แค๊ปสโตน แอสเสทเปิดตัวคอนโดฯหรู ‘เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา’มูลค่า 3.4 พันล้าน อาคารสูง7ชั้น 3อาคารรวมห้องพัก 408 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาทสำหรับห้องชุดแบบ 1ห้องนอนเริ่มต้น 45 ตารางเมตร พร้อมเตรียมเปิดตัวโรงแรมแบรนด์หรูและพื้นที่เชิงพาณิชย์บนพื้นที่ 2 ไร่ทำเลติดกับโครงการเพย์ลาจำนวน 170 ห้อง และโปรเจ็กต์ Mixed use บนที่ดินขนาด 23 ไร่ริมหาดนาใต้ ออกแบบเป็นโรงแรมระดับ 5ดาว แถมเตรียมบุกตลาดคอนโดฯไฮไรส์ระดับลักชัวรีพื้นที่ซีบีดีย่านเพลินจิต ชิดลม วิทยุ และต้นสน ขนาดที่ดินประมาณ 2ไร่
นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเน้นนโยบายการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบลงทุนเองหรือร่วมทุน และเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการ โดยที่ผ่านมามีการลงทุนครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ คอมมูนิตี้มอลล์ และโรงแรม อาทิ โครงการต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ คอนโดฯไฮไรส์จำนวน 80 ยูนิต ที่ปิดการขายไปแล้ว บ้านแนวราบแบรนด์ Quarter จำนวน 3โครงการในย่านสุขุมวิท โครงการแคนวาส เพลินจิต พัฒนาเป็นออฟฟิศและรีเทลสูง 6ชั้น มีอัตราการเช่าพื้นที่แล้ว 90% หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่ววงต้นปีที่ผ่านมา และโรงแรมระดับ 5ดาวแบรนด์ Kimpton Kitalay สมุย เป็นต้น
ล่าสุดกลุ่มแค็ปสโตน แอสเสท ได้เปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ “เพย์ลา ภูเก็ต บางเทา” มูลค่า3,400ล้านบาท บนที่ดินเกือบ10ไร่ ตั้งอยู่ในย่านหาดบางเทา ใกล้กับศูนย์การค้าโบ๊ท อเวนิว พัฒนาเป็นคอนโดฯโลว์ไรส์7ชั้น 3อาคารรวมห้องพักทั้งหมด 408 ยูนิต โดยมีการออกแบบให้ทั้ง 3 อาคารล้อมรอบลานกว้างขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด
ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล ผสมผสานกับการตกแต่งภายในสไตล์โคสตัล ชิค ประกอบด้วย ห้องชุดดแบบ 1 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 45 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอนขนาด 82 ตรางเมตรและ 90 ตารางเมตร และห้องพิเศษแบบคอมไบน์ 3 ห้องนอน ขนาด 127 ตารางเมตร ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ราคาขายเริ่มต้น 5.5 ล้านบาทหรือราคาขายเฉลี่ย 140,000 บาทต่อตารางเมตรมีกำหนดเปิดขายล่วงหน้าวันที่ 9 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนสำนักงานขายจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2568 ด้านงานก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มช่วงกลางปี2568 และแล้วเสร็จกลางปี 2570
โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุนปล่อยเช่าทั้งคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 25ปีขึ้นไป และกลุ่มลูกค้าต่างชาติ อาทิ ยุโรป อเมิริกา รัสเซีย และจีน
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมทั้งการใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ ประกอบด้วย เลาจน์ต้อนรับ สระว่ายน้ำขนาด 25 เมตรจำนวน 3 สระ สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ครบ พร้อมทั้งเวทีมวย สตูดิโอโยคะและพิลาทิส อ่างแช่น้ำแข็ง สนามเทนนิส พื้นที่บาร์บีคิวพร้อมที่นั่งกลางแจ้ง โคเวิร์คกิ้งสเปซ ห้องสมุด สนามเด็กเล่น และศาลาอเนกประสงค์สำหรับจัดงานส่วนตัว นอกจากนี้โครงการยังมีบริการรถรับส่งไปยังสถานที่ใกล้เคียง และมีที่จอดรถทั้งในร่มและกลางแจ้งรองรับได้ถึง 204 คัน คิดเป็น 50% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด รวมถึงยังมีที่จอดรถจักรยานยนต์จำนวน 55 คัน
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะพัฒนาโรงแรมแบรนด์ระดับบนและพื้นที่เชิงพาณิชย์บนพื้นที่ขนาดประมาณ 2 ไร่ (3,200 ตารางเมตร) ที่อยู่ติดกับโครงการเพย์ลาจำนวน 170 ห้อง รวมทั้งวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ในรูปแบบ Mixed use บนที่ดินขนาด 23 ไร่ริมหาดนาใต้ จังหวัดพังงา เบื้องต้นจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 5ดาวแบบ Luxury Lifestyle Hotel มูลค่า 1.000 ล้านบาท อัตราค่าเช่าเฉลี่ยคืนละ 14,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ร่วมทุนในเมืองไทย
รวมทั้งวางแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมไฮไรส์ระดับลักชัวรีสูง 30 ชั้นขึ้นไปพร้อมพื้นที่รีเทลในพื้นที่กรุงเทพฯเพิ่มอีก 1โครงการ โดยสนใจการลงทุนในพื้นที่ย่านเพลินจิต ชิดลม วิทยุ และต้นสน ขนาดพื้นที่ประมาณ 2ไร่
นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าสิ้นไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเกาะภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่า 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มชาวรัสเซีย จีน อินเดีย คาซัคสถาน และเยอรมัน ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรม ณ ครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 71.5% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ด้วยเหตุนี้ทำให้ตลาดบ้านพักตากอากาศมีการเติบโตที่สูงขึ้น โดยมียอดขายของทั้งปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่า 150% เมื่อเทียบกับปี 2565 ถือว่าเป็นสถิติยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะภูเก็ต ทั้งนี้เมื่อเทียบยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2567 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 142% ซึ่งมีสาเหตุมาจากอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่แข็งแกร่งในอดีต อัตราการเข้าพักโรงแรมที่สูง และมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งเสริมให้เกาะภูเก็ตมีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายของการลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง
ขณะเดียวกันเมืองภูเก็ตยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนาชาติชื่อดังหลากหลายชื่อ โดยปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติเปิดการเรียนการสอนอยู่ทั้งหมด 16 แห่ง เพิ่มขึ้น 45%จากปี 2562 ที่มีจำนวน 11แห่ง ส่วนนักเรียนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น16%จากปี 2566