กลุ่มวิมานสุริยาอัพเดทความคืบหน้า”Dusit Central Park” โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสระดับโลกมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท งานก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จกว่า 70% ไตรมาส 3 ปี 2568 เตรียมเปิดตัวศูนย์การค้า Central Park Retail และอาคารสำนักงาน Central Park Offices ระดับ Prestigious Class A ด้านโครงการที่อยู่อาศัย The Residences at Dusit Central Park ปิดยอดขายได้แล้วกว่า 85%ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ พร้อมเตรียมจัด Show Unit บนพื้นที่จริง โดย ‘Arkitektura’ และ ‘Euro Creations’ ในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า

นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park เปิดเผยว่า โครงการ Dusit Central Park นับเป็นโครงการ Super Core CBD ที่สามารถเชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ มากมาย และนับเป็น Luxury spot ที่มีการผสานกันอย่างลงตัว ทั้งภายในโครงการ ที่มีโรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และสำนักงาน โดยพื้นที่แต่ละส่วนสามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมดแบบ Seamless และเชื่อมต่อภายนอกอาคารกับการสัญจรได้ทั้ง BTS และ MRT โดยในปีนี้ได้เริ่มเปิดส่วนแรกของโครงการ Dusit Central Park ไปแล้ว คือ Dusit Thani Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ได้เปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมียอดเข้าพักและใช้บริการห้องจัดเลี้ยงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โรงแรมจะมีการเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 4 ส่วน ได้แก่ Cannubi by Umberto Bombana ร้านอาหารอิตาเลียนรูปแบบไฟน์ไดนิ่งแห่งแรกของเชฟ Umberto Bombana เชฟระดับตำนานเจ้าของมิชลิน 3 ดาว,Sky Lobby ชั้น 39 ที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯและสวนลุมพินี,Spire Rooftop Bar และ 1970 Bar ที่ผสานเสน่ห์บรรยากาศกลิ่นอายความหรูหราของยุค 70

สำหรับความคืบหน้าในส่วนของโครงการที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 85% โดยมีลูกค้าให้การตอบรับทั้งชาวไทยที่มสัด่าวนประมาณ 80%และชาวต่างชาติในสัดส่วน 20% เป็นผลมาจากการออกแบบดีไซน์ห้องชุดทุกยูนิตที่คำนึงทิศทางแสงและลม ส่งผลให้มีการถ่ายเทอากาศด้วยลมธรรมชาติ และทำให้ห้องเย็นไม่ร้อน พร้อมทั้งรูปแบบการดูแลในแบบฉบับ Thai Branded Residences ที่บริหารและดำเนินการโดยโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ทั้งนี้ตั้งเป้าจะปิดการขายห้องชุดในส่วนที่เหลืออีก 60 ยูนิตจากทั้งหมด 406 ยูนิตได้ภายในปี 2568 ราคาขายเริ่มต้นสำหรับห้องชุดแบบ 1ห้องนอนขนาด 55 ตารางเมตรอยู่ที่ 18 ล้านบาท ส่วนห้องเพนท์เฮาส์แบบ Simplex ขนาด 900 ตารางเมตรจำนวน 1ยูนิตยังไม่ได้ตั้งราคาขาย

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ยังได้เตรียมออกแบบห้องชุดพิเศษ Special Edition Show Residences จำนวน 3 ยูนิต ขนาด 55 ตารางเมตร,85 ตารางเมตร และ 115 ตารางเมตร ซึ่งได้ร่วมมือกับ ‘Arkitektura’ ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับลักชัวรี และ ‘Euro Creations’ ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรปแบบร่วมสมัย ด้วยแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเลือกได้ถึง 3 รูปแบบ ดังนี้
- Arkitektura พร้อมกับแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาที่มีคาแร็คเตอร์ที่โดดเด่น และแบรนด์สัญชาติอิตาลีที่มีความโดดเด่นด้านในการผสมผสานความ Modern และ Contemporary ผ่านการออกแบบผนังที่รวมดีไซน์และฟังก์ชั่นเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว
- Euro Creations สไตล์ Timeless Beauty จากดีไซน์เนอร์ชั้นนำจากยุโรป นำเสนอความพลิ้วไหวเหมือนสายน้ำและสายลมธรรมชาติ สวยงามเหนือกาลเวลา
นอกจากนี้โครงการ The Residences at Dusit Central Park ยังได้ดำเนินการก่อสร้างภายใต้เกณฑ์มาตรฐานรับรองอาคารเขียวระดับโลก LEED Gold V.4.1 Residence Multi-Family เพื่อเน้นย้ำความตั้งใจในการพัฒนาโครงการที่ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พักอาศัยเพื่อการใช้ชีวิตและสุขภาพที่ดี โดยจะเป็นอาคารที่พักอาศัยแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองนี้

ส่วนอีก 2 โครงการที่เตรียมจะเปิดตัวในปี 2568 คือ อาคารสํานักงาน Central Park Offices และ ศูนย์การค้า Central Park Retail ภายใต้การพัฒนาของพาร์ทเนอร์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดย Central Park Offices จำนวน 43 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย (Gross Building Area: GBA) 130,000 ตารางเมตร นับเป็นอาคาร Prestigious Class A ผ่านแนวคิด The Future Work/Life for Global Visionaries ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงานทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นคอมมูนิตี้ของคนทำงานและบริษัทชั้นนำทั้งในไทยและทั่วโลกให้มาอยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทต่างชาติ ด้วยการออกแบบ Flexible Design ที่รองรับธุรกิจผู้เช่าทุกขนาด พร้อมพื้นที่ Hybrid Workspace และยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่โรงแรมและศูนย์การค้าด้วย โดยอาคารสำนักงานรองรับเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวระดับโลก LEED Gold และ WELL Platinum มาตรฐานด้านคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยระดับสากล พร้อมทั้งได้รับมาตรฐาน WiredScore โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่ 3

สำหรับCentral Park Retail มีพื้นที่ใช้สอย (Gross Building Area: GBA) 130,000 ตารางเมตร มุ่งเน้นการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสาน Curated Experience เข้ากับ Park Life อีกทั้งได้นำ Essence ของ Heritage เดิมที่มีอัตลักษณ์สวยงามมาสะท้อนใน Architecture และ Interior Design รวมถึง Collaboration ร่วมกับแบรนด์ระดับโลก, Up-and-Coming Thai & International Designers รวมถึงพื้นที่ที่จะรองรับ Urban Active Lifestyles เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 3เช่นกัน

นอกจากนี้โครงการ Dusit Central Park ยังได้วางแนวทางการก่อสร้าง Sustainability Development ตั้งแต่แนวความคิดตลอดจนการเลือกสรรวัสดุก่อสร้างและนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ Green Concrete เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปได้ถึง 16 ตัน ระบบ Water Treatment ที่สามารถช่วยลดการปล่อยน้ำเสีย ระบบการกรองอากาศ HEPA Filter กรองอากาศภายในอาคารถึง 2 ชั้น เพื่อช่วยลดฝุ่น กระจกกรอบอาคารหนา 3 ชั้น ป้องกันแสง UV และความร้อน วัสดุผนัง พื้น ที่ดูดซับเสียง ลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ใช้งานอาคาร เป็นต้น เพื่อการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) และนิเวศเมือง (Urban Ecology) ผ่านพื้นที่สวนสาธารณะลอยฟ้าสีเขียว Roof Park ขนาด 7 ไร่ (11,200 ตารางเมตร) ภายใต้หลักการออกแบบ Universal Design เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และใช้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและสันทนาการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล





