แสนสิริ เขย่าเป้าโอนใหม่ที่ 14,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% หลังผลงาน 10 เดือนเกินคาดมียอดโอนแล้ว 90% จากเป้าเดิม 13,000 ล้านบาท พร้อมประกาศ Sold Out 4 โครงการรวด ลุยโค้งสุดท้ายของปีเต็มกำลัง
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริประสบความสำเร็จจากการตรวจรับมอบห้องพักอาศัยและโอนคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในปีนี้เป็นอย่างมาก เห็นได้จากการตอบรับของลูกค้าในการตรวจรับมอบห้องก่อนโอน จากการจัดงาน Welcome Home ที่เกิน 80% ในทุกโครงการ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้า ทั้งในคุณภาพโครงการและบริการหลังการขายจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีและยั่งยืนของลูกบ้านตลอดช่วงการอยู่อาศัย ทำให้ในช่วง 10 เดือน แสนสิริสร้างยอดโอนคอนโดแล้วกว่า 11,300 ล้านบาท (เกือบ 90% จากเป้า 13,000 ล้านบาท) ขณะที่มียอดขายคอนโดที่ 15,800 ล้านบาท คิดเป็น 75% ของเป้า 21,000 ล้านบาท โดยล่าสุดได้ Sold Out คอนโดมิเนียม รวม 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,900 ล้านบาท ได้แก่ เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา, ดีคอนโด พนา, เดอะ มูฟ บางนา และ เวย์ โพธิสาร พัทยา ขณะที่ Stock คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ของแสนสิริ ณ เดือนตุลาคม 2567 มีเพียง 6,900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสมจากการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านคอนโดใหม่ในเมืองและเมืองท่องเที่ยว ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมทุกโครงการ จากอานิสงส์การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในภูเก็ต อย่าง เดอะ เบส ไรส์ กวาดยอดขายแล้วกว่า 70% และ แคนวาส เชิงทะเล มีฟีดแบคดีมากจากลูกค้าต่างชาติ
“ความสำเร็จจากผลตอบรับในคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ของแสนสิริที่ดีในปีนี้ ล่าสุดบริษัทได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดโอนคอนโดมิเนียมในปี 2567 จากเดิมที่ตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 14,500 ล้านบาทเพิ่มขึ้นอีก 12% จากเป้าเดิม หลังมีผลงานโดดเด่นกวาดยอดโอนคอนโดเกินเป้าได้ในทุกไตรมาส รวมทั้งรอบ 10 เดือน นอกจากนี้แสนสิริยังเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และขับเคลื่อนความสำเร็จผ่านกลยุทธ์ธุรกิจในการรุกพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งใน Strategic Location ในเมืองและเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งกระจายพอร์ตโปรดักส์ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ทุกระดับราคา โดยเราศึกษาตลาดรอบด้านอย่างจริงจัง ทั้งด้านศักยภาพทำเล สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ตลอดจนดีมานด์ของลูกค้าในพื้นที่ เพื่อพัฒนาโครงการและออกแคมเปญการตลาดให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพโครงการและมาตรฐานบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นจุดแข็งและองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์ท้าทายในปัจจุบัน” นายองอาจ กล่าว
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี 2567-2568 ว่า ในปัจจุบันและแนวโน้มในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ตลาดคอนโดมิเนียมจะยังคงได้รับความนิยมค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่น เนื่องจากพฤติกรรมผู้ซื้อมีแนวโน้มให้ความสำคัญกับทำเล ทั้งความสะดวกต่อการเดินทาง และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงตลาดคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มากกว่า 80% อยู่ในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่กำลังซื้อกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลาง ถึงระดับล่าง สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ และมีราคาต่ำกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีขนาดใกล้เคียงกันในทำเลเดียวกัน ทั้งนี้ SCB EIC คาดว่าหน่วยโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2567 จะเป็นที่อยู่อาศัยประเภทเดียวที่สามารถทรงตัวได้ หรือหดตัวเพียงเล็กน้อย
นายองอาจ กล่าวว่า “ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ แสนสิริลุยต่อเนื่อง เปิดให้ชมห้องตัวอย่าง เดอะ เบส วงศ์สว่าง และเตรียมส่งมอบ ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง ภายใต้การร่วมทุนพัฒนาโครงการระหว่างแสนสิริและโตคิว ดีเวลลอปเม้นท์ (ประเทศไทย) พร้อมกับเปิดภาพ ดีคอนโด วิวิด รังสิต เป็นครั้งแรก และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 วางแผนเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระยะข้างหน้า ผ่านแผนการเปิดโครงการใหม่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ชั้นใน และชั้นกลาง รวมถึงภูเก็ต ชลบุรีและเชียงใหม่ พร้อมกับต่อยอดความสำเร็จกลยุทธ์ขยายพอร์ตสินค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการ”