดอร์”รุกตลาดสร้างบ้านหรู 20 – 30 ล้านบาทขึ้นไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เจาะอินไซต์ ‘เศรษฐีคนรุ่นใหม่’ (Young Millionaire) ที่ทุ่มเงินจ่ายเพื่อไลฟ์สไตล์ และฟังก์ชันบ้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Art for Living, Design for you รับประกันโครงสร้าง 20 ปี ตั้งเป้ารับงานสร้างบ้าน 15 หลังต่อปี
นายปริญญา ธนินถิรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทอเรย์ โฮมบิลเดอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านมา 20 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นจากการเป็นสถาปนิกรับออกแบบบ้าน มาต่อยอดเป็นรับสร้างบ้าน และรับตกแต่งภายใน รีโนเวท ที่ครบวงจรในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก่อนก่อสร้าง ระหว่างก่อสร้าง และดูแลหลังการเข้าอยู่ ด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญ พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม จากที่ผ่านมามีลูกค้ากลุ่มหลักที่รับสร้างบ้านในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะขยายฐานลูกค้าใหม่ไปจับกลุ่มบ้านระดับ 20 – 30 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูง และแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจัยตลาดบ้านในราคา 20 – 30 ล้านบาทเติบโตมาจากดีมานด์ของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่อายุน้อยเฉลี่ย 30 ปี ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการทำธุรกิจ ทำให้มีความต้องการบ้านหลังใหม่ และมีความพร้อมในการจ่ายเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อหรือสร้างบ้านด้วยเงินสด ทำให้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในกลุ่มระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งบ้านในโครงการจัดสรร และบ้านสร้างเองบนที่ดินเปล่า
“ปัจจุบันผู้บริโภคที่กำลังวางแผนมีบ้านหลังใหม่จะมีการเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองทางเลือกได้ดีกว่าที่ผ่านมา เช่น ทำเลที่ตั้งในเมือง และนอกเมืองมีผลต่อราคาบ้าน ในกรณีของที่ดินจัดสรร บ้านระดับ 500 ตารางเมตรขึ้นไปจะมีราคากว่า 40 ล้านบาทรวมราคาที่ดิน แต่ถ้าสร้างบ้านในขนาดเท่ากันจะได้บ้านมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท หากรวมต้นทุนที่ดิน อีกประมาณ 10 ล้านบาท จะเป็น 25 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับเป็นการลดต้นทุนลง แต่สามารถดีไซน์ เลือกวัสดุในแบบที่ชอบ ประหยัดเงินค่าส่วนกลาง และได้บ้านที่ตรงใจมากขึ้น”
สำหรับความท้าทายในปีนี้ คือการเร่งทำตลาดในเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะการดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ตามคอนเซปต์ Art for Living, Design for you และเปิดช่องทางใหม่เพื่อเพิ่มบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จากเดิมโฟกัสเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยกลยุทธ์ที่เตรียมรุกเจาะกลุ่ม “เศรษฐีคนรุ่นใหม่” (Young Millionaire) จะเกิดขึ้นในหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การขยายการให้บริการรับสร้างบ้านที่ครอบคลุมทั่วประเทศในกลุ่มบ้านระดับ 20 – 30 ล้านบาท เพื่อทำให้สามารถสร้างการรับรู้ทุกช่องทางการสื่อสาร เพื่อดันยอดสร้างบ้านกลุ่มนี้ให้เติบโต 15 หลังต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นนำเสนอบริการที่ครบวงจร ในราคาที่จับต้องได้ ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้างบ้าน ตกแต่งภายใน รีโนเวทพร้อมแบบบ้านมาตรฐานให้เลือกกว่า 60 แบบ อาทิ VILLADEL แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น และ THE MOST-D แบบบ้านโมเดิร์น วิลล่า ดีไซน์ใหม่ เป็นต้น รวมถึงบ้านที่ออกแบบเฉพาะบุคคล ขนาดบ้าน 500 – 1,000 ตารางเมตร และบ้านขนาด 1,501 ตารางเมตรขึ้นไป โดยมีค่าก่อสร้างบ้านเฉลี่ย 23,000 – 30,000 บาท ต่อตารางเมตร
ส่วนด้านบริการหลังการขายจะมีตั้งแต่ก่อนก่อสร้าง การดูแลออกแบบ จัดทำแบบ หาสินเชื่อในวงเงินพิเศษเป็น 100% ของมูลค่าบ้าน และประสานงานหน่วยงานราชการ โดยบ้านทุกหลังจะเจาะสำรวจดิน เพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพดิน ทดสอบเสาเข็มทุกต้น พร้อมตรวจสอบหกขั้นตอนตามมาตรฐาน ISO 9001:2008 รวมทั้งรับประกันโครงสร้าง 20 ปี ดูแลงานระบบอีก 2 ปี และส่วนของหลังคา 5 ปี พร้อมบริการบำรุงรักษาฟรี 3 ครั้งต่อปี เป็นเวลา 5 ปีต่อเนื่อง รวมถึงการทาสีใหม่ทั้งหลัง สำหรับบ้านที่มีอายุครบ 2 ปี
