แสนสิริ ปรับแผนยุทธศาสตร์ภูเก็ตครั้งใหญ่ 5 ปี ประกาศลงทุนเพิ่ม 10,000 ล้าน เปิด Head Office แห่งใหม่ใจกลางบางเทา – เชิงทะเล

เราจะสร้าง Head Office แห่งที่ 2 ต่อจากกรุงเทพฯ บนทำเล ภูเก็ต

จุดเริ่มต้นของการเดินหน้าพัฒนา “The Society” (เดอะ โซไซตี้) โซเชียล สเปซ แห่งแรกของแสนสิริในภูเก็ต ใจกลางย่านบางเทา – เชิงทะเล ที่ ช้าง – อุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หมายมั่นปั้นให้เป็น Head Office แห่งที่ 2 ของแสนสิริ ต่อจากกรุงเทพฯ ด้วยการเติบโตของยอดขายในพอตฟอริโอของแสนสิริ พื้นที่จังหวัดภูเก็ตสูงเป็นอันดับ 2 รองจากพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ถึงเวลาที่ ภูเก็ต จะต้องมี Head Office เพื่อรองรับการเติบโตและสร้างชื่อให้กับแสนสิริในอนาคตสู่การเป็น Global Lifestyle Brand

ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปี ที่ แสนสิริ เข้ามาพัฒนาโครงการบนทำเลภูเก็ตจนปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 26,000 ล้านบาท กว่า 27 โครงการ ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่ แสนสิริ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในหัวเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน กำหนดเป็น Strategic Location หรือพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ และได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภค

ปรับแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ลงทุนสูงถึง 25,000 ล้านบาท

ในช่วงปลายปี 2566 แสนสิริ ประกาศยุทธศาสตร์ลงทุนภูเก็ต 5 ปี (ปี 2566 – ปี 2570) ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท สู่การปรับแผนครั้งใหญ่ด้วยการประกาศการลงทุนเพิ่ม อีก 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยุทธศาสตร์ 5 ปี ของแสนสิริเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นยุทธศาสตร์ใหม่ของแสนสิริภายใน 5 ปี (ปี 2568 – 2572)

ประกาศ ลงทุน 25,000 ล้านบาท เปิดตัวโครงการใหม่ 27 โครงการ

ทั้งหมดเกิดจากแนวคิดและมองเห็นถึงการเติบโตของจังหวัดภูเก็ตซึ่ง ช้าง – อุทัย อุทัยแสงสุข ได้รีวิวแผนและมั่นใจในศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต เป็นอย่างมาก รวมทั้งนโยบายของภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การขนส่ง และศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งชายฝั่งทะเลอันดามัน จากแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ อาทิ Seaplane Terminal, ท่าอากาศยานอันดามัน การขยายสนามบินภูเก็ต และการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อรองรับ Cruise Terminal จะทำให้ แสนสิริ ลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับและสร้างโอกาสการเติบโตในอนาคต

“ไหนๆเราก็มี  Head Office ที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว เราจะเร่งสปีดขึ้นมาจาก 13 ปี ที่มีโครงการทั้งหมด 27 โครงการ เป็นภายใน 5 ปี ข้างหน้าต่อจากนี้ จะมีโครงการใหม่เพิ่มอีก 27 โครงการ เพราะมั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต” อุทัย กล่าว

โดยแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของแสนสิริ ต่อจากนี้นั้น จะพัฒนาโครงการแนวราบ 16 โครงการ และ คอนโดมิเนียม 11 โครงการ ซึ่งในปี 2567 เปิดตัวแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. แคนวาส เชิงทะเล – CANVAS Cherngtalay คอนโดมิเนียม Lowrise ความสูง 7 ชั้น 5 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ จำนวน 175 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท

2. เดอะ เทลส์ สตอรี่ วัน – บางโจ – THE TALES STORY ONE – BANGJO ลักซ์ชัวรี พูลวิลล่าย่านเชิงทะเล ใกล้หาดบางเทา บนพื้นที่โครงการประมาณ 7 ไร่ จำนวน 13 ยูนิต ขนาดที่ดินตั้งแต่ 133.1 – 186.8 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 329 – 532.4 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 45 ล้านบาท

