โนเบิลฯมั่นใจยอด Pre-Saleปี’67ท็อปฟอร์มแตะ 18,000 ล้านบาทรับดีมานด์ซื้อต่างชาติเพิ่ม

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ มั่นใจปีนี้ยอดขายท็อปฟอร์มแตะ 18,000 ล้านบาท เติบโต 21% รับสัญญาณบวกดีมานด์ซื้อจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติพุ่ง  9 เดือนแรกทำยอดขายได้มากกว่า 1,688 ยูนิต เพิ่มขึ้น 146% มั่นใจยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ตามแผน 11,000 ล้านบาท เติบโต 67% โดยเตรียมส่งมอบ 4 คอนโดมิเนียมใหม่ หนุน Backlog พุ่งอยู่ที่ระดับ 27,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ยาวถึงปี 2571

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE  เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในปี 2567 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9  มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท ได้รับการตอบรับดีทั้งกลุ่มลูกค้าภายในประเทศและต่างประเทศ สามารถทำยอดขายไได้แล้วมากกว่า 50% ของทั้งโครงการจำนวน 3,000กว่ายูนิต ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมียอดขายรวมสะสมทุกโครงการแล้วกว่า14,300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นระดับใกล้เคียงกับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2563 ที่บริษัทเคยทำสถิติยอดขายสูงสุด โดยตลาดต่างชาติเป็นอีก Key Success หลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนในการผลักดันยอดขายเติบโตจนประสบความสำเร็จ ส่วนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่กว่า3,700 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายจนถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ในระดับ 18,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

ส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท เติบโต 67% จากปีก่อนที่ทำยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ 6,570 ล้านบาท โดยช่วง9เดือนทำยอดโอนได้แล้ว 6,455 ล้านบาท และมีแผนจะส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่เพิ่มอีกจำนวน 4 โครงการในปลายปีนี้ หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีการส่งมอบโครงการคอนโดฯที่เสร็จใหม่แล้วจำนวน 3โครงการ ได้แก่ โครงการ นิว โนเบิล รัชดา ลาดพร้าว  โครงการ นิว คอร์ คูคต สเตชั่น โครงดการนิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง และโครงการนิว เมกา พลัส บางนา ซึ่งอยู่ระหว่างการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ และในไตรมาส 1/2568 จะมีคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ  คือ โนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ  ซึ่งเป็นโครงการระดับลักชัวรีสูง 46 ชั้น มูลค่าโครงการ 5,300 ล้านบาท

ภาพรวมในปี 2567 บริษัทยังมีโครงการพร้อมอยู่อื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขาย และจะทยอยสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ เดิมตั้งเป้ามูลค่าโครงการใหม่ไว้ที่14,310ล้านบาท ล่าสุดได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น18,400ล้านบาท โดยได้เปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในช่วง 10 เดือนแรกไปแล้วจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล นอร์ส กรุงเทพกรีฑา บ้านเดี่ยวมูลค่า 1,480 ล้านบาท ติดถนนใหญ่กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ โครงการนนิว เฌด ราชพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดติดถนนราชพฤกษ์ 345 มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการนิว อีโว พัฒนาการ คอนโดมิเนียมติดถนนใหญ่พัฒนาการ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท โดยมีการเปิดขายรอบ VIP ไปแล้วในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และล่าสุดได้เปิดตัวโครงการนิว เอปิค อโศก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 12,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการใหม่ที่เปิดตัวด้วยมูลค่าสูงสุดในปี 2567 บนพื้นที่โครงการทั้งหมดกว่า 15 ไร่ ย่านพระราม 9 โดยได้เปิดขายรอบ Pre-Sale ไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันโครงการคอนโดฯของบริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1,688 ยูนิต เพิ่มขึ้นถึง 146% เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายทั้งปีก่อนหน้า โดยกลุ่มลูกค้าหลักมีทั้งชาวจีน ฮ่องกง พม่า และไต้หวัน โดยเป็นผลจากแผนรองรับการขายของทีมขายในต่างประเทศ ภายใต้การดูแลของนายแฟรงค์ เหลียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ที่ได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยเครือข่ายตัวแทนขายที่ครอบคลุมในหลากหลายประเทศ เติบโตสวนกระแสตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้จากความสำเร็จด้านยอดขายของทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ณ สิ้นไตรมาส3บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ในนช่วงไตรมาส 4นี้ประมาณ 6,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 20,200 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขาย (Inventory) ในมือที่เพียงพอ สามารถรองรับการขายได้อย่างต่อเนื่อง

โพสที่เกี่ยวข้อง