กลุ่มเพอร์เฟค-แกรนด์ แอสเสทฯเดินหน้าลดหนี้ต่อเนื่องอีก8พันล้านบาทเสริมแกร่งทางการเงิน

กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และแกรนด์ แอสเสทฯ เผยแผนลดหนี้เสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน ปี 2567 ลดภาระหนี้ได้แล้ว 8,000 ล้านบาท ส่วนปี 2568 เดินหน้าลดหนี้ต่อเนื่องอีก 8,000 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำสุดในรอบ10ปี พร้อมเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุน เตรียมรับคืนเงินลงทุนจากการร่วมทุน 4,000 ล้านบาทภายใน 2 ปี ด้านทิศทางปี 2568 เล็งร่วมมือพันธมิตรรายใหม่ลงทุนต่อยอดในธุรกิจอสังหาฯ

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และแกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ วางเป้าหมายในการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่ง ทั้งการลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง เร่งสร้างยอดขาย รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยกลุ่มบริษัทมีแผนลดภาระหนี้รวม 16,000 ล้านบาท ปีนี้สามารถลดภาระหนี้ลงได้แล้ว 8,000 ล้านบาท จากการขายโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท และชำระคืนหุ้นกู้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ยังตั้งเป้าจะลดหนี้ลงอย่างต่อเนื่องอีก 8,000 ล้านบาท เป็นของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 3,000 ล้านบาท และแกรนด์ แอสเสทฯ 5,000 ล้านบาท ทั้งจากการขายที่ดินและเงินลงทุน ร่วมทุน และการชำระคืนหุ้นกู้

ทั้งนี้การลดภาระหนี้ลงตามแผนจะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้ถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนทางการเงินครั้งใหญ่ของกลุ่มบริษัท และยังทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง มีสภาพคล่องทางการเงินสูงขึ้น ที่สำคัญยังมีผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกลุ่มบริษัทลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ

พร้อมกันนี้ยังเร่งสร้างรายได้จากโครงการร่วมทุน ซึ่งกลุ่มบริษัทได้เปิดตัวโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรชั้นนำจากต่างประเทศ 3 รายมาตั้งแต่ปี 2561และประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีในการสร้างความแตกต่างให้กับตลาดที่อยู่อาศัยด้วยมาตรฐานระดับสากล  โดยในปี 2568–2569 กลุ่มบริษัทยังจะได้รับคืนเงินลงทุนและ Shareholder Loan จากโครงการร่วมทุนเป็นจำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและกระแสเงินสดให้กับกลุ่มบริษัท

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีการพัฒนาโครงการร่วมทุนทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม คิดเป็นมูลค่าโครงการรวม 27,950 ล้านบาท ทั้งการร่วมทุนกับ“ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ผู้นำในธุรกิจป่าไม้และก่อสร้างบ้านจากประเทศญี่ปุ่น ในโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” มูลค่า 6,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายโครงการได้ในปี 2569 และโครงการบ้านเดี่ยว “เลค ฟอเรสต์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่” มูลค่า 4,450 ล้านบาท นอกจากนี้ยังโครงการร่วมทุนกับ “ฮ่องกง แลนด์” ในโครงการ “เลค เลเจ้นด์” บ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ริมทะเลสาบใน 2 ทำเล คือ แจ้งวัฒนะ และบางนา-สุวรรณภูมิ รวมมูลค่า 13,870 ล้านบาท  และกลุ่ม“เซกิซุย เคมิคอล” ผู้นำในตลาดรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น พัฒนาบ้านนวัตกรรมที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์ ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 5 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา,รามคำแหง,สุขุมวิท,รัตนาธิเบศร์ และแจ้งวัฒนะ มูลค่ารวม 3,430 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้ง 5 ทำเลได้ในช่วงกลางปีหน้า

สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2568 กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพและโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งจากการเปิดโครงการใหม่ การเพิ่มยอดขายจากกลุ่มโครงการลักชัวรี่ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยมีแผนพัฒนาโครงการภายใต้คอนเซ็ปท์ใหม่เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าในเซกเมนต์ระดับบน อีกทั้งยังจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ร่วมลงทุนต่อยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ

โพสที่เกี่ยวข้อง