3. สราญสิริ เกาะแก้ว รีทรีต บ้านเดี่ยวภูเก็ต สไตล์โมเดิร์นใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท

4. เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต ในพื้นที่อำเภอเมือง พื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ จำนวน 2 อาคารความสูง 8 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท

“The Society” Head Office ใหม่ของแสนสิริบนเกาะภูเก็ต

The Society โซเชียล สเปซ แห่งแรกของแสนสิริในภูเก็ต ใจกลางย่านเชิงทะเล-บางเทา ใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างพื้นที่คอนเน็คเมืองท่องเที่ยวระดับโลก วัฒนธรรมนานาชาติที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ท้องถิ่น รวมถึงเอ็นเนอร์จี้และสีสันของเกาะภูเก็ต ทั้งเมือง ชายหาด ให้เป็นที่ประจักษ์กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สอดคล้องตามแนวคิด CONNECT + INSPIRE ที่แสนสิริ ชวนค้นพบแรงบันดาลใจไม่รู้จบผ่านเรื่องราวของผู้คนที่หลากหลาย ผสานความเป็นผู้นำด้านดีไซน์ของแสนสิริ (Design Leader) กับประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 40 ปี พร้อมมุ่งสู่การเป็น Global Lifestyle Brand แบรนด์ระดับสากลอย่างเต็มภาคภูมิ ร่วมเป็นแรงหนุน ผลักดัน “Soft Power” ของภูเก็ต ที่จะนำเข้ามาผสมผสานใน The Society เพื่อให้ชาวต่างชาติรู้จักและเติบโตคู่กันไปอย่างยั่งยืน รวมทั้งมองไกลถึงร่วมผลักดันครอบคลุมไปถึงวัฒนธรรมทางภาคใต้อีก

The Society ออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอก (Architecture & Landscape design) โดยทีมดีไซเนอร์ของ Edward Tuttle ถ่ายทอดการออกแบบในสไตล์ระดับเวิลด์คลาสของ Edward Tuttle ที่ The Society ให้บรรยากาศอบอุ่นฟีลเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ไม่ว่าจะทำงาน ทานอาหาร หรือสังสรรค์ ออกแบบและตกแต่งสเปซทั้งภายในและภายนอกด้วยวัสดุไม้ธรรมชาติ ให้ทุกพื้นที่ตอบรับกับฟังก์ชั่นการ ใช้งานอย่างมีสไตล์ เชื่อมต่อ 2 อาคาร ด้วยสวนขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง creativity, inspiring และconnection ร่วมกัน ตั้งแต่ grand living area พื้นที่ต้อนรับกับมาสเตอร์พีซเฟอร์นิเจอร์ชิ้น ไอคอนิกอย่าง Cocoon by Louis Vuitton ในคอลเล็กชั่นพิเศษ Objets Nomades ออกแบบโดยสองดีไซเนอร์ชื่อดัง Fernando และ Humberto Campana และเก้าอี้ Amanta armchairs by Mario Bellini for C&b Italia 1960s เสริม กลิ่นอายของ mid-century อย่างมีระดับในบรรยากาศสบายๆและลงตัว จึงเป็น Day-to-Night Eatery ที่โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเมืองภูเก็ต

อีกทั้งยังมีร้านกาแฟชื่อดัง BEANS Coffee Roaster ร้านกาแฟ specialty และ ร้านอาหารสเปน VAMOS Spanish Tapas Bar เอาใจทั้งนักท่องเที่ยวและสายฟู้ดดี้ตลอดวัน พร้อมพื้นที่ Co-sharing space พื้นที่ทำงาน ประชุมส่วนตัว และ podcast room นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ตลอดทั้งปี รวมถึงยังเป็นพื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างและ Sales Gallery รองรับลูกค้าแบบไพรเวท กับ 2 โครงการใหม่ล่าสุด ได้แก่ CANVAS Cherngtalay (แคนวาส เชิงทะเล) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ สไตล์รีสอร์ท เฉพาะภูเก็ต มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้าน ตอบโจทย์บ้านหลังที่ 2 พร้อมไฮไลท์ห้อง Penthouse พร้อม Private Rooftop และ THE TALES ลักซ์ชัวรี่ พูลวิลล่า ใน Sansiri Pool Villa Collection in Phuket กับ THE TALES STORY ONE – BANGJO (เดอะ เทลส์ สตอรี่ วัน – บางโจ) มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท พร้อมข้อมูลอื่นๆ ของทุกโครงการแสนสิริในภูเก็ต

และที่สำคัญ The Society ยังพร้อมไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ รองรับการประชุมกับ ห้องประชุมส่วนตัว และWi-Fi เอาใจสาย digital nomad นั่งทำงานได้ชิลล์ๆ, Garden Zone โซนสวนด้านนอก พื้นที่สำหรับกิจกรรมหรือเวิร์กช็อปตลอดทั้งปี และ Podcast room ที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจใหม่ แนวคิดใหม่ๆ ให้กับการทำงาน และเพลิดเพลินกับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ตลอดทั้งปีจากแสนสิริ ที่สับเปลี่ยนมาให้ทุกคนได้จอยๆ กัน ทำความรู้จักกันกับเพื่อนใหม่ พบแรงบันดาลใจใหม่ๆ ทั้งงานนิทรรศการ หรืออีเวนท์ต่างๆ

ประกาศตัวเป็น “เขยภูเก็ต” สู่ 13 ปี ของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน

“ในช่วงแรกๆที่ แสนสิริ เข้ามาพัฒนาโครงการบนเกาะภูเก็ต
เราประกาศ ว่า ‘แสนสิริจะมาเป็นเขยภูเก็ต’
เราไม่ได้มาเพื่อแค่ตีงูแล้วก็กลับบ้าน
แต่เราจะมาอยู่ระยะยาว…จนตอนนี้เราอยู่มาแล้ว 13 ปี”

การมาของแสนสิริในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่เพียงแต่เข้ามาเพื่อพัฒนาโครงการเท่านั้น แต่แสนสิริยังร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน คำประกาศของ ช้าง-อุทัย อุทัยแสนสุข ถึงการเข้ามาเป็นเขยภูเก็ตเพื่อร่วมพัฒนาและเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเน้นแนวคิดที่ลดการใช้พลังงาน ใช้วัสดุท้องถิ่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับบริบทโดยรอบ รวมถึงการจัดการสภาพแวดล้อมที่ดี มีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องการจัดการขยะและการจัดการน้ำเสีย และในด้านสังคม แสนสิริ นำเอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆ มาผสานในการออกแบบโครงการเพื่อ เพิ่มมูลค่าและสร้างอาชีพ หนึ่งในนั้นคือ ชุดพนักงานแสนสิริ ที่ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนตำบลกมลา ใช้ผ้ามัดย้อมซาโน ติก (อนุสรณ์สึนามิ กมลา) มาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของเสื้อ รวมถึงมุ่งมั่นร่วมสืบสานประเพณีสำคัญระดับโลกอย่าง ประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูเก็ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ตลอดจนส่งเสริมเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพผ่านโครงการ Sansiri Academy สร้างทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่กว่า 5,000 คน ให้สามารถพัฒนาเป็น นักเตะมืออาชีพได้ในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กที่ภูเก็ต โดยการพาอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไปร่วมลงพื้นที่ถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็กๆ

ภูเก็ตที่กลายเป็นตลาดท่องเที่ยวระดับพันล้านดอลลาร์เทียบเคียงกับเมืองท่องเที่ยวระดับแนวหน้าอย่างไมอามี่และดูไบ ส่งผลต่อความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยว ทั้งเพื่ออยู่อาศัย พักผ่อน และลงทุน รวมทั้งทำให้เกิดการพัฒนาโครงการระดับ Branded Residences จำนวนมาก ทำให้วันนี้ แสนสิริ ปรับแผนยุทธศาสตร์การลงทุนครั้งใหม่ที่มีมูลค่าสูงถึง 25,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และหวังว่า The Society จะเป็น Head Office ของแสนสิริที่สร้างชื่อให้เป็น Global Lifestyle Brand ที่นักท่องเที่ยวรู้จักเป็นอย่างดี กว่า 13 ปี ไม่เพียงมาเพื่อแค่พัฒนาแต่ร่วมเป็นส่วนหนึงของชุมชนอย่างยั่งยืน

โพสที่เกี่ยวข้อง